ตอนนี้รถเมล์ไฟฟ้า รถบรรทุกไฟฟ้าและแล้วรถปิกอัพไฟฟ้าก็มา ในภาวะวิกฤติน้ำมันแพงแบบนี้ รถกะบะไฟฟ้าเข้ามาบรรดาบริษัทขนส่งสินค้าจะได้ลดค่าขนส่งต่างๆ ลงมาหน่อย ทุกวันนี้สินค้าราคาแพงขึ้นก็มีสาเหตุจากน้ำมันแพงด้วยแหละ ถ้ารถปิกอัพขนส่งหันมาใช้รถไฟฟ้ากัน น่าจะช่วยได้เยอะเนอะ
EA ปัดฝุ่นรถยนต์ไฟฟ้า “ไมน์” ส่งปิกอัพอีวีเจาะกลุ่มผู้ใช้งานเชิงพาณิชย์ ระบุต้องปรับตัวหนีรถจีนที่ได้ประโยชน์จาก FTA พร้อมเปิดตัวปลายปีนี้ ชูจุดแข็งวิ่งได้ 200-280 กิโลเมตร ใช้เวลาชาร์จแค่ 15 นาที เคาะราคาขายต่ำล้านบาท
นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนารถปิกอัพอีวี เจาะลูกค้ากลุ่มขนส่งเชิงพาณิชย์ หลังจากยุติแผนการนำเสนอรถยนต์นั่งไฟฟ้าไมน์ รุ่นสปาวัน (MINE SPA1) MPV ขนาด 5 ที่นั่ง
ทั้งนี้ได้ปรับแผนธุรกิจ หันมาต่อยอดและพัฒนารถปิกอัพไฟฟ้าขนาด 1 ตัน โดยยังใช้ชื่อ “ไมน์” ภายใต้การลงทุนเพิ่มเติม มูลค่า 400-500 ล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนต่อเนื่องจากที่ได้ลงทุนเครื่องมือและอุปกรณ์การผลิตไว้แล้วประมาณ 200 ล้านบาท
“เรานำแพลตฟอร์มของ ไมน์ สปาวัน มาพัฒนาเพื่อให้ตอบโจทย์กับการใช้งาน อีกอย่างรถปิกอัพอีวีถือว่ามีแบร์ริเออร์ค่อนข้างน้อย เพราะอย่างน้อยผู้ประกอบการจีนยังไม่เข้ามาเล่นในตลาดนี้ และเราเชื่อว่าเราสามารถแข่งขันได้”
นายอมรกล่าวว่า ปิกอัพไฟฟ้าไมน์จะเน้นทำราคาขายให้สามารถจับต้องได้ โดยจะพยายามทำให้ราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท และเน้นเจาะตลาดคอมเมอร์เชียล อาทิ ภาคขนส่ง ที่ต้องการบริหารจัดการต้นทุนให้ดีขึ้น รวมทั้งตลาดขายฟลีต ที่เจ้าของกิจการหรือเถ้าแก่เป็นผู้ตัดสินใจเป็นหลัก
“เราจะเจาะลุ่ม B2B คือเจ้าของกิจการ ไม่เน้นการขายรถคันนี้ในกลุ่มรถบ้าน เพราะเราต้องการให้รถคันนี้เป็นรถใช้งานแบบในเชิงพาณิชย์ เช่น ธุรกิจฟู้ดทรัก กลุ่มขนส่ง วิ่งไม่ไกลมาก ในเขตพื้นที่ กทม.-ปริมณฑลก่อน”
ปิกอัพไฟฟ้าไมน์มีจุดแข็งระยะเวลาในการชาร์จไฟฟ้า จาก 0-80% ของแบตเตอรี่ใช้เวลาแค่ 15 นาทีเท่านั้น ขณะที่ 0-100% จะใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมง โดยสามารถวิ่งได้ในระยะทาง 200-270 กม. โดยใช้แบตเตอรี่ขนาด 30 kWh โดยใช้ โรงงานบ้านโพธิ์ ฉะเชิงเทรา ผลิต มีกำลังผลิต 5,000 คันต่อปี และสามารถเพิ่มการผลิตได้
นอกจากนี้ EA กำลังมีแผนเพิ่มกำลังผลิตของโรงงานแบตเตอรี่ จาก เฟสแรก 1 GWh เป็น 4 GWh รองรับสนับสนุนการใช้รถยนต์อีวีของภาครัฐ โดยเชื่ออุตสาหกรรมยานยนต์อีวีจะมีความคึกคักมากขึ้น
ที่มา:https://www.prachachat.net/motoring/news-1019307