Joe Biden วางแผนที่จะสร้างหน่วยงานเพื่อรวมครอบครัวที่แยกจากกันที่ชายแดนสหรัฐฯ - เม็กซิโกโดยฝ่ายบริหารของทรัมป์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการด้านผู้บริหารการย้ายถิ่นฐานชุดใหม่ที่ลงนามในพิธี Oval Office เมื่อวันอังคาร
Biden ประณามนโยบายการเข้าเมืองของโดนัลด์ทรัมป์ว่าเป็นการ“ ทำลายชื่อเสียง” ของสหรัฐฯ slotxo pussy888
ประธานาธิบดีให้คำมั่นว่าจะ“ ปลดเปลื้องศีลธรรมและความอัปยศของชาติในการบริหารงานก่อนหน้านี้ที่แท้จริงไม่ใช่เปรียบเปรยดึงเด็กออกจากอ้อมแขนของครอบครัวแม่และพ่อของพวกเขาที่ชายแดนและไม่มีแผนใด ๆ ที่จะกลับมารวมกันอีกครั้ง ”.
คำสั่งซื้ออีกสองฉบับที่ประกาศเมื่อวันอังคารเรียกร้องให้มีการทบทวนการเปลี่ยนแปลงที่รัฐบาลทรัมป์ทำขึ้นเพื่อปรับรูปแบบการอพยพของสหรัฐฯและสำหรับโครงการต่างๆเพื่อจัดการกับกองกำลังที่ขับเคลื่อนผู้คนไปทางเหนือ
เอกสารบรรยายสรุปที่เผยแพร่ก่อนคำสั่งผู้บริหารของประธานาธิบดีกล่าวว่าแผนการย้ายถิ่นฐานของ Biden“ มีศูนย์กลางอยู่ที่หลักฐานพื้นฐานที่ว่าประเทศของเราปลอดภัยแข็งแรงและเจริญรุ่งเรืองมากขึ้นด้วยระบบการอพยพที่ยุติธรรมปลอดภัยและเป็นระเบียบซึ่งยินดีต้อนรับผู้อพยพครอบครัวอยู่ด้วยกันและอนุญาต ผู้คน - ทั้งผู้อพยพที่เพิ่งเข้ามาและผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่มาหลายชั่วอายุคน - เพื่อมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่กับประเทศของเรา”
ส่วนสำคัญของการดำเนินการในวันอังคารคือหน่วยงานการรวมตัวของครอบครัวซึ่งมีหน้าที่ในการระบุและเปิดใช้งานการรวมตัวของเด็กทุกคนที่แยกจากครอบครัวโดยการบริหารของทรัมป์
รัฐบาลได้ประกาศการแบ่งแยกต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกด้วยบันทึกช่วยจำเดือนเมษายน 2018 แต่มีครอบครัวประมาณหนึ่งพันครอบครัวที่แยกกันเป็นความลับในช่วงหลายเดือนก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่บริหารกล่าวว่าเด็กทั้งสองกลุ่มจะรวมอยู่ในกระบวนการรวมตัวอีกครั้ง
เจ้าหน้าที่ Biden กล่าวว่าพวกเขาไม่สามารถบอกได้ว่าต้องมีเด็กกี่คนที่ต้องกลับมารวมตัวกันอีกครั้งเนื่องจากนโยบายดังกล่าวถูกนำมาใช้โดยไม่มีวิธีติดตามครอบครัวที่แยกจากกัน ในคดีในศาลที่กำลังดำเนินอยู่คณะกรรมการการรวมตัวใหม่กล่าวเมื่อเดือนธันวาคมว่าไม่มีผู้ปกครองของเด็ก 628 คน
หน่วยงานจะประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ของรัฐและนำโดยผู้ได้รับการเสนอชื่อของ Biden ในตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ Alejandro Mayorkas ซึ่งได้รับการยืนยันจากวุฒิสภาสหรัฐก่อนหน้านี้เมื่อวันอังคาร
เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงกล่าวว่านโยบายการแยกครอบครัวเป็น“ ความล้มเหลวทางศีลธรรมและความอัปยศของชาติ” และการย้อนกลับนโยบายที่ทำให้เป็นไปได้ถือเป็นเรื่องสำคัญ
การดำเนินการครั้งที่สองในวันอังคารนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อจัดการกับแรงผลักดันของการอพยพจากอเมริกากลางและอเมริกาใต้ เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงกล่าวว่าสิ่งนี้รวมถึงการทำงานร่วมกับรัฐบาลและกลุ่มที่ไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของประเทศอื่น ๆ ในการโฮสต์ผู้อพยพและทำให้แน่ใจว่าผู้ลี้ภัยในอเมริกากลางและผู้ขอลี้ภัยมีเส้นทางทางกฎหมายในการเข้าสหรัฐฯ
