ช่วงต้นปีเราจะเห็นหุ้นหลังจากตลาดหุ้นไทยเปิดมาได้ 2 วันในปี 2021 มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดติดต่อกัน 2 วัน

หนึ่งในนั้นก็คือ EA หรือ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) โดยมูลค่าบริษัท EA ได้ปรับตัว พุ่งขึ้นกว่า 19.6%

คิดเป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้นมา กว่า 3.9 หมื่นล้านบาท ภายในวันเดียว

บริษัทพลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)ซึ่งใครๆก็รู้จักภายใต้ชื่อ EA ถูกก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 หรือ 14 ปีก่อน โดยเริ่มต้นจากการทำธุรกิจ น้ำมันปาล์มหลังจากทำธุรกิจได้ 7 ปี ก็จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้สำเร็จโดยปัจจุบัน EA ดำเนินธุรกิจหลัก แบ่งออกมาเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

1. กลุ่มธุรกิจไบโอดีเซล

ธุรกิจกลุ่มนี้เป็นธุรกิจการผลิต และจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล หรือ B100ที่หากเรานำไปผสมกับน้ำมันดีเซลพื้นฐานตามปริมาณ มันก็จะกลายเป็นน้ำมันดีเซลที่เราใช้เติมเครื่องยนต์ เช่น ดีเซล B7 หรือ B10 นอกจากน้ำมันไบโอดีเซลแล้ว ธุรกิจกลุ่มนี้ของ EA ก็ยังมีกลีเซอรีนบริสุทธิ์ที่ใช้กันในอุตสาหกรรมอาหาร ยา เครื่องสำอาง และสบู่

2. กลุ่มธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน

สำหรับธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนของ EA จะดำเนินธุรกิจผลิต และจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม เพื่อจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

3. กลุ่มธุรกิจอื่นๆ

ธุรกิจกลุ่มนี้จะเป็นธุรกิจพัฒนา ผลิต และจำหน่ายแบตเตอรี่ ประเภทลิเทียมไอออน พอลิเมอร์ นอกจากนี้ ก็ยังมีโรงงานผลิต และประกอบรถยนต์ไฟฟ้า รถบรรทุกไฟฟ้า และเรือโดยสารไฟฟ้า รวมถึงธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้า อีกด้วย

ในหลายๆเดือนที่ผ่านมา ทางบริษัทก็ได้เปิดตัวโครงการเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าที่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งก็ถือเป็นการนำยานยนต์ไฟฟ้ามาใช้กับขนส่งมวลชนขนาดใหญ่เป็นครั้งแรก

ส่วนธุรกิจรถไฟฟ้าEA จะดำเนินการผ่านบริษัท แอ๊บโซลูท แอสเซมบลี จำกัด (AAB) ซึ่งมีโรงงานตั้งอยู่ที่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา บนเนื้อที่ 65,000 ตารางเมตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักร โดยมีกำลังการผลิต 3,000 คัน/ปี สามารถรองรับการผลิตรถได้หลายประเภท เช่น รถบัส, รถบรรทุก, รถตู้ มูลค่าการลงทุนประมาณ 1,750 ล้านบาท โดยตั้งเป้าจะส่งมอบรถบัสไฟฟ้าล็อตแรก 120 คันภายในเดือนมิถุนายนนี้ โดยคาดในปี 2564 จะขายและส่งมอบได้รวม 500 คัน ส่วนปี 2565 ตั้งเป้าหมายผลิตได้มากกว่า 1,000 คัน

ส่วนสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ตั้งเป้าหมายขยายให้ได้ 1,000 สถานี จากปัจจุบันมี 417 สถานี มีหัวชาร์จ 1,633 หัว แบ่งเป็นระบบธรรมดา หรือ AC Charger จำนวน 1,062 หัว และระบบชาร์จเร็วและทันสมัยที่สุด หรือ DC Super-Fast Charge จำนวน 571 หัว ปัจจุบันได้ทยอยติดตั้งตามจุดต่างๆ ทั่วประเทศแล้ว

ที่มา: https://www.longtunman.com/27177 ,https://www.kaohoon.com/column/449534