วันหนึ่งผมได้ไปเที่ยวที่มีคนไปเยอะมากๆนั้นคือห้าง Big C แทบไม่มีที่จอดรถเลย วนอยู่หลายรอบ ปรากฏว่ามีผู้ใจดี บีบแตรส่งสัญญาณว่าจะออก ผมจึงจอดโดยทันทีแต่มันอยู่หน้ารถเค้าพอดีจึงเดินหน้ารถผมไปเพื่อให้เค้าออกได้ แล้วผมก็เปิดไฟฉุกเฉินไว้ พอรถคันนั้นออกไป สิ่งที่ไม่คราดฝันก็เกิดขึ้น มีรถขับมาด้วยความเร็วเอาหัวเสียบเข้าไปเลย (ปกติเค้าจะถอยเข้ากัน) ผมจึงลงไปบอกเค้าว่าผมกำลังจะเข้า ผู้หญิงมากันสามคน คนหนึ่งตอบกลับมาว่า "จะจอดไม่รู้จักลงมาจองไว้" แล้วผมไปคนเดียวใครจะลงไปจอง ผมผิดหรอครับ
โอ้ย! จขกท. ถ้าเป็นผมนี้ลงไปซัดมันแล้ว ผมจะเล่าอะไรให้ฟัง พ่อผมเขาเป็นอาจารย์ แตสมัยก่อนเขาเป็นนักเลงหัวไม้(อันนี้เรื่องเล่าจริงๆนะ ไม่ได้แต่ง) และแน่นอน แม้เขาจะมาเป็นอาจารย์ เขาก็ยังไม่ทิ้งความเลือดร้อนของตัวเอง วันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2549 ถ้าจำไม่ผิด ผมกับพ่อไปซื้อของที่ห้างหนึ่งในโลตัสนนท์ เราขับวีออสสีทอง ป้ายทะเบียน กบ.56XX(ของสงวนไว้แค่นี้นะ) เราขับรถเข้าไปที่จอดรถภายในห้าง ทีนี้รถมันเยอะแล้ว ผมกับพ่อก็วนอยู่หลายรอบ เหมือนกับคุณ จนรถคันหนึ่งกำลังจะออก เราก็ชะลอรถอยู่ข้างหลัง(นึกภาพออกนะ) ให้เขาขับออกไป ทีนี้ เรากำลังรอด้วยความใจเย็น จู่ๆ รถเก๋งคันหนึ่งก็พุ่งมาจากด้านหลังเรา ตรงเข้าซองแบบหน้าด้านๆ มันรู้นะว่าพ่อผมกำลังจะจอด แต่มันคงคิดว่าคนที่ขับวีออส คงจะเป็นเด็กหนุ่มๆ คงไม่กล้ากับมัน พอมันเดินออกมาจากรถ(เดินออกมาคนเดียว) หน้ามันโหดๆ ใส่ชุดหนังเหมือนพวกคาวบอย แต่พ่อผมไม่กลัวหรอก(แหงล่ะ ก็เลือดนักเลงเก่า) เปิดกระโปรงหลัง เดินลงมาจากวีออส ไปที่ท้ายกระโปรง เปิดกล่องเครื่องมือช่าง หยิบประแจด้ามเกือบเท่าแขนมา เดินไปหาไอ้หน้าโหด(ตอนนั้นผมอยู่ในรถ ไอ้หน้าโหดเห็นพ่อผมถือประแจมา :)หน้าจ๋อยแล้ว) ผมแอบเปิดกระจกแง้มๆมานิดๆ ฟังว่าเขาพูดไร พ่อผมเดินเข้าไปถามพร้อมประแจบอก "มึ_จะเอาไงกับกู" :)เงียบ พ่อผมด่าต่อ "ไอ้เ:)้_ กูมาก่อน:) แล้ว:)เสือ_จะมาแย่งที่กู เดี๋ยวปัดกระบาล:)เลย" :)โหดจัด(พ่อผมอายุ 40 เกือบจะ 50แล้วนะ ตอนนั้น) คนที่เดินซื้อของ :)ออกมาดูกันตรึมอ่ะ (โชคดีที่ผมอยู่ในรถ เลยไม่ขายหน้า) แล้วไอ้หน้าโหดก็พูด "ก็ผมไม่รู้ว่าพี่กำลังรอต่อคันเมื่อกี้" ผมว่าอันที่จริงมันรู้แหละ แต่มันคิดว่าพ่อผมไม่แน่จริงไง พ่อผมก็พูดต่อ "ไอ้เ:)้_ ไม่รู้กับแม่_สิ กูจอดรอเขาอยู่ รถกูก็ไม่ดับเครื่อง มึ_ก็เห็นๆกันอยู่ว่า กูจะเข้าต่อ" ตะคอกดังมาก คนเริ่มมุงดู สักพักมันก็ยกมือไหว้พ่อผม เดินกลับไปที่รถ ขับรถออกไป พ่อผมก็เดินกลับมา เข้ามาที่รถ ผมก็ถามว่าจะอยู่ต่อไหม พ่อผมตะคอกใส่ผมอีก "หมดอารมณ์ กลับบ้าน" อ้าว! จบเลย มาพาลใส่ตูอีก อดกิน MK ว่าแล้วก็ขับออกไป พ่อผมบอกในรถว่า ":)นั้น ถ้ากูมีปืน มึ_เสร็จไปแล้ว" แต่ผมก็ว่าพ่อผมพูดจริงแหละ พ่อผมเลือดร้อน แต่ก็ยังใจเย็น ที่ไม่ลงไปถึงก็เอาประแจฟาดเขาเลย ยังดีที่ลงไปพูดก่อน ไม่งั้น ไม่อยากจะคิด แต่ถ้าไอ้หน้าโหด มันซัดพ่อผม ผมไม่เอาไว้แน่ หมั่นไส้คนแบบนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
คุณจขกท. คุณดีอย่าง คือคุณใจเย็น ไม่บ้าบิ่นเหมือนพ่อผม ถ้าเป็นพ่อผม ไอ้คนที่มาแย่งที่จอดคุณ คงจ๋อยไปแล้ว หญิงก็หญิง(ถ้าเป็นหญิง พ่อผมด่าหงอย แม่ผมกลัวพ่อผมก็แบบนี้แหละ) ชายก็ชาย พ่อผมไม่ไว้หน้าหรอก อย่าว่าแต่พ่อผม ผมเองก็ไม่ชอบ และถ้าผมเจอแบบนั้น ผมเองก็คงจะไม่ลงจากรถไปมือเปล่าแน่ อย่างน้อย ถ้าเป็นผู้หญิง ผมจะลงไปเตือน ต่อให้เขาอายุมากกว่า ผมก็จะลงไปพูดอย่างไม่เกรงใจว่า "คุณครับ โชคดีนะครับที่คุณเจอผม ถ้าคุณเจอคนอื่น เขาไม่สนหรอกครับว่าหญิงหรือชาย" หรือ...ถ้าเป็นชาย ต่อให้มีอายุมาก หรือเราไม่รู้จักเขามาก่อน(ถ้ารู้จักอีกเรื่องหนึ่ง) ผมก็จะลงไปพร้อมกับอุปกรณ์ช่าง อะไรก็ได้ หยิบติดมือมาด้วยเลย ถ้าพูดไม่รู้เรื่องก็ล่อกระบาลมันซะ แม่ผมบอกว่า "อย่าให้ผมขับรถ เพราะนิสัยผมบ้าบอๆเหมือนพ่อ(เป็นงั้นไป) เป็นคนอารมณ์ร้อน ชอบทำอะไรก่อนคิด(ยอมรับว่ะอันนี้) ใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล(ถูกอีก)"
แนะนำจขกท.อีกเรื่อง ทีหลังจะไปไหน พกกาวตราช้าง หรือมีดคัตเตอร์ไปด้วย ทีหลังถ้าเจอแบบนี้อีก ไม่ต้องไปพูดอะไรกับมันนะ ให้ทำเนียน เฉยๆ แกล้งทำเป็นขับรถออกไป แอบมองมัน พอเจ้าของรถเดินเข้าไปในห้าง หรือเราแน่ใจว่าลับตามันแล้ว ถ้าเป็นรถแบบสมัยก่อน คือจะเปิดประตูได้ ต้องไขกุญแจ แนะนำให้เอากาวตราช้างหยอด ทั้งประตูด้านฝั่งคนขับ และด้านตรงข้ามฝั่งคนขับ มันจะไขประตูไม่ได้ หรือเอาเศษหินอุดก็ได้ ถ้าเป็นรถเก๋งแบบรีโมทอัตโนมัติ เอาคัตเตอร์กรีด ส่วนไหนก็ได้ของรถ เอาให้มันเด่นสะดุดตาเลย เจ้าของรถมาเห็น จะได้สำนึก เป็นอุทาหรณ์ หรือไม่ถ้ามีกระป๋องสี ที่พวกมือบอนชอบเอาไปวาดกำแพง ให้เพ้นท์บนฝากระโปรง หรือบนกระจกรถเลยว่า "คนขับรถคันนี้ นิสัยไม่ดี มารยาททราม แย่งที่จอดรถคนอื่นหน้าด้านๆ เป็นคนจัญไร" ดูสิว่ามันมาเห็นภาพแบบนี้จะคิดยังไง พ่อผมจำมาจาก Pantip และตอนนี้ ในรถพ่อผมก็มีกระป๋องสีสเปรย์,คัตเตอร์,ค้อน(เอาไว้ตีไฟท้าย),กาวตราช้าง
