เราเพิ่งกลับมาจากเกาะลันตาเรียกว่าเป็นการเที่ยวทะเลใต้ครั้งแรกของเราด้วย เลยอยากมาเล่าความประทับใจให้เพื่อนๆ ฟังกันค่ะ เผื่อใครจะเป็นแบบเราที่ก่อนยุคโควิดนั้นเรารู้สึกว่าการไปเที่ยวทะเลใต้ ไปเกาะนั้นเป็นอะไรที่ต้องวางแผนกันนานมากๆ บวกกับค่าตั๋วก็แพง(สำหรับเราคือสามารถไปเที่ยว backpack นอกประเทศได้เลย) นักท่องเที่ยวก็น่าจะแน่นมากๆ จนกลัวจะไม่เห็นวิวและรู้สึกว่าการเดินทางน่าจะลำบาก พอสมควรเลยเลี่ยงๆ มาตลอด มาช่วงนี้เห็นเพื่อนในเฟสหลายคนไปติดเกาะเอารูปสวยๆมาอวดเลยลองไปกดเล่นๆ เจอตั๋วถูก!เที่ยวละหลักร้อย-พันนิดๆ บวกกับความอัดอัดอั้นที่ไม่ได้เที่ยวเลยมาปีกว่าๆ บวกกับความเพื่อนสาวเจอผลกระทบโควิดเลยมีช่วงงานน้อยระยะสั้นๆ เมื่อทุกอย่างดูลงตัวขนาดนี้ก็พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสสิรีบไปเที่ยวก่อนจะเปิดประเทศ ไปสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติช่วงคนน้อยๆเสมือนปิดเกาะเที่ยวก่อนเลย (ข้ออ้างจะเที่ยวแหล่ะดูออก 555) เราตัดสินใจไปเที่ยวและจองตั๋วล่วงหน้าแค่ประมาณอาทิตย์นึงเอง ไม่มีแผนใดๆ แค่ลองเสิร์ชหาที่พักในเน็ตและสรุปเราเลือกพักที่ Twin Bay Resort เพราะไปอ่านรีวิวส่วนใหญ่บอกบริการดีมาก สะอาด สงบเป็นส่วนตัว ที่สำคัญปลอดภัย ที่ต้องเลือกเยอะเพราะเราไปกันแค่ผู้หญิง 2 คนน่ะ ส่วนเรื่องว่าจะเที่ยวไหนยังไงอะไรค่อยว่ากันหน้างาน ^^
การเดินทางนั่งเครื่องจาก กทม.-กระบี่ ประมาณ 1 ชม.นิดๆ นั่งรถรับส่งจากสนามบินเข้ารีสอร์ทอีกไม่เกิน 2 ชม. รีสอร์ทอยู่บนเกาะลันตาใหญ่ต้องนั่งรถขึ้นแพข้ามไปด้วยนะแต่ใช้เวลาข้ามแพไม่นานประมาณ 15 นาทีเอง (เห็นพี่คนขับบอกว่าแต่ช่วงที่นักท่องเที่ยวแน่นๆ ก็จะเสียเวลารอแพข้ามนิดนึง) เห็นมั๊ยว่าเที่ยวช่วงนี้คือความดีงาม นอกจากจะได้เสพวิวเต็มอิ่มยังถือว่าได้ช่วยชุมชนท้องถิ่นกระตุ้นเศรษฐกิจกันเองไปด้วย
