1 ใน 10 เทรนด์เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้จาก World Economic Forum ก็คือ “แหล่งจัดเก็บพลังงานทดแทน (Utility-Scale Storage of Renewable Energy)”
เป็นที่ทราบกันดีว่า การส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในหลายๆ ประเทศต่างก็เข้มข้นมากขึ้น รวมไปถึงประเทศเราที่มีการพัฒนาจนเติบโตอย่างตื่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานชีวมวล พลังงานก๊าซชีวภาพ หรือพลังงานทดแทนขยะ แต่ประเด็นสำคัญเลยก็คือ เรื่องของเทคโนโลยีรวมไปถึงแหล่งจัดเก็บพลังงานที่ในปัจจุบันยังมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอ รวมไปถึงยังมีอยู่อย่างจำกัดแบตเตอรี่ ก็ถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับการพัฒนามาเพื่อสิ่งนี้โดยเฉพาะ และในอนาคตจะมีการลงทุนเพื่อพัฒนาแบตเตอรี่เพิ่มมากขึ้น และทาง World Economic Forum ก็ได้เผยอีกว่าในระหว่างปี 2020-2030 จะมีการลงทุนเพื่อพัฒนาแหล่งจัดเก็บพลังงาน รวมถึงลงทุนในแบตเตอรี่เพิ่มมากขึ้น และจะเป็นความก้าวหน้าแบบก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของโลก หากแหล่งจัดเก็บพลังงาน หรือแบตเตอรี่ ได้รับการพัฒนาถึงจุดที่สามารถจัดเก็บพลังงานทดแทนขนาดใหญ่นี้ได้
และเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหานี้ ล่าสุด EA ก็มีแผนพัฒนาธุรกิจด้านแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนและระบบกักเก็บพลังงาน ด้วยการสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาดกำลังการผลิตรวม 50 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) ซึ่งเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน จะเร่ิมผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมและระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าความจุสูงออกมาประมาณกลางปี 2563 ด้วยขนาด 1 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) เพื่อใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าและเรือไฟฟ้าของ EA ก่อน
สำหรับเรือไฟฟ้า ข้อมูลจาก https://www.siamzone.com/board/view.php?sid=4349415 และในไม่ช้านี้จะมีมาให้บริการกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก World Economic Forum