จากข่าวเศรษฐกิจรายวันช่วงนี้บวกกับข่าวการเปิดประเทศล่าสุดที่หมอทวีศิลป์ออกมาแจ้ง คงมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยแน่นอน สำหรับเราที่เป็นประชาชนคนธรรมดาหาเช้ากินค่ำก็พอรับรู้ได้ว่าศึกครั้งนี้หนักหนาสาหัสแค่ไหนโดยเฉพาะคนที่ทำงานในธุรกิจที่ต้องพึ่งพาการท่องเที่ยว พ่อค้าแม่ค้า แท๊กซี่ งานบริการต่างๆ (อันนี้พูดถึงรากหญ้าเลยนะอย่ามองแค่นายทุน) ส่วนตัวเรามองว่า “ถ้าเราไม่เอากำลังการซื้อของนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเศรษฐกิจของประเทศเราหายนะเต็มรูปแบบและแก้ยากแน่นอน”
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะมีการกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ ทั้งแจกเงินให้เที่ยว เพิ่มวันหยุดให้ ทำสารพัดวิธีที่จะให้คนในประเทศช่วยเหลือกันเองเบื้องต้น มันก็ยังไม่เพียงพอ โดยปกติกำลังการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยวไทย ไม่ได้หนักหน่วงเหมือนนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่แล้ว ยิ่งหลายๆ คนในตอนนี้ที่เจอพิษเศรษฐกิจเข้าไป โดนลดเงินเดือน โชคร้ายหน่อย ขายของไม่ได้ ต้องโดนให้ออกจากงาน คนบางกลุ่มที่มีกำลังเที่ยว ก็ไม่ได้มีกำลังใช้จ่ายมากนัก ส่วนใหญ่ก็จะเลือกเที่ยวใกล้ๆ มีงบประมาณจำกัด เหมือนไปเที่ยวให้พอชีวิตผ่อนคลายแล้วก็กลับมาสู้ชีวิตกันใหม่ หลายคนได้วันหยุดมาเพื่อมานั่งอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมดูคนอื่นไปเที่ยวกันเพราะไม่มีเงินแบบนี้ได้ออกไปทำงานยังจะเครียดน้อยกว่าเดิม.. นั่นจึงเป็นที่มาว่าทำไมจึงต้องเปิดประเทศนำนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาให้ได้โดยเร็ววัน
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน เปิดเผยว่า ที่ประชุมศบค.อนุมัติหลักการความคืบหน้าการอนุญาตให้บุคคลเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร โดยอาศัยอำนาจ ตามข้อ 3 ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 ฉบับที่ 13 มีทั้งหมด 6 กลุ่ม
1.นักกีฬาต่างชาติ ที่จะเข้าร่วมการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ (วันที่ 6-16 ต.ค. 2563)
2.นักบินและลูกเรือบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ใน Repatriation Flight
3.ผู้ถือวีซ่าประเภทคนอยู่ชั่วคราว (Non Immigrant) ประเภทต่างๆ เน้นเฉพาะนักธุรกิจที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานในประเภทต่างๆ พร้อมแสดงสำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือนติดต่อกัน ไม่น้อยกว่า 500,000 บาท
4.ผู้ถือวีซ่าท่องเที่ยวสำหรับกลุ่ม Long Stay มีการตรวจลงตราประเภท Special Tourist Visa
5.ผู้ถือบัตร APEC Card โดยเลือกประเทศที่มีความเสี่ยงน้อย เช่น ประเทศนิวซีแลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ประเทศสิงคโปร์ เป็นต้น
6.ผู้ที่ประสงค์จะพำนักในประเทศไทยในระยะสั้นและระยะยาว ผู้ที่มีความต้องการที่จะพำนัก 60 วัน สามารถขอต่อได้อีก 30 วัน พร้อมแสดงสำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือนติดต่อกัน ไม่น้อยกว่า 500,000 บาท
ถึงแม้ว่า มาตรการการเปิดประเทศให้ต่างชาติเข้ามาแต่ก็ยังสร้างความกังวลให้กับประชาชนกลุ่มอื่นๆ อีกไม่น้อย สิ่งทำให้เป็นแบบนี้อาจจะเป็นเพราะรัฐขาดการสื่อสาร ขาดการขยายความเกี่ยวกับมาตรการต่างๆ ให้ชัดเจนและเข้มงวด
ดูได้จากเมื่อช่วงกลางเดือนกันยาที่ผ่านมา ที่ได้มีการเปิดนักท่องเที่ยวต่างประเทศ นักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ Special Tourist VISA (STV) โดยที่มีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว คาดว่าเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม จึงทำให้เกิดกระแสออกไปหลายด้าน ส่วนที่เข้าใจว่าทำไมต้องเปิดก็มี แต่ส่วนใหญ่แล้วก็ยังคงกังวลกับการเข้ามาของ นนท. ต่างชาติ
ดังนั้นรัฐอาจจะต้องอธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับประเทศไทย ถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวที่เริ่มจะย่ำแย่มาตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน ที่ไม่มีนักท่องเที่ยวจากต่างชาติเดินทางเข้ามาประเทศเลย จนถึงปัจจุบัน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวก็ส่งผลให้เศรษฐกิจของไทยดิ่งอย่างแรง มีนักวิเคราะห์ นักวิชาการ สถาบันต่างๆ ออกมาบอกว่าการท่องเที่ยวจะกลับไปคึกคักดั่งเดิมก็กินเวลา 3-4 ปี ทางรอดของประเทศนี้ จึงขึ้นอยู่กับการเปิดประเทศเท่านั้น
ที่มา https://thestandard.co/stv-tourists/
สำหรับการรับ นทท.ต่างชาติ STV คือ 1 กลุ่มชาวต่างชาติ ที่ได้อนุญาตให้เข้ามาประเทศไทย โดยนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้ามาพำนักในไทยระยะยาว โดยต้องผ่านเงื่อนไข รายละเอียดอีกมากมาย ทั้งเรื่องการทำวีซ่า การที่มีที่พักอาศัยชัดเจน การยืนยันตัวตน รวมไปถึงระบบคัดกรองตามกระบวนการสาธารณสุข ตามที่ปรากฏในรูปด้านบน ส่วนตัวแล้วก็มองว่ามันค่อนข้างที่จะรัดกุมในระดับที่น่าวางใจได้ (เมื่อเทียบกับความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในตอนนี้) เพราะประเทศไทยถือว่าดูดีในสายตาของชาวโลกในเรื่องของการจัดการโควิด 19 ก็เลยทำให้ประเทศไทยคงเป็นประเทศเป้าหมายให้ชาวต่างชาติได้เข้ามาอาศัย พูดให้ง่ายขึ้นก็เหมือนกับหนีร้อนมาพึ่งเย็น บ้านเมืองเขาอาจจะปลอดภัยน้อยกว่าประเทศไทยก็เป็นได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก่อนที่จะเข้ามาก็ต้องผ่านมาตรการต่างๆ อย่างเข้มงวดเสียก่อน
สุดท้ายก็อยากจะฝากรัฐบาลช่วยสร้างความเข้าใจ และทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศนี้เข้าใจถึงสถานการณ์และความจำเป็นที่จะต้องเปิดประเทศ เพราะถ้าไม่เปิดคนรากหญ้า คงไม่มีวันได้ลืมตาอ้าปากได้ง่ายๆ ในชาตินี้แน่ๆ
อ้างอิง: https://pantip.com/topic/40234296/