ย้อน รอย สงคราม นรก-สวรรค์

 

ในตอนก่อนที่ จักรวาลนี้ จะกำเนิดสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย
มีเพียงโลกทิพย์หรือสวนเอเดนเท่านั้น
ที่ ดำรงอยู่ พระเจ้าไม่ว่าจะใน พระนามไหน ล้วนแล้วเป็นองค์เดียวกัน

พระเจ้าได้สร้างเหล่าเทวดาทั้งหลายให้มีหน้าที่ต่างๆ กัน ดังนี้
1. SERAPHIM เทวดาผู้สยายปีก ปกป้องพระเจ้า และบัลลังก์ ของพระองค์ มีอยู่ด้วยกัน 4 องค์ คือ

METATRON ผู้เป็นเสียงแทน พระเจ้า ผู้ถูกชี้ตัวว่า เป็น SATAN
KEMUEL ผู้เฝ้าบัลลังก์เบื้องซ้าย ผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่าง ISHRAEL กับ HIERARCHS บนสวรรค์ชั้น7
NATHANAEL ผู้เฝ้าบัลลังก์เบื้องขวา
GABRIEL ผู้เก็บดวงวิญญาณของเหล่าสรรพชีวิต

เทวดาทั้งสี่มีลักษณะนิสัยที่โกรธ เกรี้ยว ดุดัน
และไม่ค่อยน่าไว้วางใจ เทวดาทั้ง 4 มีปีกองค์ละ 3 คู่

2.CHERUBIM เทวดาที่ทำการปกป้อง
ต้นไม้ศักสิทธิ์ หรือ ต้นไม้แห่งชีวิต และ ต้นไม้แห่งความอมตะ
ได้แก่

KERUB ปกป้องต้นไม้แห่งชีวิต
EZEKIEL ปกป้องต้นไม้แห่งความอมตะ แบ่งได้เป็น 4 องค์ มีลักษณะของใบหน้าที่แตกต่างกัน หัวเป็นคน เฝ้าอยู่ทางด้านหน้า
หัวเป็นอินทรีย์ เฝ้าอยู่ทางด้านหลัง
หัวเป็นสิงโต เฝ้าอยู่ทางด้านขวา
หัวเป็นวัว เฝ้าอยู่ทางด้านซ้าย

แต่ทั้ง 4 ยังคงมีรูปร่างในแบบของมนุษย์อยู่
และ มีปีก องค์ละ 2 คู่ มีขา เป็นวัว

3. OPHANIM หรือ GALGALLIN
เทวดาที่ปกป้องยานพาหนะที่ใช้ออกรบ
มี เทวดาชื่อ RAPHAEL
เป็น ผู้ควบคุม


 

4.THE DOMININONS เป็นเทวดาที่ดูแล
บัญชีรายชื่อรวมถึง สาส์น ที่พระเจ้าใช้บอกแก่เหล่าเทวดา
โดยผ่านทางคำพูดของ METATRON
เทวดา ที่ควบคุมมีอยู่ 4 องค์ ได้แก่

ZADKIEL HASHMAL YAHRIEL MURIEL

 

5.THE VIRTUES เทวดาผู้ให้พรทั้งหลาย
และ ผู้สอนความกล้าหาญแก่มนุษย์คล้ายกับพวกขุนนาง
ก่อน ที่พวกเขาจะตกสวรรค์ มาอยู่บนโลกมนุษย์ มีดังนี้

MICHAEL GABRIEL RAPHAEL BARIEL TARSHISH SATANEL




6.THE POWER ว่ากันว่าเป็นเทวดากลุ่มแรก
ที่พระเจ้าสร้าง เพื่อป้องกันเขตแดน ของทั้ง 3 โลก ได้แก่

CAMUEL ผู้ถูกชี้ตัวว่าเป็น ดยุค ของ นรก เนื่องจากเข้าขัดขว้างการรับพระบัญญัติ 10 ประการ ของโมเสท MAGUS 1 ใน 7 ของเทวดาที่ได้เห็นพระพักษ์ของพระเจ้า
ทั้ง 2 รักษาความสมดุลระหว่าง ดี กับ เลว

7.THE PRINCIPALITIES
เทวดา ที่เป็นผู้ปกป้องคำสอนของพระเจ้า หรือ ศาสนา นั้นเอง ได้แก่

NISROCK หรือ ASSYRIAN ผู้ถูกชี้ตัวว่าเป็นเจ้าชายแห่งนรก ANAEL 1 ใน 7 เทวดา ที่ให้พลังในด้านการสร้างสรร และเกี่ยวข้องกับ ลักษณะทาง CHALDEAN เทพธิดาแห่งความรักและสงคราม LUCIPHER เทพแห่งควารักและการเกี่ยวพาราศี CERVILL เทพแห่งพลัง ผู้ช่วย DAVID เข่นฆ่า GOLIATH




