มารู้จักกับระบบขนส่งด้านคมนาคมทางน้ำที่สำคัญของคนกรุงอย่าง เรือพลังงานไฟฟ้า ที่ได้เปิดตัวครั้งแรกไปแล้วเมื่อสิงหาคมที่ผ่านมา โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง กรมเจ้าท่า และ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรืออีเอ ที่ได้ร่วมกันวิจัย ศึกษา และพัฒนาเรือไฟฟ้าในแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเชื่อมโยงระบบขนส่งทางน้ำไร้รอยต่อ พร้อมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกภาคส่วนในการเดินทางรูปแบบวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) คาดว่าจะเปิดทดลองให้บริการปลายปี 2563 จำนวน 8-12 ลำ และจะเปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบภายในปี 2564 ครบจำนวน 23 ลำ

       สำหรับเรือพลังงานไฟฟ้า MINE Smart Ferry ความพิเศษคือ ผลิตโดยคนไทย 100% และสร้างขึ้นเพื่อเป็นเรือประจำทางแม่น้ำเจ้าพระยา ภายในห้องโดยสารติดเครื่องปรับอากาศและระบบฆ่าเชื้อโรค รองรับผู้โดยสาร 250 คน มีความยาวตลอดลำ 23.97 เมตร ความกว้าง 7 เมตร ความจุแบตเตอรี่ Li-lon 685-800 kWh ใช้เวลาชาร์จ 20 นาทีต่อครั้ง ระยะทาง 80-100 กิโลเมตร สามารถวิ่งให้บริการในแม่น้ำเจ้าพระยาตลอดเส้นทาง 23 กิโลเมตร ไป-กลับได้ 2 รอบ (ขึ้นอยู่กับความเร็ว) ส่วนอัตราค่าโดยสารคาดว่าจะคงค่าอัตราเดิมอยู่ที่ 20-30 บาท เพื่อไม่ให้เป็นภาระประชาชน

      ที่สำคัญเรือพลังงานไฟฟ้ายังมีข้อดีคือ ไร้มลพิษ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งช่วยลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 ได้เป็นอย่างดี นับว่าเป็นการเชื่อมโยงระบบโครงข่ายการเดินทางทางน้ำร่วมกับระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เชื่อมการเดินทางระบบไฟฟ้าอย่างครบวงจร ทั้งระบบเรือ รถ ราง ได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำอีกด้วย

      ส่วนการดำเนินงานของกรมเจ้าท่า ในฐานะองค์กรหลักได้เร่งในการเร่งพัฒนาท่าเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาให้เกิดการเชื่อมต่อการเดินทางทางน้ำ เพื่อยกระดับศักยภาพด้านการขนส่งทางน้ำ พร้อมปรับปรุงท่าเรือโดยรอบพื้นที่กรุงเทพฯ ให้มีความทันสมัยต่อการให้บริการมากยิ่งขึ้นและเชื่อว่าตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป การให้บริการผู้โดยสารจะพลิกโฉมสู่การใช้พลังงานไฟฟ้า โดยกรมเจ้าท่าในฐานะกำกับมาตรฐานและทิศทางการพัฒนาเรือไฟฟ้าในประเทศ ตลอดจนให้คำแนะนำแก่ภาคเอกชนเพื่อต่อยอดเชิงพาณิชย์

เชื่อว่าหากเรือไฟฟ้าออกมาให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ จะยิ่งเพิ่มความสะดวกสบายให้กับคนกรุงมากขึ้นอีกด้วย!!!

ที่มา : https://www.matichon.co.th/economy/news_2435421