ตื่นเต้นตั้งแต่ไปถึงคือวิวสวยมาก น้ำทะเลใสมาก หาดทรายนุ่มเท้ามาก รีสอร์ทกว้างใหญ่ร่มรื่นห้องพักสะอาดติดหาดเลยเรียกว่าถ้าใครอยากไปนอนโง่ๆ ริมทะเล(หรือนอนฉลาดๆก็ได้นะ 555) เราว่าที่นี่อ่ะเหมาะมาก และที่ประทับใจแรกเลยคือพี่ พนง.ที่รีสอร์ทชื่อพี่ซี ต้องขอเอ่ยชื่อเพราะแกน่ารักมาก (พนง.น่ารักทุกคนค่ะบริการให้ 10/10ไม่หัก) ถ้าจะบอกว่าบริการดุจญาติมิตรก็ไม่ผิดอ่ะเพราะเราต้องพึ่งพาพี่ซีตลอด 3 วันที่เที่ยวเลย แถมนะแอบกระซิบคืออะไรช่วยได้พี่เค้าช่วยดูแลเต็มที่ มีลดแลกแจกแถม พอยิ่งเห็นเราเพิ่งเคยมากันครั้งแรกแถมมา 2 คนแบบกล้าๆ กลัวๆ เค้ายิ่งคอยดูแลทักทายจนสนิทกันไปเลย 555
กิจกรรมที่เราทำส่วนใหญ่คือจะอยู่ในรีสอร์ท เล่นน้ำทะเล หาดที่พักก็สน็อกเกิ้ลได้นะแต่ถ้าอยากไปดำน้ำแบบสวยมากๆต้องเหมาเรือออกไปเค้ามีแนะนำคือ เกาะรอก และเกาะห้า ต้องเหมา speed boat ออกไปประมาณ 1 ชม.เหมาะกับมาเป็นกลุ่มใหญ่ๆ หรือถ้าเจอคนใจดีอาจจะขอแจมไปกับเค้าก็ได้นะ แต่ถ้าใกล้ๆ จะมีแบบนั่งเรือหางยาวไปเที่ยวรอบๆอันนี้ที่เราอ่านในแพ็คเกจมีแบบแชร์กันอยู่คิดหัวละพันค่ะ / ว่ายน้ำสระมองวิวทะเล / พายเรือคายัค / กลางวันนั่งจิบกาแฟ กลางคืนจิบบาร์ค็อกเทล / เหมาตุ๊กๆ ออกไปเที่ยวรอบเกาะ 1 วัน ไปนั่งเรือแจวดูพระอาทิตย์ขึ้น แวะเสพวิวข้างทาง คาเฟ่สวยๆ เดินเที่ยวตลาดเมืองเก่า / ไปนั่งดูหนังกลางแจ้งที่ Lanta Cinema ได้ดูเรื่อง Raya and the last dragon เลยแหล่ะ
มาเริ่มจากรีวิวที่พักที่ Twin Bay Resort สำหรับเราที่มาเป็นครั้งแรกคือประทับใจมากทั้งบริการ สถานที่ ความสะอาด ความปลอดภัย ราคาที่พักรวมอาหารเช้าซึ่งจะเป็นบุฟเฟต์หรือเลือกเป็นจานๆ อันนี้แล้วแต่ว่าวันไหนแขกเยอะหรือน้อยค่ะ ส่วนเราบังเอิญมาตรงวันบุฟเฟ่ต์และมีวันนึงได้กินอาหารท้องถิ่นด้วย พวกข้าวยำ ขนมจีนแกงกระทิใต้ โชคดีจริงๆ อร่อยมาก! ส่วนเมนูอื่นๆมีเพียบ มีพิซซ่า มีหมูกะทะป๊ะปุ๊ด้วยชุดละ 200+/2คน ชุดใหญ่ไฟกระพริบก็มีจ้า ให้เค้าไปตั้งกินตรงหาดได้ด้วย นอกจากของคาวก็มีร้านกาแฟในรีสอร์ทที่สั่งกินวันละหลายแก้ว กาแฟอร่อยค่ะ เอแคล์อร่อยมากเค้าบอกว่าเป็นสูตรของทางรีสอร์ททำเองมีขายเฉพาะที่นี่ใครมีโอกาสมาต้องมาลองนะ และอีกไฮไลท์ของกินแนว street food มีอยู่ที่หน้ารีสอร์ทนะ ช่วงเย็นๆ คนท้องถิ่นจะเข็นรถมารวมตัวขายกันริมถนนอารมณ์ตลาดนัดย่อมๆ ค่ะ ฟินมากเดินซื้อทุกร้าน (คนหิวย่อมรีวิวของกินก่อน 555)
