“ยูมี พลัส กรุ๊ป” เดินหน้าตอกย้ำความสำเร็จ แห่งการผู้นำด้านธุรกิจเครือข่ายหรือระบบขายตรงสร้างงาน สร้างรายได้ วางแผนในปี 2563 ด้วยการบุกตลาดเต็มพื้นที่ ผลักดันสินค้าไทยสู่อาเซียนเพิ่มมากขึ้น ในประเทศ พม่า ลาว กัมพูชา เวียตนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ และ อินโดนีเซีย
บริษัทยูมี พลัส กรุ๊ป จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจเครือข่ายโลกธุรกิจไร้พรมแดน สู่การประสบความสำเร็จได้อย่าง ไร้ขีดจำกัด ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี มีชื่อเสียงมากว่า 3 ปี โดยก่อนหน้านี้ได้เช่าสำนักงาน อยู่ที่ศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว และต่อมาได้เปิดเป็นสำนักงานใหญ่ อาณาจักรเพื่อนักธุรกิจเครือข่ายในย่าน พระราม 2 ซึ่งเป็นที่ดินของตัวเอง โดยใช้งบประมาณการก่อสร้างกว่า 350 ล้านบาท มีอาคารสำนักงาน และโรงงานผลิตสินค้าที่เป็นของเราเอง สอดคล้องกับนโยบายที่อยากเอาสินค้าไทยไปสู่ประเทศต่างๆในอาเซียน ซึ่งในปัจจบัน ยูมี พลัส กรุ๊ป มีสมาชิกทั้งในประเทศและต่างประเทศ เกือบ 200,000 รหัส
ดร. นิตยาวดี พันธุ์เศรษฐ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทยูมี พลัส กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า การเข้ามาสู่ธุรกิจเครือข่าย เริ่มจากแรงบันดาลของตัวเอง จากที่เรียนจบมา เราก็อยากให้ครอบครัวสบายขึ้น เรามีข้อคิดจากการฟังธุรกิจเครือข่าย ทำให้เปิดมุมมองเพิ่มขึ้น และคิดว่าหากมันเป็นไปได้ก็ดีนะ ทำให้ตัดสินใจลองทำดู ทำแบบมีขั้นตอน มีระบบ จนประสบความสำเร็จ มีรายได้เพิ่มมากขึ้น จนมาเปิดบริษัทของตัวเอง จากตรงนี้การที่เรามาเปิดบริษัทมันเลยไม่ใช่เรื่องยาก ด้วยแนวคิดที่ว่า เราเป็นคนแค่ธรรมดาคนหนึ่งเรายังสำเร็จได้ เอาประสบการณ์ ความเป็นจริงมาทำธุรกิจ ซึ่งคนที่ลำบาก แต่มีความตั้งใจมีเยอะแต่เค้าขาดโอกาส เรามีวิธีการที่พาเค้าไปสำเร็จได้ ซึ่งที่ยูมี พลัส เราเปิดเป็นโรงเรียนสอนธุรกิจฟรีด้วย เอาแค่คุณตั้งใจพาตัวเองเข้ามา พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง พร้อมที่จะสำเร็จ ที่นี่จะ ทำให้คุณสำเร็จได้ ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราสามารถผลักดันสมาชิกจนสำเร็จมามากมาย
โดยในช่วงปีแรกที่เปิด ยอดธุรกิจเติบโตไปได้เรื่อยๆ และเริ่มเซ็ทตัว โดยในปีแรก (ปี 2559) ยอดการเติบโตของธุรกิจในครึ่งปีแรกอยู่ที่ 150 ล้านบาท และในปี 2560 ยอดธุรกิจทะยานขึ้นแบบก้าวกระโดด อยู่ที่ประมาณ 1,500กว่าล้านบาท สรุปยอดตั้งแต่เปิดธุรกิจมา 2559-2561 ยอดรวมอยู่ที่ 2,500 กว่าล้านบาท เพราะเราได้สร้างกระแสกระจายสินค้าและสมาชิกไปสู่อาเซียนมากขึ้น ซึ่งเค้าชื่นชอบสินค้าจากไทย จึงทำให้ผลตอบรับดีมาก พอเราเริ่มต้นธุรกิจที่เปิดในไทยพร้อมกับอาเซียนไปเลย ก็เลยทำให้การเติบโตไปได้อย่างรวดเร็ว ประกอบกับภาพลักษณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ทีมงานหรือสมาชิกมีความเชื่อมั่น โดยก่อนที่จะมาเปิดบริษัท ฯ เรามีทีมที่ค่อนข้างแข็งแรง มียอดขายจากทีมที่อยู่ต่างประเทศ อยู่แล้วด้วย