ถึงจะยาวแต่ท่าอยากรู้จักอย่างท่องแท้อยากเทพอ่านคับ และก็ไอ้พวกแบ่งสายอะเลิกคิดสะนะคับท่าคิดชาตินี่คุณไม่ได้ไปไกลหลอกมันจะ เหมือนคุณจะหยุดอยู่กับที่อะ จำไว้ว่าบีบอยไม่มีสาย!!!!!!!!!


Breakdance

Breakdance เป็นการเต้นชนิดหนึ่ง ซึ่งจัดอยู่ใน Hiphop Element จุดเด่นของ Breakdance คือการใช้ทุกส่วนของร่างกายทำท่าทางที่เต็มไปด้วยความแข็งแรง พละกำลัง การเหวี่ยงร่างกาย การฝืนร่างกาย สำหรับคำว่า B-boy เป็นคำที่ใช้เรียกผู้ที่เต้น มาจากคำว่า Break boy (หรือBreakdance boy นั่นเอง) แต่สามารถพูดออกมาว่าเต้น B-boy ได้เลยเหมือนกัน จะทำให้เข้าใจตรงตัวมากกว่าจะพูดคำว่าเต้น Breakdance ถ้าเป็นผู้หญิงจะใช้คำว่า B-girl

ท่าพื้นฐานก่อให้เกิดบันไดซึ่งนำไปสู่ท่าถัดไป การเต้น B-boy จะปราศจากท่าที่เป็น standard ไปไม่ได้อย่างเช่น Toprock , footworks (สมัยก่อนเรียกว่า Downrock) , freeze หรือแม้แต่ power moves สิ่งสำคัญที่ B-boy ทุกคนควรจะต้องมีคือ Toprock ซึ่งเป็นอย่างแรกที่คุณควรจะต้องฝึก

Toprock เป็นการเต้นเหยียบเท้าให้ตรงกับ Beat หมายความว่า ในเพลงจะมีจังหวะของมัน ซึ่งเป็นจุดที่สนุกอย่างหนึ่งของการเต้น B-boy การเก็บบีท ด้วยท่าต่างๆ ถือว่าเป็นความสนุกที่สุดก็ว่าได้ การเต้น Toprock ไม่จำเป็นว่าคุณจะต้องทำแขนขาให้เหมือนกับคนอื่น นี่คือ style คนทุกคนย่อมมีนิสัยและลักษณะเฉพาะตัวไม่เหมือนกันอยู่แล้ว จึงไม่แปลกที่ Toprock ของ แต่ละคนจะไม่เหมือนกัน คุณอาจจะทอปร็อคแบบสบายๆ วาดมือช้าๆ จังหวะเท้าไม่รุนแรง แต่คนอื่นอาจจะทอปร็อคดุเดือดและเร็ว ซึ่งนี่คือเอกลักษณ์ของแต่ละคน ไม่มีคำว่าผิดหรือถูก การเต้นคือศิลปะ ศิลปะไม่ต้องการเหตุผลและสาเหตุ ไม่ต้องการคำว่าถูกหรือผิด มีแต่คำว่าสวย หรือสวยกว่า ชาร์ปหรือสมูธ เมื่อคุณรู้จักกับ Toprock แล้ว คุณจะเริ่มเข้าใจถึง B-boy มากขึ้นว่าทำไม เราจึง Toprock เป็นอันดับแรกก่อนที่จะลงไปใช้ท่าต่างๆ เช่น six-step หรือ windmill ผมจะคับข้องใจอย่างมาก ถ้าหากว่าคุณจะ Airtrack โดยที่ไม่ Toprock ขณะที่คุณกำลัง battle อยู่บนเวที