พ่อผมบอก คนพวกนี้เป็นคนแย่ พ่อแม่ไม่สั่งไม่สอน คิดว่าตัวเองรวย มีฐานะ ซื้อใบขับขี่มา เป็นเดนสังคมในคราบผู้ดี เป็นคนจัญไร ได้เลือดชั่วมาจากพ่อกับแม่มัน อีกเยอะ ด่าเป็นชุด
ถ้าอยากให้ขายหน้าน้อยๆ แค่เอาคัตเตอรืกรีดก็พอ แต่ถ้าแค้นมันมาก กระป๋องสีสเปรย์นี่แหละ เจ๋งสุด ต่อให้ลบออกได้ มันไปให้อู่ในช่วยลบ ไปห้างไหน :)หายถึงนั้น ฮ่าๆ
ถ้าอยากให้ขายหน้าน้อยๆ แค่เอาคัตเตอรืกรีดก็พอ แต่ถ้าแค้นมันมาก กระป๋องสีสเปรย์นี่แหละ เจ๋งสุด ต่อให้ลบออกได้ มันไปให้อู่ในช่วยลบ ไปห้างไหน :)อายถึงนั้น ฮ่าๆ
แนะนำดีๆทั้งน๊านน....
เห็นเป็นผู้ ญ เลยไม่อยากว่า มากคิดอีกอย่าง คนไทยเราเรื่องการเข้าคิวแย่มาก หรือเรียกง่ายๆเริ่มรู้ภาษาคนน้อยลง ชอบทำ มึ น งง งง ประมาณว่าไม่มีใครทักก็เฉย ถ้าทักก็มาทำตามระเบียบ ตามโลตัสก็เหมือนกัน บ้างที่เด็กเข้าคิวจ่ายตัง คนแก่ ชอมแซง เด็กก็งง งง ทำไรไม่ได้เห็นบ่อย ละอย่างนี้จะเอาอะไรมา สอนเด็กละครับ คนโตๆบ้างคนยังไม่เป็นตัวอย่างเลย
ผมเคยไปเซนทรัลนนท์กับพ่อ(ห้างใหญ่มาก ไม่รู้จักนี่โคตรเชย) ไปกินอาหารชั้น 3 ที่มันจะมีโรงหนังด้วย ก็ไปซื้อคูปองกินข้าว และผมก็ต่อแถวจะซื้ออาหารตามสั่ง พ่อผมยืนต่อคิวซื้อเกาเหลาหมูตุ๋นอยู่ไม่ไกลนัก ผมยืนอยู่ดีๆ ไอ้พวกนิสิตนักศึกษามากันเป็นกลุ่ม ใส่ชุดวิทยาลัยพ่อผม(เห็นสีชุดก็รู้เลย) เดินมาแซงคิวเฉยเลย พ่อผมใส่ชุดอยู่บ้าน มันคงไม่รู้ ตอนนั้นพ่อเสร็จก่อน ก็ไปเลือกโต๊ะแล้วรอแล้วแหละ ทีนี้ เหมือนเขาเห็นพวกนักศึกษาวิทยาลัยมาเนียนแซงคิวผม(ตอนนั้นมันแซงคิว ผมก็ไม่ว่าอะไรนะ แต่ในใจก็นึกด่าพวกมันอยู่) นึกภาพออกเปล่า แบบต่อแถวอยู่ 1 คน เพื่อนมา แล้วเพื่อนก็คล้ายๆกับ ขอแทรกไปอยู่ข้างหลัง อะไรแบบนี้ เหมือนเด็กอนุบาลอะ แต่ทีนี้มันไม่ได้มาแซงคนสองคน เจือกมากันยกแก๊ง เป็นกลุ่มเลย แล้ววันเสาร์ไม่มีเรียน มันจะแต่งชุดนักศึกษามาทำหอกไรก็ไม่รู้ แล้วแทรกแบบหน้าไม่อาย คือเพื่อนมันที่ให้แทรกเข้ามา อยู่ก่อนคิวผม 1 คน แต่พอเพื่อนมันมาแทรก กลายเป็นเราอยู่ลำดับที่ 6 ที่ 7 (ที่จริงตามห้าง