นอกจากนี้ยังสั่งให้เลขาธิการความมั่นคงแห่งมาตุภูมิตรวจสอบโปรโตคอลการคุ้มครองผู้อพยพ (MPP) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อRemain in Mexicoซึ่งกำหนดให้ผู้ขอลี้ภัยต้องรอการพิจารณาของศาลในเมืองชายแดนเม็กซิโกแทนที่จะเป็นในสหรัฐอเมริกาเหมือนที่ผ่านมา
ฝ่ายบริหาร Biden ยังวางแผนที่จะใช้การดำเนินการนี้เพื่อนำนโยบายบางประการในยุคของโอบามากลับคืนมาเช่นโครงการผู้เยาว์ในอเมริกากลาง (Central American Minors - CAM)ซึ่งอนุญาตให้ผู้เยาว์บางคนยื่นขอสถานะผู้ลี้ภัยจากประเทศบ้านเกิดของตน
ฝ่ายบริหารของทรัมป์ได้ทำการเปลี่ยนแปลงมากกว่า 400 ครั้งเพื่อปรับรูปแบบการย้ายถิ่นฐานตามที่สถาบันนโยบายการย้ายถิ่นฐานและการดำเนินการครั้งที่สามของ Biden รวมถึงการทบทวนความพยายามล่าสุดเหล่านี้ในการ จำกัด การย้ายถิ่นฐานตามกฎหมาย
ซึ่งรวมถึงการทบทวนกฎการเรียกเก็บเงินสาธารณะซึ่งฝ่ายบริหารของทรัมป์ขยายความเพื่อให้รัฐบาลกลางปฏิเสธกรีนการ์ดและวีซ่าให้กับผู้อพยพหากพวกเขาใช้ประโยชน์สาธารณะ แม้ว่ากฎจะถูกระงับซ้ำแล้วซ้ำเล่าเนื่องจากคดีความ แต่การเปิดตัวครั้งแรกได้สร้างผลกระทบที่หนาวเหน็บในชุมชนผู้อพยพโดยครอบครัวต่างๆต้องถอนตัวจากโครงการช่วยเหลือด้วยความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสถานะการย้ายถิ่นฐาน
เจ้าหน้าที่บริหารกล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงการย้ายถิ่นฐานของสหรัฐฯจะไม่เกิดขึ้น“ ชั่วข้ามคืน” และจะมีคำสั่งจากผู้บริหารมากขึ้น
ผู้ให้การสนับสนุนยังคงรอนโยบายที่กล่าวถึงการกักขังคนเข้าเมืองและหัวข้อ 42ซึ่งเป็นศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) เกี่ยวกับผู้ขอลี้ภัยและผู้ลี้ภัยในช่วงการระบาดของโควิด -19 เด็กอพยพที่ไม่มีผู้ดูแลประมาณ 13,000 คนถูกส่งกลับภายใต้คำสั่งดังกล่าวก่อนที่จะถูกศาลสั่งปิดกั้นชั่วคราวในเดือนพฤศจิกายน
ในวันแรกของการดำรงตำแหน่งของ Biden เขาได้ลงนามในการดำเนินการของผู้บริหารหกประการเกี่ยวกับการย้ายถิ่นฐานซึ่งรวมถึงการยกเลิกคำสั่งห้ามเดินทางของผู้คนจากประเทศที่มีชาวมุสลิมเป็นส่วนใหญ่และหยุดการระดมทุนเพื่อสร้างกำแพงชายแดน เขายังย้อนกลับนโยบายของทรัมป์ที่ตัดลำดับความสำคัญของการเนรเทศออกไป
นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง Biden ยังได้เสนอร่างกฎหมายปฏิรูปการย้ายถิ่นฐานแบบครอบคลุมต่อสภาคองเกรสกำหนดเลื่อนการชำระหนี้ 100 วันสำหรับการเนรเทศซึ่งถูกปิดกั้นในศาลของรัฐบาลกลางและได้ยกเลิกนโยบาย "ความอดทนเป็นศูนย์" ที่อนุญาตให้แยกครอบครัวได้
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาฝ่ายบริหาร Bidenขอให้ศาลสูงสหรัฐยกเลิกการโต้แย้งด้วยปากเปล่าในสองคดีที่กำลังจะเกิดขึ้นโดยทรัมป์เกี่ยวกับกำแพงชายแดนและยังคงอยู่ในเม็กซิโก กรณีดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพเนื่องจากการกระทำของ Biden