ช่วงนี้เห็นข่าวโรคภัยไข้เจ็บ และข่าวเกี่ยวมลพิษ ฝุ่น ควันเข้ามา ก็อยากให้ช่วยๆกัน คนละนิดละหน่อย เห็นข่าวเกี่ยวกับการรณรงค์ให้หันมาใช้บริการยานยนต์ไฟฟ้า  หรือจะหันมาใช้รถไฟฟ้า เลยอยากให้อ่านกันดู เผื่อเป็นแนวทางเลือก ให้เราหันมารักษาสิ่งแวดล้อม คนละนิดคนละหน่อย

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ กล่าวภายหลังการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึง ยุทธศาสตร์เพื่อขับเคลื่อนยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ว่า ได้ตั้งเป้าให้ไทยเป็นศูนย์กลาง (Hub) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและจักรยานยนต์ไฟฟ้าอาเซียน ภายใน 5 ปี (2567)

ซึ่งในระยะสั้นหรือปี 2563 นี้ จะเริ่มเห็นความชัดเจนของแผน มาตรการสนับสนุนทั้งดีมานและซัพพลาย และในเดือน ก.ค. นี้จะนำร่องให้วินรถจักรยานยนต์ เปลี่ยนเป็นจักรยานยนต์ไฟฟ้าก่อน 500 คัน

เป้าหมายต่อไปคือการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในหน่วยงานราชการ ตามมาด้วยรถ ขสมก. รถบัส ซึ่งจะเป็นการสร้างดีมานในประเทศ ขณะเดียวกันด้านสถานีชาร์จในส่วนของ ปตท. และ กฟผ. ที่ได้ลงทุนอยู่แล้วนั้น มีแผนจะขยายการลงทุนสถานีชาร์จเพิ่มให้ทั่วประเทศ ในทุกๆ 150 กม.

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน สำหรับอัตราการจ่ายค่าไฟของผู้ใช้รถ EV นั้น หากวิ่งระยะทาง 100 กม. จะจ่ายค่าชาร์จไฟ 10 บาท แต่หากใช้รถยนต์ธรรมดาต้องใช้น้ำมัน 2 ลิตร หรือต้องเติมน้ำมัน 55 บาท ดังนั้นใช้รถ EV จึงถูกกว่าเติมน้ำมัน 45 บาท

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) นอกจากนี้เอกชนได้มีการเสนอให้ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพิ่มสิทธิประโยชน์จาก 8 ปี บวกการลดหย่อนภาษีอีก 5 ปี เพิ่มเติม เพื่อเร่งการลงทุนชิ้นส่วนสำคัญของยานยนต์ไฟฟ้า เช่น แบตเตอรี่ และให้อีก 6 นักลงทุนที่ได้ยื่นขอบีโอไอไปแล้วมีการลงทุนจริง และต้องมีแนวทางกำจัดแบตเตอรี่หมดอายุใช้งานด้วยเช่นกัน

ที่มา:https://www.prachachat.net/economy/news-430914