ในอดีตเวลาเศรษฐกิจแย่ๆ หลายๆคนจะหันมาหาทางออกเรื่องการลดค่าใช้จ่ายเสมอๆ โดยค่าใช้จ่ายตัวนึงที่สำคัญคือพลังงานที่ใช้เติมรถยนต์ โดยเฉพาะหลายๆคนที่กำลังตัดสินใจซื้อรถยนต์ในช่วงนี้ด้วย ในปัจจุบันเรามีพลังงานทางเลือกหลายๆตัวที่นำมาใช่เติมรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็น B10,B20,E20 หรือ E85 ซึ่ง ราคาเป็นปัจจัยหนึ่งที่เกี่ยวพัน รวมถึง รถยนต์ที่ใช้ขับเคลื่อนว่าเหมาะสมกับพลังงานหรือสามารถเติมได้หรือเปล่า รวมถึงอัตราการปล่อยมลพิษที่เกิดเป็นฝุ่น P.M 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาระดับชาติตอนนี้ หลายๆคนเลยหันมามองพลังานทางเลือกอีกตัวที่ราคาไม่แรง ประหยัด แถมปลอดฝุ่นอีกคือ “รถยนต์พลังไฟฟ้า” 

โดยสำหรับรถไฟฟ้าในปี 2020 นี้คาดว่าจะเป็นนวัตกรรมที่เปลี่ยนทั้งโลก และเปลี่ยนชีวิตได้ค่อนข้างแน่นอนโดยนวัตกรรมรถไฟฟ้าตอนนี้นี่ต่างประเทศเป็นกระแสค่อนข้างเยอะ หลายๆประเทศที่ตื่นตัวเรื่องมลพิษที่เกิดจากพลังงานเดิมๆที่เคยใช้ ทำให้อัตราการขยายตัวของปริมาณรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก โดยเฉพาะจีนและเกาหลีที่เพิ่มขึ้นหลัก 80 – 100% เลยทีเดียว

ส่วนในประเทศไทยต้องยอมรับว่ากระแสรถไฟฟ้าในบ้านเราดี และแรงขึ้นเรื่อยๆ รัฐบาลก็แสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนพลังงานประเภทนี้อยู่ไม่น้อย หลายๆคนพอเริ่มหันมามองรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแล้วเบ้ปากเพราะเห็นราคารถที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแต่ไม่เป็นมิตรกับเงินในประเป๋า ที่เห็นๆคือราคาไปล้านกลางๆ ถึงล้านปลายหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นนิสสันหรือ MG  ถ้าเงินมีคงไม่มีปัญหา ส่วนคนงบไม่ถึงลองมองตัวที่ราคาเป็นมิตรกับเงินในกระเป๋า ไม่ว่าจะเป็น Mine Mobility ของคนไทยที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะราคาไม่โดดไปไกลจนเอื้อมไม่ถึง แล้วก็มีข่าวแว่ว มาว่า Mine Mobility ภายใต้การผลิตของบริษัทพลังงานบริสุทธิ์จะเอารถไฟฟ้าออกมาทำเป็นแท็กซี่ ถ้าใครที่มีตัวเลือกรถยนต์ไฟฟ้าคนไทยไว้ในใจลองไปนั่งเล่นๆ เผื่อเป็นเอาไว้ช่วยตัดสินใจในการเลือกซื้ออีกทางหนึ่งก็ได้

สุดท้ายถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มองหารถยนต์สักคันในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ และอยากได้นวัตกรรมที่กำลังมาในโลกยุคนี้ และได้ดูแลและรักษ์โลกให้ไร้มลพิษ รถยนต์ไฟฟ้าที่มีหลากหลายราคาน่าจะเป็นตัวเลือกนึงที่น่าสนใจในปี 2020 นี้เลยทีเดียว ปล.เจอกันงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ คาดว่าได้เห็นรถยนต์ไฟฟ้าอีกหลายๆรุ่นที่น่าสนใจเลยทีเดียว