บอร์ด
กระทู้: “เห็ดชิตาเกะ”เห็ดหอมคู่บ้านมากคุณประโยชน์

“เห็ดชิตาเกะ”เห็ดหอมคู่บ้านมากคุณประโยชน์

         เห็ดหอม (Shiitake) บริเวณหมวกเห็ดจะมีลักษณะกลม ตรงผิวของหมวกเห็ดจะมีสีน้ำตาลอ่อนจนถึงสีน้ำตาลเข้ม หรือน้ำตาลอมแดง โดยมีขนที่รวมกันเป็นลักษณะเกล็ดสีขาวหยาบๆ กระจายอยู่บนหมวกเห็ด ส่วนบริเวณครีบเมื่ออ่อนจะเป็นแผ่นสีขาวบางๆ แต่เมื่อแก่ก็จะเปลี่ยนเป็นสีเข้มทันที มีก้านดอกและโคนก้านดอกสีน้ำตาลอ่อนๆ หรือขาว ส่วนเนื้อของเห็ดหอมจะนุ่ม เป็นที่นิยมมากในประเทศจีนและญี่ปุ่น นิยมนำเห็ดนี้มาประกอบอาหาร รับประทานอร่อย และมีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ที่เฉพาะตัวของเห็ดหอม เนื่องจากมีความเชื่อมาแต่บรรพบุรุษว่า เห็ดชิตาเกะเป็นยาอายุวัฒนะ รับประทานแล้วอายุยืน ทำให้ร่างกายแข็งแรงปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ

        เห็ดชิตาเกะอุดมไปด้วยวิตามินบีรวม อาทิ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 12 วิตามินดี และกรดแพนโททีนิค (Pantothenic) นอกจากนี้แล้วยังมีโปรตีน เอนไซม์ กรดอะมิโนที่จำเป็นอีก 8 ชนิด และสารเลนทิแนน (lentinan) ซึ่งช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ระบบภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพในการต่อสู้ยับยั้งหรือป้องกันการเติบโตของเซลล์ นับว่าเป็นเห็ดที่มีคุณค่าต่อทางโภชนาการมาก ชาวจีนและญี่ปุ่นเชื่อว่าเห็ดหอม หรือชิตาเกะ เป็นเห็ดบำรุงกำลัง เพิ่มการไหลเวียนโลหิต บำรุงกระดูก และเป็นยาอายุวัฒนะ

        ในทางการแพทย์ของจีนได้นำเอาเห็ดชิตาเกะปรุงทำยาบำรุงเพื่อทำให้เลือดลมดี รักษาโรคหวัด โรคหัวใจ และมีผลงานวิจัยหลาย ๆ ชิ้นต่อมาว่า เห็ดชิตาเกะสามารถรักษาโรคร้ายหลาย ๆ โรคได้ เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคเอดส์ โรคอ้วน ความดันโลหิตสูง เป็นต้น ส่วนนักวิจัยชาวอเมริกันเชื่อว่า เห็ดชิตาเกะสามารถลดระดับคอเลสเตอรอลรักษาระดับความดันโลหิตให้คงที่ รักษาโรคไขข้อได้ด้วย

        ในเห็ดชิตาเกะมีสารเลนทิแนน (lentinan) และโพลีแซคคาไรด์ (polysaccharide) ที่พบมากในรากและต้นของเห็ด มีประโยชน์ต่อการกระตุ้นทำงานของระบบภูมิต้านทานร่างกาย และผลิต T-lymphocytes และ Interleukin ซึ่งเป็นตัวยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งและไวรัส ดร.ชิฮาระ นักวิจัยชาวญี่ปุ่นได้ทำการทดลองใช้เห็ดชิตาเกะแก่ผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็ง ทั้งมะเร็งที่ช่องท้อง มะเร็งลำไส้ และมะเร็งเต้านม ผลการวิจัยพบว่าเชื้อมะเร็งไม่ลุกลามมากไปกว่าเดิม และช่วยยืดอายุให้แก่ผู้ป่วยด้วย

        เนื่องจากเห็ดชิตาเกะขึ้นว่าเป็นยาอายุวัฒนะ รักษาโรคร้ายได้หลายโรค จึงทำให้เห็ดชิตาเกะกลายเป็นที่นิยมรับประทานกันอย่างแพร่หลาย เห็ดชิตาเกะสามารถรับประทานได้แบบดอกสด นำไปใส่ในแกงจืด ผัดผัก เป็นต้น นอกจากนี้แล้วเห็ดชิตาเกะยังมีการจัดจำหน่ายในแบบอบดอกแห้ง หรือสารสกัดอาหารเสริมทั้งเม็ดและแคปซูล เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ที่รักสุขภาพ

        การรับประทานเห็ดชิตาเกะอบแห้ง ควรรับประทาน 5-15 กรัมต่อวัน ส่วนเห็ดชิตาเกะสด ควรรับประทาน 90 กรัมต่อวัน แต่ทั้งนี้เห็ดชิตาเกะยิ่งดอกใหญ่และแตกลายงามมาก จะยิ่งมีราคาแพงมาก

        ส่วนเรื่องผลข้างเคียงหรืออาการเป็นพิษ ยังไม่มีรายงานว่ามีอันตราย แต่บางรายที่รับประทานมากเกินขนาด อาจมีอาการท้องร่วง หรือระคายเคืองกระเพาะ สำหรับสตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยง

ขอบคุณข้อมูลจาก prayod เกร็ดความรู้

www.qvitz.com

2 ส.ค. 59 เวลา 10:39 403
โพสต์โดย

scqvitz


คนดู