บอร์ด
กระทู้: ติดสปีดรถอีวี EA เดินหน้าส่งมอบรถบัสไฟฟ้า 500 คัน ภายในกลางปี

      EA พร้อมส่งมอบรถบัสไฟฟ้าในภายในกลางปีนี้ 120 คัน ทยอยส่งมอบไปจนถึงปลายปีรวม 500 คัน ขณะที่โรงงานประกอบรถบัส “AAB” ขนาดกำลังการผลิต 3,000-5,000 คันต่อปี คาดก่อสร้างแล้วเสร็จกลางปีนี้ เริ่มผลิตได้ภายในไตรมาส 3 ปีนี้

       วันที่ 24 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยว่าบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ตามแผนที่วางไว้ แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โดยเฉพาะในช่วงกลางปีบริษัทฯ อยู่ระหว่างการเตรียมส่งมอบรถบัสไฟฟ้า จำนวน 120 คัน และจะทยอยส่งมอบไปจนถึงปลายปีนี้รวมประมาณ 500 คัน ซึ่งในระยะแรก บริษัทฯ ได้ใช้บุคลากรของ บริษัท ไมน์โมบิลิตี คอร์ปอเรชั่น จํากัด และบริษัทในกลุ่ม NEX ในการประกอบรถบัสไฟฟ้า และเมื่อโรงงาน AAB ก่อสร้างแล้วเสร็จจึงจะเริ่มผลิตรถบัสในลอตถัดไป

      ทั้งนี้ โครงการรถบัสไฟฟ้าตามแผนกลยุทธ์ในการขยายไปยังธุรกิจรถบัสโดยสาร ผ่านพันธมิตร บริษัทฯ ได้จัดตั้งบริษัท แอ๊บโซลูท แอสเซมบลี จำกัด (AAB) เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตรถบัสและรถเพื่อการพาณิชย์ทุกประเภท และถือหุ้นใน:)ส่วน 55% (ถือหุ้นทางอ้อมผ่านบริษัทย่อย อีเอ โมบิลีตี โฮลดิง จำกัด (EMH) รวมทั้งยังได้เข้าลงทุนซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX ใน:)ส่วนประมาณ 40% ผ่าน EMH ซึ่งการลงทุนดังกล่าวเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในการใช้เทคโนโลยีการผลิตแบตเตอรี่ และการอัดประจุไฟฟ้าที่พัฒนาจากกลุ่ม EA เพื่อสร้าง Ecosystem ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถบัสไฟฟ้าได้ครบวงจร ตั้งแต่การผลิต ประกอบ จัดจำหน่าย ตลอดจนการขายและให้บริการหลังการขาย

      โดยโรงงานของ AAB ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา มีพื้นที่การผลิตของโรงงานประมาณ 55,000 ตารางเมตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักร โดยมีกำลังการผลิต 3,000-5,000 คันต่อปี สามารถรองรับการผลิตรถได้หลายประเภทเช่น รถบัส, รถบรรทุก, รถตู้ มูลค่าการลงทุนประมาณ 1,750 ล้านบาท ซึ่งจะนำเข้าชิ้นส่วนจากต่างประเทศ มาประกอบร่วมกับชิ้นส่วนสำคัญที่ออกแบบและผลิตในประเทศ คาดว่าแล้วเสร็จและเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2564

     “ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 64 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน จากโครงการลงทุนใหม่ในธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งจะเป็นธุรกิจที่สนับสนุนการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ทั้งนี้บริษัทฯจะเน้นให้ความสำคัญกับการเดินหน้าธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์อีวี เพื่อการโดยสารสาธารณะ” นายอมร กล่าว

     สำหรับโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนที่ดำเนินการภายใต้บริษัทย่อย ชื่อ บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด (ATT) ระยะที่ 1 ซึ่งมีขนาดกำลังการผลิต 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ปัจจุบันยังเดินหน้าได้ตามแผน โดยอยู่ระหว่างการทดสอบการทำงานของเครื่องจักรทั้งระบบ คาดว่าโรงงานจะสามารถเริ่มดำเนินการผลิต  

     สำหรับระยะที่ 1 ได้ในช่วงกลางปี 2564 โดยระยะแรกจะจำหน่ายแบตเตอรี่ไปยังกลุ่มธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าภายในกลุ่มของบริษัทฯ ได้แก่ รถบัสไฟฟ้า และเรือไฟฟ้า

     ส่วนการขยายสถานีประจุไฟฟ้าได้ดำเนินการติดตั้งอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันเกือบ 500 สถานี มีหัวชาร์จมากกว่า 1,600 หัว โดยมีตั้งแต่ระบบธรรมดา หรือ AC Charger ไปจนถึงระบบชาร์จเร็วและทันสมัยที่สุด หรือ DC Super-Fast Charge ที่ใช้เวลาเพียง 15-20 นาที และบริษัทฯ ยังคงดำเนินแผนเปิดรับพันธมิตรรายใหม่ๆ เพื่อขยายการลงทุนติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง

    ทั้งนี้ ในปีนี้บริษัทฯ วางงบลงทุนไว้ประมาณ 6,100 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในธุรกิจพลังงาน :)ส่วน 46% , ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า 25% , ธุรกิจแบตเตอร์รี่ 20% , ธุรกิจสถานีชาร์จ 7 % และ อีก 2% สำหรับลงทุนโครงการใหม่ ส่วนธุรกิจเดิมทั้งธุรกิจไบโอดีเซล & PCM และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนส่วนใหญ่ นำไปใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตโครงการโรงไฟฟ้าต่าง ๆ เพื่อให้มีกำลังการผลิตไฟฟ้าดีขึ้น รวมถึงมองหาการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ๆ เพิ่มเติมอีกด้วย

 

ที่มา:https://www.prachachat.net/finance/news-675704

26 พ.ค. 64 เวลา 22:06 352