บอร์ด
กระทู้: นมสด vs นมพร่องมันเนย คัดสรร 4 สาระที่ควรรู้เกียวกับนมทั้งสองประเภท

 

 

ในบรรดาผลิตภัณฑ์จากนมที่มีขายอยู่ตามท้องตลาดทั่วไป เราเชื่อว่าสิ่งที่หลายคนมักจะสงสัยกันมากที่สุดเกี่ยวกับสินค้าประเภทดังกล่าว ได้แก่ข้อแตกต่างระหว่างนมสดและนมพร่องมันเนย ถึงแม้ว่าเราจะทราบกันดีอยู่แล้วว่านมทั้งสองชนิดนี้มีรสชาติที่ต่างกัน แต่อย่างไรก็ตามทุกคนรู้ไหมความแตกต่างระหว่างนมสดและนมพร่องมันเนยนั้นไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องนี้เพียงอย่างเดียว เพราะในความเป็นจริง สารอาหารที่เราจะได้รับจากนมทั้งสองชนิดนี้ต่างก็มีรายละเอียดปลีกย่อยที่ไม่เหมือนกัน และเพื่อเป็นการพาทุกคนไปไขข้องใจต่างๆ นานา เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว วันนี้เราจึงได้รวบรวมสาระน่ารู้เกี่ยวกับเรื่องนมๆ มาฝากทุกคนกัน ส่วนรายละเอียดทั้งหมดจะเป็นยังไง ลองตามไปดูกันเลย

 

นมสดและนมพร่องมันเนยคืออะไร

ก่อนที่เราจะพาทุกคนไปค้นหาคำตอบกันแบบเจาะลึก สิ่งแรกที่เราจำเป็นต้องทำความเข้าใจกันก่อนเลยก็คือความหมายของนมทั้งสองประเภท โดยนมสดนั้นหมายถึงนมที่ได้จากเต้าวัวโดยปราศจากการกรรมวิธีแยกไขมัน แต่ในขณะที่นมพร่องมันเนยคือนมที่เกิดจากการนำเอามันเนยบางส่วนออกไป

 

เลือกดื่มแบบไหนถึงจะไม่อ้วน

ทุกคนรู้ไหมว่าการรับไขมันจากนมสดนั้นแทบไม่มีผลต่อการทำให้อ้วนขึ้นเลย มิหนำซ้ำสารอาหารต่างๆ เหล่านี้ยังมีคุณค่าทางโภชนาการที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของร่างกายและสมองของเด็กไปจนถึงผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปีอีกด้วย พอถึงตรงนี้หลายคนคงจะร้องอ้าวพร้อมกับสงสัยว่าแล้วนมพร่องมันเนยมีประโยชน์ยังไง? ซึ่งเราขอตอบกันตรงนี้ก่อนเลยว่ามี เพราะด้วยปัจจัยที่นมประเภทนี้มีไขมันน้อยจึงทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการไขมันอุดตันในเส้นเลือดรวมไปถึงผู้สูงอายุที่ต้องการเพิ่มแคลเซียมและสารอาหารที่จำเป็นให้กับร่างกาย

 

พร่องมันเนยมีโปรตีนและแคลเซียมมากกว่า

ถึงแม้นมประเภทนี้จะมีโปรตีนและแคลเซียมมากว่านมทั่วไป แต่หลังจากที่เรารับประทานไปแล้ว ร่างกายจะดูดซับสารอาหารดังกล่าวได้ไม่มาก เนื่องจากพร่องมันเนยเป็นนมที่มีไขมันซึ่งเป็นตัวกลางในการลำเลียงสารอาหารเข้าสู่ร่างกายน้อยกว่านมสด

 

เคล็ดลับการดื่มนมพร่องมันเนย

เนื่องจากพร่องมันเนยเป็นนมที่ผู้ผลิตได้นำไขมันบางส่วนออกไป ดังนั้นจึงทำให้มีสารอาหารและความหนืดน้อยกว่านมสด 100% และเพื่อเป็นการรักษาสภาพและรสชาติของนมประเภทนี้ให้ใกล้เคียงกับนมสดมากที่สุด ทางผู้ผลิตจึงเลือกที่จะผสมสารให้ความหวานลงไปเพื่อทำให้น้ำนมมีความหนืดมากยิ่งขึ้น ในเมื่อนมประเภทดังกล่าวมีการผสมน้ำตาลลงไปแบบนี้ ทางที่ดีเราจึงอยากแนะนำให้ทุกคนพยายามดื่มในปริมาณ 3 แก้วต่อวัน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวาน

 

ก่อนจากกันไปเราอยากจะบอกทุกคนว่าจริงๆ แล้วนมทั้งสองประเภทนี้ต่างก็มีประโยชน์กับร่างกายเหมือนกัน แต่สิ่งที่เราควรทำก็คือการเลือกประเภทของนมให้สอดคล้องกับร่างกายเพื่อให้เราได้รับสารอาหารที่จำเป็นโดยไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง

24 พ.ย. 63 เวลา 18:35 401