ส่วนห้องพักสำหรับเราคือชอบนะวิวดี สะอาด สงบร่มรื่นเป็นส่วนตัวดีค่ะ (เราพักห้องแรกมุมซ้ายค่ะเป็น beach front ราคาพันกว่าๆ) แต่ก็ไปถามๆ ขอดูห้องแบบอื่นๆ พี่เค้าเลยพาทัวร์เปิดห้องที่ไม่มีแขกให้ดู เราเลยเก็บภาพมาฝากเพื่อนๆค่ะ วิวดีเหมาะกับมาทั้งกับเพื่อน มากับคู่ หรือมาเป็นครอบครัวเลย แถมอย่างที่บอกว่าที่นี่เค้าดูแลเหมือนเพื่อนเลยอ่ะถ้าพักหลายวันมีคุยราคาส่วนลดได้อีก มีฝรั่งมาเช่าอยู่เป็นเดือนด้วยนะนี่ก็เดินเม้ากับเค้าไปทั่วขนาดแขกยังเฟรนด์ลี่เลยอ่ะจะไม่ให้ประทับใจได้ไง
เอาภาพรวมๆ บรรยากาศความสวยงามมาฝากค่ะ เที่ยวแค่ในรีสอร์ทยังฟินได้ขนาดนี้
ช่วงที่เราไปเค้าจัดกิจกรรมสอนทำผ้าบาติกด้วย เราไม่ได้เข้าร่วมเพราะมัวแต่ไปหลงระเริงทะเลอยู่ แต่ก็ยังได้อุดหนุนเค้ามาผืนนึงนะ ดีแล้วที่ซื้อเค้าเลยเพราะถ้าให้ทำเองคงไม่กล้าเอามาใช้อยู่ดีอ่ะ 555
ตุ๊กๆที่พาพวกเราไปที่ต่างๆ อันนี้จะเรียกเองก็ได้ หรือจะให้ รร.เรียกให้ก็ได้ ราคาก็แล้วแต่ตกลงว่าจะเหมาเป็นรอบไปเป็นที่ๆ หรือจะเหมาทั้งวันแล้วไปไหนก็ได้ตามใจ แต่สำหรับคนที่มาเป็นแก๊งค์แล้วอยากเที่ยวแบบแน่นๆ เราว่าเช่ารถขับเที่ยวเองจะคุ้มกว่านะ เพราะราคาต่อเที่ยวจะค่อยข้างสูงแล้วแต่ระยะทาง เช่น ถ้าจะไปตลาดเก่าซึ่งห่างไปประมาณ 23 โล. เค้าจะคิดอยู่ที่เที่ยวละ 3-400 บาทแล้วแต่เราต่อรองค่ะ ตุ๊กๆ พ่วงข้างนั่งได้ประมาณ 4- 5 คน ส่วนถ้าเหมาวันก็วันละ 2,500 จะไปไหนก็ได้ถ้ามากันน้อยคนเราว่าเหมาๆเหมาะมากแบบเน้นออกไปเลยวันนึง นอกนั้นชิลทำกิจกรรมในรีสอร์ท จบ ^^
