สถานการณ์ COVID-19 ในประเทศไทยตอนนี้ก็ถือว่าดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากว่าเดือนแล้ว ในขณะที่สถานการณ์โรคดีขึ้นมนุษย์เงินเดือนที่ทำงานในกรุงเทพก็กลับมาคึกคักขึ้น ทั้งรถติดเอย รถไฟฟ้ารอคิวยาวเอย หรือแม้กระทั่งบรรยากาศร้านอาหารที่คนกลับมานั่งกินกันอย่างคึกคักเอย ก็ทำให้เห็นได้ว่ามนุษย์เงินเดือนหลายๆคนกลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติกันแล้ว ซึ่งหวังไว้ว่าสถานการณ์จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องและก็ทำให้คนไทยผ่านพ้นวิกฤตตรงนี้ไปได้สักที
พูดถึงบรรยากาศการทำงานที่กลับมาคึกคักแล้วมีอีกสิ่งที่กลับมาคึกคักคืองานอีเว้นต์โดยเฉพาะงานบางกอกมอเตอร์โชว์ที่หลายๆคนรอคอยก็กลับมาจัดอีกครั้งในช่วงวันที่ 15 – 26 กรกฎาคมนี้ ซึ่งตัว จขกท.เองไปทุกปี ซึ่งปีนี้ที่มองไว้คือรถแห่งอนาคตอย่างรถไฟฟ้า หรือ รถยนต์ไฮบริดป็นหลัก (ไปดูก่อนนะยังไม่ซื้อ ฮา) เพราะเห็นสถานีชาร์จผุดขึ้นเต็มไปหมดเป็นหลักหลายร้อยสถานีแล้วทำให้อดคันไม้คันมือไม่ได้ ตอนแรกคิดว่าถ้าไม่มี COVID ปีนี้เราน่าจะได้เห็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเยอะมาก เพราะกระแสจากปีก่อนๆดีมีคนสนใจเยอะมาก แต่มาเจอ COVID เลยทำให้หลายๆอย่างเลื่อนออกไป บรรยากาศเลยพลอยนิ่งๆ ไปสักหน่อย
https://th.carro.co/blog/bangkok-motorshow/
ถ้าใครติดตามเรื่องรถไฟฟ้ามาจะเห็นชื่อ บริษัทพลังงานบริสุทธิ์ ผ่านตามาบ้างเพราะบริษัทนี้คือเจ้าของรถ MINE MOBILITY รถไฟฟ้าของคนไทยที่ผลิตและประกอบในไทย ที่ราคามนุษย์เงินเดือนอย่างผมจำต้องได้ ซึ่งปีนี้เค้าก็แอบปล่อยของ ( ยานยนต์) ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานไฟฟ้ามาเยอะเลย หลายอย่างมีทดสอบ มีลองวิ่ง ลองขับให้ดูกันแล้วยิ่งทำให้รู้ได้ว่า ยานยนต์ไฟฟ้า จากบริษัทนี้น่าจะเป็นยานยนต์แห่งอนาคตของประเทศเลย มาดูกันว่าเค้าปล่อยอะไรมาให้ทดลองบ้าง
จากคลิปและภาพ คือตอนนี้บริษัทปล่อยมาเห็น 2 อย่างคือ เรือไฟฟ้า (วิ่งอยู่แถวปากน้ำปู่เจ้าสมิงพราย) โดยเรือลำนี้ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ทำให้เห็นได้เลยว่า “เงียบกริบ” เสียงเครื่องยนต์แทบไม่มีเลย ในขณะที่หลังคาของเรือลำนี้เป็น Solar เก็บพลังงานจากแสงอาทิตย์ได้อีกด้วย ในขณะที่อีกอันคือรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นรถบัส หรือ EV BUS หรือใช้ชื่อว่า MINE Bus สาย ปอ 29 ที่ตอนนี้เปิดทดลองให้บริการฟรีอยู่ ใครขึ้นสายนี้บ่อยๆน่าจะเคยได้ใช้บริการบ้าง เสียงเงียบกริบเช่นเดียวกัน เพราะใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน
จะเห็นได้ว่ายานยนต์ไฟฟ้าเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตเรามากขึ้น ตอนแรกแค่รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ตอนนี้มาถึงเรือและรถบัสแล้ว ซึ่งส่วนตัวว่าดีมากๆเลยเพราะจะทำให้มีพลังงานทางเลือกในการใช้งานได้เพิ่มมากขึ้นและหวังว่า PM 2.5 ที่เราต้องเผชิญกันอยู่ทุกๆ ปี จะลดลง ๆ แต่เหนืออื่นใด มีอีกสิ่งที่น่าภูมิใจคือ ทั้งหมดนี่เป็นฝีมือคนไทยล้วนๆ ซึ่งหากต่อยอดไปเรื่อยๆเราอาจจะมาเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนยานยนต์ไฟฟ้าแห่งเอเชียก็เป็นได้ หากใครผ่านไปเจอหรือได้ลองใช้บริการยานยนต์เหล่านี้มาพูดคุยกันมั่งว่าไปลองแล้วรู้สึกยังไงนะครับ