ถ้าต้องการให้คอนเทนต์การตลาดประสบผลสำเร็จ สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงเกี่ยวกับ SEO คือ การพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์เสียใหม่ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มคุณภาพ, ทำให้ง่ายต่อการใช้งาน และเข้ากับระบบอัลกอริทึมของ Google ในขณะนั้นนั่นเอง ทว่าหากจะทำอย่างที่ได้กล่าวมา เริ่มแรกคุณจำเป็นต้องรู้จักกับ On-Page และ Off-Page SEO กันเสียก่อน เพราะทั้งสองมีความเกี่ยวข้องกับการทำ SEO แบบเต็ม ๆ...ว่าแต่มันคืออะไรกันแน่ล่ะ ? ถ้ายังไม่รู้ บทความนี้มีคำตอบ !!
On-Page SEO คือ...?
เรียกเต็ม ๆ ว่า On-site SEO ซึ่งก็คือการปรับแต่งเนื้อหาภายในเว็บไซต์เสียใหม่ เช่น การเปลี่ยน Title tags, การทำ Internal Links, การปรับให้ง่ายต่อการใช้งานบนสมาร์ทโฟน เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงของผู้ชม จนกลายเป็นสภาพคล่องของทราฟฟิก และสร้างอันดับเว็บไซต์ให้ติดอยู่บน Google หน้า แรกของเสิร์ชเอนจินได้ในท้ายที่สุด โดยเราอาจพูดได้ว่า On-Page SEO คือปัจจัยภายในของการทำ SEO ก็ไม่ผิดเพี้ยนไปแต่อย่างใด
รวมประโยชน์ของ On-Page SEO
- ปั้นเว็บไซต์ให้อยู่บนอันดับสูง ๆ ของเสิร์ชเอนจินด้วย Organic Traffic (ไม่ต้องเสียค่าโฆษณาเพิ่ม)
- ทำให้เว็บไซต์มีคุณภาพและน่าสนใจมากขึ้น
- เป็นการเพิ่ม Conversion Rate, Click Through Rate และยอดขาย
- ช่วยให้ผู้คนรู้จักแบรนด์ของเรา (Brand Awareness)
นิยามของ Off-Page SEO
คงจะเดากันได้ไม่ยาก เพราะหาก On-Page SEO เป็นหน้ามือแล้ว Off-Page หรือ Off-site SEO ก็ต้องเป็นด้านหลังมืออย่างไม่ต้องสงสัย โดยเจ้าตัวนี้คือปัจจัยภายนอกของการทำ SEO ซึ่งในบางครั้งคุณอาจจะเคยได้ยินเหล่าเอเจนซี่รับทำSEO พูดถึงเรื่องเกี่ยวกับ ‘Backlink’ อยู่บ่อย ๆ หรือแนะนำให้ทำจะเป็นผลดีต่อเว็บไซต์ของคุณ
โดย Backlink ในที่นี้หมายถึง การที่เราผูกโยงเนื้อหาของเว็บไซต์เรากับเว็บไซต์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อีกทั้ง Backlink ที่ว่า เราสามารถสร้างขึ้นมาเองหรือผู้อื่นสร้างให้ก็ได้เช่นกัน ซึ่งวิธีนี้จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือที่ Google มีต่อแบรนด์ของเราได้ดีทีเดียว
ทิปเล็ก ๆ ในการทำ SEO แบบ On-Page
ในส่วนสุดท้ายนี้เรามีทริคในการทำ On-Page SEO ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีมาฝาก โดยจะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย !
1. ทางที่ดีควรใช้รูปภาพประกอบคอนเทนต์เป็น Original Image ของแบรนด์เราเอง
2.ควรทำ Internal Link หรือลิงก์เชื่อมโยงภายในเว็บไซต์ เพื่อที่ว่าผู้ชมจะได้ไม่ต้องเสียเวลานั่งหานาน ๆ
3.สร้างคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาครบครัน ครอบคลุมสิ่งที่ผู้อ่านต้องการหรืออยากรู้
4.พยายามทำให้การเข้าถึงเว็บไซต์เป็นไปได้อย่างรวดเร็วทันใจผู้ชม
5.อย่าลืมตั้งชื่อรูปภาพประกอบคอนเทนต์ (Image Alt Text) อยู่เสมอ และในนั้นควรมี Keyword แทรกอยู่ด้วย
ก็จบไปแล้วกับคำถามที่ว่า On-Page และ Off-Page SEO คืออะไร ? โดยเมื่อคุณอ่านมาถึงตรงนี้ เราหวังว่าคุณจะเข้าใจและพบคำตอบของคำถามข้างต้นกันบ้างแล้ว หรือถ้ายังไม่กระจ่างชัด คุณสามารถสอบถาม บริษัทรับทำ SEO ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์ได้ ‘ที่นี่’ เลย !!