ส่วนกิจกรรมที่ตรึงใจเราอีกอย่างนอกจากความสวยใสไร้ที่ติของทะเลก็คือ การนั่ง “เรือแจวทุ่งหยีเพ็ง” ไปชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าค่ะ ออกจากรีสอร์ทประมาณตี 5 ครึ่งเพื่อทริปนี้เลย ใช้เวลาบนเรือรวมไปกลับประมาณ 2 ชม. ได้ค่ะ พอไปถึงที่นัด (จาก รร. ไปประมาณครึ่งชม.) คุณลุงจะมาเล่าเรื่องราวคร่าวๆ ให้ฟังเพราะว่าที่นี่เป็นกิจกรรมท่องเที่ยววิถีชุมชนที่ดูแลกันนเอง เรียกกิจกรรมนี้ว่า “แสงแรกแห่งเกาะลันตา” ลุงบอกว่าแทบจะทุกคนที่ได้มาที่นี่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่ากิจกรรมอื่นๆ เช่น ดำน้ำดูปลา เล่นทะเล ปาร์ตี้ จะให้อารมณ์สนุกสนานน่าประทับใจ แต่การได้มาดูพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่เรียกได้ว่าอิ่มใจสุดในแง่ของการพักผ่อนเยียวยา ใช้ความเงียบ+เสียงและแสงของธรรมชาติให้ช่วยบำบัดรับรองว่าคุ้มค่าที่ต้องตื่นจริงๆ ค่ะ เราคอนเฟิร์ม ในเรือจะมีกาแฟและของว่างบริการด้วย อิ่มใจอิ่มท้อง เรือลำนึงนั่งได้ 6 คน ส่วนลำของเรามีลูกสาวลุงนั่งมาด้วยเลยได้ฟังเรื่องน่าสนใจมากมาย เช่น ที่นี่เป็นป่าชายเลนที่ชุมชนช่วยกันดูแลเอง มีพื้นที่ 1,999 ไร่ ได้รางวัลชุมชนเข้มแข็งและอื่นๆ วิถีชีวิตของผู้คนแถวนี้ยังออกเรือตกปลามากิน มาขายได้ ขออย่างเดียวให้เป็นไปตามธรรมชาติอย่าตัดไม้ทำลายป่า กระทั่งสัตว์ต่างๆ เช่น ลิง เหยี่ยว ฯลฯ ก็หากินแบบธรรมชาติไม่ได้มีใครเลี้ยงดูหรือฝึกเพื่อเรียกนักท่องเที่ยว ดังนั้น เราจะได้เห็นภาพบรรยากาศาของวิถีชีวิตที่แท้จริงตามสภาพในแต่ละวันค่ะ ค่าบริการก็ 750.-/คน คุ้มมาก ขนาดถ่ายรูปมาว่าสวยแล้วแต่ของจริงสวยเกินบรรยายค่ะ ของแบบนี้ต้องมาดูด้วยตาเนื้อเท่านั้นจริงๆ 5555
แต่คนกรุงอย่างเราแน่นอนว่าจะพลาดคาเฟ่สวยๆ ได้ไง อย่างน้อยก็ขอซักที่ล่ะซึ่งแถวๆ ที่พักก็มีพอดีชื่อร้านสมูน SMOON Café koh Lanta โอ้ยตกแต่งเก๋มากๆ ถูกใจสายเช็คอินอย่างเรา แถมมีน้อนแมวอ้วนกาฟิลด์นอนอวดศักดาอยู่ด้วย 5555 เรียกก็ไม่ตื่นนะ แต่นอนแอ๊คให้ถ่ายรูปและลูบคลำน้อนได้
ส่วนตลาดย่านเมืองเก่าของเกาะลันตา หรือ Lanta Old Town ถ้ามาตอนนักท่องเที่ยวคึกๆ น่าจะสนุกมากค่ะ แต่ช่วงนี้มีร้านปิดเยอะซึ่งก็เข้าใจได้จากการปิดประเทศพอได้มาเห็นก็แอบใจหายเหมือนกัน เราเลยช่วยอุดหนุนเท่าที่จะช่วยกันได้อย่างน้อยก็เป็นกำลังใจให้คนพื้นที่ที่การค้าขายผูกติดกับการท่องเที่ยวอ่ะเนอะ นี่เป็นส่วนนึงด้วยที่ทำให้อยากมาเขียนรีวิวเพราะคนเดียวอาจช่วยได้ไม่มาก แต่ถ้าคนไทยหลายๆ คนน่าจะช่วยกันได้เยอะขึ้นค่ะ