Footworks (aka Downrock) สิ่งที่สองที่คุณจะต้องรู้จักก็คือ ฟุตเวิร์ค สิ่งนี้เป็นเอกลักษณ์ของ B-boy เลยก็ว่าได้ ถ้าคุณ 6-step ไม่เป็น แต่คุณอาจจะทำ 2-step หรือ 3-step ได้ ผมจะไม่ว่า แต่ถ้าหากว่าคุณทำ footwork บนพื้นไม่เป็นซักอย่าง นั่นจะเป็นปัญหาที่สุด สำหรับท่าพื้นฐานของ Footwork นั่นคือท่า 6-step B-boy ทุกคนต้อง 6 step เป็น ตรงจุดนี้จะเริ่มเกิดปัญหาแล้ว ว่าคุณจะถนัดหมุนซ้ายหรือหมุนขวา ซึ่งนี่ขึ้นอยู่กับความถนัดของบุคคล ไม่จำเป็นว่าจะต้องหมุนไปทางไหน แต่จะจำเป็นที่ว่า คุณถนัดข้างนั้นจริงๆหรือเปล่า เพราะจะส่งผลไปถึงท่าเต้นต่อๆไป อีกในอนาคต และชั่วชีวิตของคุณ แต่ก็ไม่ผิดอีกเช่นกัน ถ้าคุณจะถนัดทั้ง 2 ด้าน แต่อย่าลืมว่า คนเราถนัดขวา มากกว่าซ้าย หรือถนัดซ้ายมากกว่าขวา แทบไม่มีใครที่จะถนัดทั้ง 2 ข้าง ไม่ว่าจะเขียนหนังสือ หรือทำอย่างอื่นที่ใช้ความถนัดด้านใดด้านหนึ่ง นั่นหมายความว่า คุณคงจะ 6 step ได้ ทั้ง 2 ข้าง แต่ก็ไม่สามารถ 2000 ได้ ทั้ง 2 ข้างในระยะเวลาอันสั้น ผมหมายถึง คุณจะต้องเลือกข้างที่ตัวเองถนัดซักข้าง ก่อนที่จะทำตัวเองให้ก้าวขีดจำกัดคือทำได้ทั้ง 2 ข้าง แปลว่า คุณจะต้องใช้ระยะเวลาในการฝึกฝนมากมายทีเดียว

Freeze ฟรีซคือการหยุดร่างกายของตัวเองให้เป็นท่าต่างๆ ท่า Freeze ของ B-boy จะมีหลายท่าด้วยกัน ซึ่งจะเริ่มต้นที่ ?Baby freeze? เป็นอันดับแรก ในเมืองไทย เรียกกันว่า ?โพส? Baby Freeze คือ การใช้แขนข้างใดข้างหนึ่งรองรับร่างกายของตัวเองไว้ โดยที่ขาไม่แตะพื้น แต่นั่นไม่ใช่ทุกอย่าง เพราะคุณสามารถคิดค้นท่าฟรีซใหม่ๆขึ้นมาได้ อย่างเช่น Chair Freeze เท้าข้างหนึ่งของคุณสามารถวางลงบนพื้นได้ การที่ขาไม่แตะพื้นเลย จึงไม่ใช่นิยามของคำว่า Freeze แต่นิยามของคำว่า Freeze ก็คือ หยุดนิ่ง แช่แข็ง ฝืนร่างกาย และผมก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ เมื่อคุณต้องการจะเต้น B-boy คุณควรจะฝึกท่า Freeze ไว้ ด้วย นอกจากนี้ ท่าฟรีซอาจนำมาจากกีฬาอื่นๆ อย่างเช่น หกสูง หกกบ หกสามเส้า บาล๊านซ์ อะไรก็แล้วแต่ อาจจะเอามาจากยิมนาสติก หรือกายกรรมกวางเจา ท่าพวกนั้นอาจจะนำมาใช้ในการเต้น B-boy ด้วยก็ได้

