EA ตั้ง 2 บริษัทย่อย รองรับธุรกิจกำจัดขยะ-ผลิตและขายรถบัสไฟฟ้า รถบรรทุกไฟฟ้า คาดใช้เงินลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท คาดเริ่มผลิตและขายได้ปี 2563 พร้อมศึกษาซื้อ PPA โรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม โรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนามเพิ่มเติม
นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยว่า
บริษัทได้อนุมัติจัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ 2 บริษัท คือ 1. บริษัท สมาร์ท เวสท์ เมเนจเมนท์ จำกัด “Smart Waste Management Co., Ltd.” (SWM) ทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 100,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท EA ถือหุ้นใน:)ส่วน 99.99% ของทุนจดทะเบียน เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการกำจัดขยะทุกประเภท
ส่วน 2. บริษัท อีวีนาว จำกัด ทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 100,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท EA ถือหุ้นใน:)ส่วน 74.98% ของทุนจดทะเบียน (สำหรับ:)ส่วนหุ้น 25%นั้น ถือโดยบุคคลธรรมดา 1 ราย ที่ไม่เข้าข่ายบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทจดทะเบียน) เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายรถบัสไฟฟ้า รถบรรทุกไฟฟ้า และยานพาหนะ อื่นทุกประเภท รวมถึงธุรกิจบริการขนส่งสาธารณะ โดยแหล่งเงินทุนมาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท *คาดใช้เงินลงทุน 1 พันล.
เบื้องต้นคาดจะใช้เงินลงทุนในการซื้อชิ้นส่วนมาประกอบประมาณไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะใช้โรงงานผลิตและประกอบร่วมกับรถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์ ยี่ห้อ MINE เริ่มผลิตและขายในปี 2563 ขณะเดียวกันกำลังศึกษาเพื่อเตรียมเข้าซื้อใบอนุญาตซื้อขายไฟฟ้า (PPA) โครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม และโรงไฟฟ้าพลังงานลม ที่ประเทศเวียดนาม เพิ่มเติม
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า กำไรปกติครึ่งปีแรก 2562 อยู่ที่ 2,449 ล้านบาท คิดเป็น:)ส่วน 40% ของประมาณการกำไรปกติทั้งปี 2562 ของเราที่ 6,066 ล้านบาท (+56.7% จากปีก่อน) โดยแนวโน้มครึ่งปีหลัง 2562 คาดจะเติบโตทั้งจากครึ่งปีแรก และจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีกำลังการผลิตของพลังงานลมเข้ามาเต็มที่ อีกทั้งเป็น High season ของธุรกิจลม คาดกำไรปกติไตรมาส 3/2562 จะทำระดับสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่องอีกหนึ่งไตรมาส
ส่วนปี 2563 คาดรายได้ที่ 18,572 ล้านบาท (+29.5% จากปีก่อน) และกำไรปกติที่ 6,890 ล้านบาท (+13.6% จากปีก่อน) ได้แรงจากธุรกิจพลังงานทดแทนยกฐานกำไรสูงขึ้น ต่อยอดด้วยธุรกิจแบตเตอรี่ที่เริ่มสร้างรายได้ในไตรมาส 2/2563 เป็นต้นไป เป็นตัวผลักดันการเติบโต
*ชูพื้นฐาน 60.24 บาท
ขณะที่มี Upside จากการธุรกิจรถ EV เรือไฟฟ้า และการให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า ที่ยังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการ ประเมินมูลค่า EA ด้วยวิธี SOTP 1.ธุรกิจไบโอดีเซลใช้วิธี PER อิงที่ PER 15 เท่า ได้ราคาเป้าหมายปี 2563 ที่ 0.99 บาท 2.ธุรกิจพลังงานลมและโซลาร์ใช้วิธี DCF (WACC 5.55%) ได้ราคาเป้าหมายปี 2563 ที่ 21.19 บาท 3.ธุรกิจแบตเตอรี่ใช้วิธี DCF (WACC 5.5%) ให้ราคาเป้าหมาย 2563 ที่ 38.06 บาท โดยรวมได้ราคาเป้าหมาย 2563 ของ EA ที่ 60.24 มี Upside gain 27% เริ่มต้นคำแนะนำ “ซื้อ”
ที่มา:ทันหุ้น