เคยเป็นไหมครับ ลังเล ไม่รู้จะเลือกบริการอินเตอร์เน็ตเจ้าไหนดี ถึงจะคุ้มค่ากับตัวเองที่สุด เพื่อตอบข้อสงสัยเหล่านี้ ผมจึงตัดสินใจนำบทความดี ๆ มาเผยแพร่ให้ทุกคนได้อ่านกัน เพื่อไม่ให้เสียเวลา เรามาทำความเข้าใจไปพร้อม ๆ กันเลยครับ

ก่อนอื่น เรามาทำความเข้าใจ “บรอดแบนด์” และ “Mbps”  กันก่อนดีกว่า ตามปกติแล้ว “บรอดแบนด์” จะหมายถึงบริการอินเตอร์เน็ตที่มีความเร็วกว่าการต่ออินเตอร์เน็ตผ่านสายโทรศัพท์  สำหรับ “Mbps” เจ้าคำนี้คือหน่วยความเร็วของอินเตอร์เน็ต ยิ่งเยอะเท่าไหร่ ความเร็ว และความลื่นไหลในการใช้งานก็จะมากขึ้นเท่านั้น

โดยปกติแล้วความเร็วอินเตอร์เน็ตในบ้านประมาณ 2 Mbps ก็เพียงพอสำหรับการดูสตรีมมิ่งออนไลน์ และเล่นเกมส์ แต่ถ้าคุณต้องการดูสตรีมมิ่งในความคมชัดสูง ๆ อย่าง Netflix ผมขอแนะนำดังนี้

0.5 Mbps - คือความเร็วขั้นต่ำสุดที่ต้องมี

1.5 Mbps - คือความเร็วที่เราขอแนะนำ

3.0 Mbps – สำหรับความคมชัดระดับเดียวกับการดูหนังผ่าน DVD

5.0 Mbps - สำหรับความคมชัด HD

7.0 Mbps - สำหรับความคมชัดระดับ 4K

สำหรับการใช้งานบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในแต่ละบ้าน ความเร็วระดับ 5 Mbps ก็เพียงพอต่อการใช้งาน แต่ในกรณีที่มีผู้ใช้งานหลายคน และพวกเขาต่างพร้อมใจกันดูสตรีมมิ่ง นั่นเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่คุณต้องพิจารณาเลือกความเร็วอินเตอร์เน็ตดี ๆ

ประเภทการให้บริการอินเตอร์เน็ตในปัจจุบัน

DSL : การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านสายโทรศัพท์บ้าน เร็วได้มากถึง 100 Mbps แต่การเชื่อมต่อดังกล่าวมีข้อเสีย นั่นคือยิ่งบ้านคุณอยู่ไกล และสายที่ใช้เชื่อมต่อจากต้นทางยาวมากเท่าไหร่ ความเร็วอินเตอร์เน็ตของคุณก็จะยิ่งช้าลงเท่านั้น

ดาวเทียม : บริการอินเตอร์เน็ตผ่านดาวเทียม โดยทั่วไปจะมีความเร็วต่ำกว่า 20 Mbps แต่แลกมากับความเสถียรของการเชื่อมต่ออย่างไม่มีสะดุด และยังเหมาะกับพิ้นที่ห่างไกลที่ไม่สะดวกกับการต่อสาย

ไฟเบอร์นำแสง : การทำงานคล้ายกับ DSL แต่สายไฟเบอร์ถือได้ว่าเป็นบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง เพราะสามารถเร็วได้ถึง 500 Mbps ซึ่งเร็วกว่ามาก แต่แน่นอนว่าย่อมแลกมาด้วยราคาที่แพงกว่าสาย DSL

สำหรับคำถามถัดไปที่ว่า “เราควรจะเลือกผู้ให้บริการคนไหนดี ?”  มีปัจจัยสำคัญ 2 อย่างที่ต้องใช้ในการพิจารณาคำตอบของคำถามนี้  

1. บริการอินเตอร์เน็ตของเจ้าที่คุณให้ความสนใจ เขามีให้บริการในพื้นที่ของคุณหรือเปล่า ?
2. ลองถามเพื่อนบ้านดูว่า พวกเขาใช้บริการอินเตอร์เน็ตเจ้าไหน เป็นยังไงบ้าง ดีไหม ?

หลังจากได้คำตอบแล้ว คุณก็ลองไปเช็คแพ็คเกจของผู้ให้บริการที่ว่า ดูว่ามีราคาเท่าไหร่ ความเร็วระดับไหน และคุณพอใจกับแพ็คเกจไหนที่สุด และนั่นแหละครับ คือคำตอบที่คุณกำลังตามหา