เพราะฉะนั้นทันทีที่เปิดยอดธุรกิจ จริงๆ ไม่ได้เริ่มจากศูนย์แต่เป็นการต่อยอดจากเดิม ที่มีฐานผู้บริโภคอยู่แล้ว ทันทีที่เรามาเปิดธุรกิจมันก็เลยเหมือนแค่เราเปลี่ยนสินค้า และขยายต่อไปเรื่อยๆ นอกจากนี้ได้มีการวางแผนขยายตลาดและสมาชิก จากเดิมที่เรามีสมาชิกอยู่ทั่วประเทศ และในต่างประเทศ เช่น ลาว พม่า กัมพูชา ซึ่งจะมีการขยายตลาดเพิ่มใน 2563 และปีต่อไปจะโฟกัสเจาะตลาดอาเซียนเพิ่มขึ้นให้เต็มพื้นที่ เช่น ในประเทศ เวียตนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ และ อินโดนีเซีย
สำหรับงาน “UME FUN FEST OPEN HOUSE FAIR 2019” เป็นการเปิดบ้านต้อนรับสมาชิกธุรกิจเครือข่ายครั้งยิ่งใหญ่ และถือเป็นการเปิดตัวบริษัทอย่างเป็นทางการ Open House ที่เปรียบเสมือนเป็นบ้านหลังหนึ่งของสมาชิกทุก ๆคน ได้มาแบ่งปันความสำเร็จในธุรกิจด้วยกันที่นี่ ซึ่งธุรกิจเครือข่ายมีเสน่ห์ตรงที่สมาชิกได้เป็นหุ้นส่วนกับบริษัทฯ ด้วยบรรยากาศที่เป็นกันเอง มาให้กำลังใจร่วมภาคภูมิใจกัน การที่บริษัทสำเร็จได้ทุกวันนี้ จริงๆมาจากสมาชิกทุกคน นอกจากนี้ ภายในงานยังได้ ยกทัพมหกรรมสินค้าคุณภาพ อาทิ กลุ่มสินค้าสุขภาพและความงาม เครื่องสำอางค์ สกินแคร์ และสินค้าในครัวเรือน ในราคาสุดคุ้ม ณ บริษัทยูมี พลัส กรุ๊ป จำกัด (สำนักงานใหญ่ ) พระราม 2 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้
สำหรับผลิตภัณฑ์ของ ยูมี พลัส กรุ๊ป มีประมาณ 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสุขภาพ, สกินแคร์ดูแลผิวหน้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ ทุกคนต้องใช้กันอยู่แล้ว นอกจากนี้ก็เป็นในกลุ่มของ คอสเมติกส์ เครื่องสำอางต่างๆ , กลุ่มบอดี้ แคร์ เช่น แชมพู ชาวเวอร์ เจล โทนิค และ กลุ่มโฮม เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน เช่นน้ำยาล้างจาน ล้างผัก น้ำยาถูพื้นในห้องน้ำ ฯลฯ ซึ่งพอเราเปิดครบในทุกกลุ่มซึ่งเป็นของใช้ในชีวิตประจำวัน ทำให้ทุกคนหันมาสนใจที่จะลองใช้ ทำให้ผลตอบรับกว้างขึ้น นอกจากนี้มองว่าธุรกิจของเรา เกิดมาจากการเรียนรู้ มีการสอนให้เกิดความเข้าใจ ซึ่งจะมีการอบรมทุกวันพฤหัสบดี และวันเสาร์ ดังนั้นหากเราทำธุรกิจด้วยความเข้าใจ ทำให้เป็นอาชีพได้ มีรายได้ตอบแทนในแต่ละเดือน ทุกคนมีความเข้าใจในอาชีพ ที่ทำ มีความรักในตัวสินค้า ซึ่งเป็นสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และมีราคาไม่แพง
“ชีวิตคนเราต้องมีทางเลือก การทำงานประจำอย่างเดียวอาจจะเสี่ยงเกินไป ซึ่งอย่างที่ทราบว่าช่วงนี้ภาวะเศรษฐกิจไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งทำให้เรามีความเสี่ยงเกิดขึ้นกับชีวิตได้ เราอาจต้องหาอะไรทำเพิ่ม ดังนั้น ยูมี พลัส จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับคนที่มองหารายได้เพิ่มจากงานประจำ หรือเวลาว่าง เป็นการกระจายความเสี่ยงซึ่งทุกคนควรมีอะไรสำรองไว้ในชีวิต ดร. นิตยาวดี กล่าวทิ้งท้าย “
สำหรับผู้ที่สนใจอยากร่วมธุรกิจกับ ยูมี พลัส กรุ๊ป สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ เบอร์โทร095-2462395, www.umeplusgroup.net