บางครั้งการตั้งครรภ์ก็เป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้ว่าจะเกิดขึ้นในช่วงไหน สตรีหลายคนที่ไม่เคยตั้งครรภ์ ย่อมไม่มีประสบการณ์
และไม่ทราบว่าอาการแบบใดที่บ่งบอกว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์ซึ่งทางการแพทย์แนะนำให้สังเกตอาการตั้งครรภ์ในเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง
ดังตัวอย่างต่อไปนี้
ประจำเดือนขาดเป็นสัญญาณแรกที่ชัดเจนว่าคุณอาจมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น นั่นเพราะถ้าปกติประจำเดือนคุณมาตรงเวลาสม่ำเสมอทุกเดือน
แต่จู่ๆ ประจำเดือนไม่มาตามกำหนดคุณอาจกำลังตั้งครรภ์ เพื่อให้คุณแน่ใจมากขึ้น ในเบื้องต้นสามารถ ตรวจการตั้งครรภ์ ด้วยตนเองจากชุดตรวจปัสสาวะทดสอบการตั้งครรภ์
อ่อนเพลียในช่วงที่มีการปฏิสนธิแล้วและตัวอ่อนจะเคลื่อนที่มาฝังตัวในโพรงมดลูก มีการพัฒนารกตั้งต้นขึ้น คุณอาจจะรู้สึกว่าร่างกายอ่อนเพลีย หมดแรง และอยากนอนมากๆ
ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน(ฮอร์โมนเพศหญิงชนิดหนึ่ง)ที่สูงขึ้น หากคุณมีอาการแบบนี้ก็ให้เตรียมการตรวจครรภ์ได้เลยค่ะ
รู้สึกขมปากอยากของเปรี้ยวสตรีที่เริ่มตั้งครรภ์ช่วงแรกจะรู้สึกได้ว่ามีอาการขมในปาก จนทำให้อยากรับประทานแต่ของเปรี้ยว หรืออาจเหม็นอาหารที่รับประทานเป็นประจำขึ้นมา
หากมีอาการแบบนี้ก็อาจเป็นเพราะว่าคุณกำลังตั้งครรภ์
เต้านมขยายในสตรีที่ตั้งครรภ์ จะสังเกตได้ว่าอาจจะรู้สึกเจ็บเต้า เต้านมขยายขนาดใหญ่ขึ้น หนักขึ้นและบริเวณลานหัวนมจะขยายขึ้นเล็กน้อย รวมทั้งสีจะคล้ำขึ้นด้วย หากมีสัญญาณนี้เกิดขึ้น
คุณอาจกำลังตั้งครรภ์ และเพื่อความแน่ใจให้ตรวจปัสสาวะทดสอบการตั้งครรภ์ได้เลยค่ะ
อาการแพ้ท้องสัญญาณเตือนอีกอย่างที่มักเกิดกับสตรีตั้งครรภ์คืออาการแพ้ท้องที่จะเริ่มมีได้ตั้งแต่ 2-3 สัปดาห์แรกในคนท้องแต่ละคนจะมีอาการแพ้ท้องที่แตกต่างกันไป ซึ่งอาการแพ้ท้อง
สามารถเกิดขึ้นได้ทุกช่วงเวลา มีอาการต่างๆเช่น พะอืดพะอม อืดท้อง เวียนศีรษะ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บอกได้ว่าคุณกำลังตั้งครรภ์
ชุดตรวจปัสสาวะทดสอบการตั้งครรภ์การตรวจปัสสาวะทำได้ตั้งแต่วันแรกที่ประจำเดือนขาดหายไป โดยที่คุณสามารถตรวจการตั้งครรภ์ในเบื้องต้นด้วยตนเองที่บ้านโดยทำตามขั้นตอน
ที่ระบุไว้ในกล่อง ผลตรวจจะอ่านได้ 2 ลักษณะ คือ ผลบวก หมายถึงตั้งครรภ์ ส่วนผลลบหมายถึงยังไม่ตั้งครรภ์ซึ่งเป็นวิธีแรกที่จะยืนยันในเบื้องต้นว่าคุณกำลังตั้งครรภ์
พบแพทย์ เพื่อเพิ่มความถูกต้องแม่นยำให้มากขึ้น ควรไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล ซึ่งคุณหมอจะส่งปัสสาวะตรวจการตั้งครรภ์ก่อน หรืออาจส่งเลือดตรวจยืนยันเฉพาะในรายที่มีความจำเป็น
และเมื่ออายุครรภ์ได้ประมาณ 6 สัปดาห์เมื่อตรวจคลื่นเสียงความถี่สูง(อัลตราซาวน์ด)ทางช่องคลอดจะสามารถมองเห็นเด็กทารกในครรภ์ได้การตรวจครรภ์กับคุณหมอถือเป็นการฝากครรภ์ไปในตัวด้วยเช่นกัน
เมื่อคุณทราบในเบื้องต้นแล้วว่าน่าจะมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น สิ่งที่ต้องทำในลำดับต่อไปคือการไปตรวจ และฝากครรภ์กับคุณหมอที่โรงพยาบาล ซึ่งก็จะได้รับคำแนะนำในการดูแลสุขภาพร่างก่ายที่ถูกต้องจากคุณหมอค่ะ
ขอบคุณบทความดีๆจาก https://www.enfababy.com/แม่ตั้งครรภ์ต้องรู้/การตรวจครรภ์ที่คุณแม่มือใหม่ควรรู้