Powermove เอาละ ถึงส่วนที่เป็นจุดที่เด่นที่สุดของการ เต้น B-boy แล้ว พาวเว่อมูฟ คือการใช้ทุกส่วนของร่างกายและพละกำลังมหาศาลในการเหวี่ยง สะบัด หมุน ตัวเองด้วยแรงเหวี่ยงของขาเป็นอันดับแรก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคุณจะต้อง มีร่างกายที่แข็งแรงมาก ถึงจะทำท่า Powermove ได้ แม้ท่าที่ง่ายที่สุดอย่าง Backspin ซึ่งเป็นท่า old school ก็ยังต้องใช้หลักการเหวี่ยงขา พื้นฐานของ Powermove ก็คือ Windmill การจะฝึกท่านี้ ควรเริ่มต้นจากการฝึก โพส ให้ชำนาญเสียก่อน เพราะคุณจำเป็นจะต้องให้ร่างกายของตัวเองจำจุดที่เป็นแกนของการเหวี่ยงได้ ผม ไม่สามารถจะอธิบายได้ด้วยคำพูด แต่ถ้าหากว่าคุณฝึก โพสมากๆ วันนึงคุณจะเข้าใจว่า การเตะขา การเก็บแขน บิดลำตัว ทุกอย่างจะเรียนรู้ได้เองจากการที่คุณฝึกมันบ่อยๆ ต้องยอมรับว่าท่า Powermove กว่าจะได้ซัก 1 ท่านั้น กว่าจะต่อรอบได้นั้น ยากลำบากเหลือเกิน เว้นเสียแต่คุณจะมีพรสวรรค์ และมีประสบการณ์ทางด้านกีฬามาก่อน Powermove อาจจะเป็นขนมสำหรับคุณ ซึ่งเล่น ยิมนาสติก หรือ ฟรีรันนิ่ง มาก่อน



ในยุคนี้เมืองไทยเน้นที่จะยอมรับในการเต้น style มากกว่าที่จะยอมรับในการทำ Powermove เสียแล้ว เพราะในการ Battle เราไม่สามารถจะบอกได้ว่าคนที่ทำ Airtrack เต้นเก่งกว่า คนที่ Toprock เก็บบีท ตรงจุดนี้กลายเป็นค่านิยมไปซะแล้วว่าสมัยนี้ การเต้น style มาก่อนการ Battle ผู้ที่เต้น style ได้ เก่งกว่า และมีความคิดสร้างสรรค์ เป็นผู้ที่ชนะ ไม่ใช่อีกแล้ว ที่ผู้ที่มีพละกำลังแข็งแรงกว่า จะเป็นผู้ที่ชนะเสมอไป แต่ก็น่าสนใจอีกเช่นกันว่าอาจมีกรรมการบางท่าน ชอบความรุนแรงของ Powermove มากกว่า การเต้นที่ดูพื้นๆ อย่าง Toprock 6 step เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับกติกาของการ Battle นั้นๆ สำหรับผมคิดว่า ถ้าหากคุณชอบที่จะ Battle คุณสมควรจะฝึก style ให้มากๆเข้าไว้ มีท่าแปลกๆใหม่ๆ ฟังเพลงบ่อยๆ เต้นมากๆ แต่ถ้าใครชอบที่จะดูเป็นคนแข็งแรง เก่งกาจ น่ากลัว ตัวอันตราย ก็จงเล่น Powermove และ Freeze ต่อไป และผมคงจะปฏิเสธไม่ได้อีกเช่นกันว่า ยุคนี้ไม่มีการแบ่งแยก Style , Powermove , Freeze กันอีกแล้ว เต้น B-boy ก็คือเต้น B-boy แต่คำตอบของการ Battle จะเช็คว่า คุณมี standard skill มากกว่ากันตรงไหน คนที่เข้าถึงการเต้น B-boy ได้มากที่สุด ใหม่ สด ฉลาด แข็งแรง ได้อารมณ์ มากที่สุดจะเป็นผู้ชนะ นี่คือสิ่งที่เป็นตัวบ่งบอกกว่าคุณเก่งแค่ไหน

ไครอยากสอบถามเกี่ยวกับการเต้นอยากเป็นท่าไหนมาถามไนชมรมได้คับ

 http://www.clipmass.com/groups_home.php?urlkey=CrewDancer