ไม่ต้องไปต่อคิวก็ได้ แต่ในกรณีของผมคือคนมันเยอะจนพี่พนักงานต้องขอให้ลูกค้ายืนเรียงเป็นแถว) พ่อผมแกก็คงเห็น ใส่ชุดมหาวิทยาลัยตัวเองด้วยแล้ว มาแทรงคิวลูกตู มันหยามไป(พ่อผมน่าจะคิดแบบนั้น) ลุกขึ้นเดินมาเลย ผมรู้แน่ว่า พ่อผมลุกมาหา เดี๋ยวตูว่าไม่จืดแน่ ว่าแล้วพี่แกก็เดินไปสะกิดไหล่ บอก "เฮ้ย! ไอ้หนุ่ม พี่เห็นมีเพื่อนเอ็งต่อคิวอยู่คนเดียว แล้วลูกพี่มันก็ต่อถัดจากเพื่อนเอ็งไปอีก 2 คน อยู่ๆพวกเอ็งมาจากไหนก็ไม่รู้ แล้วมาแทรกคนที่เขาต่ออยู่แล้ว จนลูกพี่ต้องไปอยู่แถวคนที่ 6 ที่ 7 มันหมายความว่าไง" ป้าผู้หญิงที่ยืนต่อเพื่อนมัน แต่อยู่ข้างหน้าผม ใส่เสื้อยืดสีส้ม และโดนพวกมันแซงคิวก็หันมาสมทบกับพ่อผมช่วยกันว่าบอก "เออ! นั่นสิหนู ป้าก็ต่อยืนจนเมื่อยแล้ว อยู่ๆหนูมาทำแบบนี้ได้ไง" พวกมันก็อายสิครับ หน้าแตก หมอไม่รับเย็บเลย ยอมออกจากแถว ไปต่อข้างหลังคนที่ต่อจากผมอีกที แต่โดยดี(ฮา)
หลายวันต่อมา พ่อผมก็มาบอกกับผม "จำคนที่แซงคิวแบงค์ที่เซนทรัลได้ไหม ที่เป็นนักศึกษาน่ะ" ผมก็บอกจำได้ พ่อผมบอก "ปีนี้ พ่อเป็นครูที่ปรึกษามัน" พ่อพูดจบ ผมก็ฮาเลย พ่อเล่าต่อ "มันเห็นพ่อ คงจำได้ อึ้งไปพักใหญ่ และพ่อก็แซวมันนิดๆ" ผมก็บอก "ลูกไก่อยู่ในกำมือ จัดให้มันเรียนเก็บสัก 1 เทอม" พ่อด่า "จะบ้าเหรอ พ่อไม่ใช่คนจัญไรแบบนั้น พ่อก็ยกโทษให้ บอกครูไม่ถือสา แต่อย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก บางคนอารมณ์มันร้อน มันอาจจะพูดแรงกว่าครู หรือใช้กำลังกันเลยก็ได้ อย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก" เออ! เราฟังก็นะ แต่วันนั้น ตูอายมาก อยากบอกแบบนี้จริงๆ
นี้แสดงว่า สังคมเราอยู่ในช่วง ขาลงใช่ใหมครับ เพราะโลงมันพัฒนาเร็วเกินไป คนเลย พัฒนาไม่ทัน ที่ ที่มีคนเยอะนี่ละน่าจะมีน้ำใจให้กันทำตามระเบียบ แม ร่ ง ดัน แ ห ก กัน ซะหมด แล้วเด็กมัน จะ คิดยังไง
ไปเที่ยวคนเดียวอ่ะไม่ผิดหรอกค่ะ...แต่ผิดที่ไปไม่ชวนมากกว่า
อือน่าเห็นใจ คนไทยมเป็นคนที่มีน้ำใจที่สุดในโลก ส่วนตัวผมไม่เคยเจอแบบนี่เลยครับ เพราะนั่งแต่รถเมล์
ผิดครับเพราะเราดัน ไปเกิดร่วมกับยายบ้านั่นถ้ารู้อย่างนี้ให้เขาตายก่อนค่อยๆ เกิดน่าจะดีกว่า
ซวยจริง ที่เกิดมาเป็นคนร่วมชาติกะมัน
หาที่จอดใหม่ดีที่สุด.........นึกว่าเจ้ากรรมนายเวรมาทวงที่ก็แล้วกัน...หรือว่าสงเคราะห์คงจะได้บุญมากโข...(ใจเย็นมีสติไม่ประมาท..เลิศ)