71 Bed and Burger บาร์ลับ..หรอ? เปล่าหรอกร้านพี่เค้าก็อยู่ตรงนี้แหล่ะแต่เราเป็นคนชอบเดินเที่ยวแล้วสอดส่องทุกซอกซอยเลยได้ไปเจอร้านเบอร์เกอร์ที่ด้านหน้าก็ดูเป็นร้านแบบร้านเหล้าแต่พอเดินทะลุเข้าไปกลายเป็นมุมชิคๆ คูลๆ ให้นั่งชิลเหมือนอยู่บ้านซะงั้น แต่ดีใจที่แวะเพราะความหิว เบอร์เกอร์อร่อยมากเว่อร์ ขนมปังหนึบหนับกับไก่ที่เข้มข้นคือดีย์ ร้านนี้มีที่พักอยู่ด้านบนด้วย 2 ห้องส่วนใหญ่จะเป็นฝรั่งมาพัก ตรงที่นั่งชิลนี่เค้ามีบันไดลิงให้ไต่ขึ้นไปชมวิวด้านบนด้วยนะ ช่วงนี้ทั้งร้านมีแค่เราเลยนั่งชิลลากยาวกันไปหลาย ชม. พี่เค้าบอกตามสบายจ้า..
ตกค่ำก็แวะไปดูหนังที่ในเว็บบอกเป็นโรงหนังกลางแจ้งอารมณ์คล้ายๆหนังกลางแปลงแต่มันดีกว่ามาก หนังใหม่ลิขสิทธิ์แล้ว1 มีบาร์เบียร์ ของ ขบเคี้ยวครบ แต่ก่อนเก็บค่าเข้าดูคนละ 100 แต่เดี๋ยวนี้เค้าเปิดให้เข้าฟรีค่ะ แค่ขอให้มาซื้อเครื่องดื่มขนมด้านในกินเท่านั้น ตรงโซนที่เน้นดูหนังเลยจะเป็นเก้าอี้สบายมีเบาะนุ่มให้นั่ง มีโต๊ะวางขนมพร้อม ส่วนโซนตรงบาร์น้ำจะเป็นโต๊ะนั่งสำหรับคนอยากกินจริงจังไปดูหนังไป อ้อ มีที่นั่งด้านบนด้วยนะอากาศดีมากเหมาะทั้งดูทั้งจิบ อิอิ เราว่าอันนี้ไอเดียดีอ่ะเป็นเหมือนพื้นที่กิจกรรมแบบสบายๆ
ปิดท้ายทริปด้วยการเรียกป้าหมอนวดมานวดถึงที่ห้องได้เลยค่ะ นวดไทย 300 นวดน้ำมัน 400 มาชิลทั้งทีก็ต้องจัดมันให้ครบๆ ป้าเค้าบอกว่าถ้าอยากผิวแทนเร็วๆ ให้นวดน้ำมันมะพร้าวก่อนไปลั้นลาทะเล แต่ถ้าเล่นมาแล้วกลัวแสบผิวให้นวดด้วยน้ำมันอะโลเวล่า ส่วนอิชั้นหรอนวดไทยเลยค่ะเน้นๆ ฝ่ามาหลายด่านขนาดนี้ไม่ชิลแล้วเน้นเสียงกร๊อบแกร๊บๆ ตรงจุดไปเลย 555
นานๆจะเข้ามารีวิวยาวๆซักทีผิดพลาดขออภัยด้วยนะคะหลักๆคืออยากให้คนไทยกอบโกยเที่ยวในประเทศแบบสวยๆ แถมช่วยชุมชนท้องถิ่นกันด้วยค่ะ ^^