การประมูล "ดิวตี้ฟรีสนามบินดอนเมือง" ค่อนข้างเงียบเหงา มีเพียง 2 รายที่มายื่นซอง ระหว่าง "คิง เพาเวอร์" ผู้คว่ำหวอดที่ได้สิทธิบริหารดิวฟรีสนามบินไปแล้วถึง 2 สัญญา กับ "เดอะ มอลล์" ผู้รับสิทธิบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ในสนามบินดอนเมืองปัจจุบัน
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) เปิดเผยว่า ผลการขายซองประมูลคัดเลือกผู้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) ในท่าอากาศยานดอนเมือง ปรากฎว่ามีเอกชน 2 รายเข้าซื้อซองประมูล ได้แก่ 1.บริษัทคิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด และ 2.บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด หลังจากนี้ AOT จะเปิดให้เอกชนเข้ามารับฟังคำชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมในวันที่ 11 พ.ย.62 เวลา 9.00-12.00 น.และกำหนดให้ยื่นข้อเสนอเพื่อขอรับสิทธิการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ท่าอากาศยานดอนเมืองในวันที่ 11 ธ.ค.62 เวลา 9.00-11.00 น. และประกาศรายชื่อผู้ยื่นข้อเสนอที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่ AOT กำหนดตั้งแต่เวลา 11.00 น.เป็นต้นไป จากนั้น ในวันที่ 12-13 ธ.ค.62 จะเปิดให้เข้ามานำเสนอผลงาน (Presentation) ข้อเสนอด้านเทคนิคของผู้ยื่นข้อเสนอการดำเนินงาน
ทั้งนี้ AOT กำหนดการเปิดซองเสนอค่าตอบแทนและประกาศผลคะแนนสูงสุดในวันที่ 16 ธ.ค. 62 ตั้งแต่เวลา 9.30 น.
นายนิตินัย กล่าวว่า การประมูลดิวตี้ฟรีดอนเมืองครั้งนี้ เอกชนจะได้รับสิทธิบริหารจัดการพื้นที่รวมไม่เกิน 4,000 ตารางเมตร แบ่งเป็น พื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสารผู้โดยสาร 2 ที่ปัจจุบันรองการรับการเดินทางภายในประเทศ จะถูกปรับเป็นอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ พื้นที่ราว 1.8-2 พัน ตร.ม.ส่วนที่เหลือจะเป็นพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ หรืออาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 ซึ่งจะพัฒนาเป็นอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ
ปัจจุบัน บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด เป็นผู้รับสัมปทานดิวตี้ฟรี ท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งจะหมดอายุในเดือน ก.ย.65
ยังไงก็หากมีหลายรายเข้าแข่งประมูลกัน ก็จะได้สู้กันจริงจังเพราะราคาประมูลยิ่งสูง ทอท.ยิ่งได้ผลกำไร สุดท้ายก็เข้ารัฐและเข้าคนถือหุ้น ทอท. แต่จากที่ผ่านมาคิงเพาเวอร์เป็นผู้ที่ให้ประมูลสูงมากเลย จนไม่มีใครแข่งสู้ได้เลย ประมูลให้สูงก็ชนะไปไม่แข่งชอบสร้างข่าว รอบนี้เดอะมอลล์เองก็เอาจริง ส่วนคิงเพาเวอร์คงอยากได้เพื่อคงพื้นที่ยุทธศาสตร์ของตัวเอง แต่สุดท้ายดอนเมืองจะเป็นที่ทำกำไรที่ดีหรือเปล่า จากที่ผ่านมาแล้วรายได้ตรงนี้ก็ไม่ได้ถือว่าสูงมากนัก