อัคร เทวทูต THE ARCHANGELS
ที่สำคัญในการนำทัพเหล่าเทวดาน้อยใหญ่
เข้าสู่ สงครามนรก-สวรรค์ ที่พระเจ้าทำการรบกับ SATANได้แก่

MICHAEL
GABRIEL
RAPHAEL
URIEL
METATRON
REMIEL
SARIEL
ANAEL
REGUEL
RAZIEL

และยังใกล้ชิดกับมนุษย์มากอีกด้วย

ส่วนเทวดาที่เป็นคนกลางระหว่าง พระเจ้ากับมนุษย์นั้น
จัด เป็นเทวดาระดับล่างสุด คือ ANGELOS
นอกจากนี้ยังมีเทวดาอีกมากมาย
ที่ไม่ได้ กล่าวถึงซึ่งมีหน้าที่คล้ายกันกับ ANGELOS
แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ใกล้ชิดกับ มนุษย์มากที่สุด
ค่อยรับฟังความในใจของมวลมนุษย์
และดลใจให้ทำสิ่ง ต่างๆอีกหลายองค์

LUCIFER
"เป็นใหญ่ใน นรก ดีกว่าเป็นทาสบน สวรรค์"

เป็นคำกล่าวของเทวดาที่เป็นเทพแห่งความรัก
นั้น คือ LUCIFER เจ้าชายแห่งนรก
ผู้สร้างอาณาจักรของตนจากไฟแห่งความอิจฉาริษยา
ใน ตอนเริ่มต้น พระเจ้า สร้าง LUCIFER และ CHALDEAN เพื่อเป็นเทวดา
ผู้ให้ความรักก่อ เกิดแก่มวลมนุษย์ และเหล่าเทวดาด้วยกันเอง
เป็นเช่นนั้นอยู่นาน จนกระทั้ง อำนาจแห่ง ปาฏิหาริ์ ของ
CHALDEAN ได้ทำการสร้างเทวทูตองค์น้อย
นาม CUPID ขึ้นเนื่องจาก

เมื่อมนุษย์ มีการแพร่ขยาย
เผ่าพันธุ์ มากขึ้น ภาระหน้าที่ ของเทพทั้ง 2 ไม่เพียงพอ
ต่อจำนวนมนุษย์ หลังจากที่ได้สร้าง CUPID
ขึ้น มา ทำให้ LUCIFER ไม่พอใจ
ที่ CHALDEAN ไม่ปรึกษาตน LUCIFER
จึงนำเรื่องไปกราบทูลต่อ พระเจ้า
พระเจ้า ได้เรียก CHALDEAN กับ CUPID น้อย
เข้า มาหาและสอบถาม แต่ด้วยความน่ารัก
ของ CUPID น้อยทำให้พระเจ้าทรงเอ็นดู
ใน ทุกๆ ห้วงเวลาแห่งโลกทิพย์

หลังจากที่ อดัม และ เอวา
ถูกขับไล่ออกจาก สวนสวรรค์แห่งเอเดน
พระเจ้าก็จะเรียกหาเจ้า CUPID น้อยเข้ามาหา ซึ่งนั่นทำให้
LUCIFER ผู้ที่พระเจ้าเคยโปรดปราน
รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ เมื่อนานวันเข้า ก็เปลี่ยนเป็นความอิจฉาริษยา

จนกระทั่งในครั้งหนึ่ง LUCIFER ตัดสินใจ
บุกเข้าไปถาม พระองค์ด้วยอารมณ์โกรธเกรี้ยวว่า
ทำไมท่านถึงทรงทำกับข้าพระองค์เช่นนี้
ใย ลำเอียง ไม่ทรงรักข้าพระองค์เหมือนก่อน
เมื่อพระเจ้าได้ยินดัง นั้นก็ทรงกริ้ว
และแผดเสียงของพระองค์ด้วยภาษาที่ทั้งเหล่ามนุษย์ และเทวดา
ไม่สามารถจะรับไหว นอกจาก เทวดา
เพียงองค์เดียวเท่านั้น นั่นคือ METATRON
ทำให้สวรรค์สะท้านสะเทือนไปทั่ว ด้วยความที่ยังไม่ทันได้ฟัง
สิ่ง ที่พระเจ้าตรัสจาก METATRON

LUCIFER ก็เข้าใจว่าพระเจ้าทรงขับไล่เขาออกไปจากสวรรค์
LUCIFER ถึงกับประกาศก้องด้วยความโกรธว่า

"เป็นใหญ่ในนรก ดีกว่าเป็นทาสบนสวรรค์"

พร้อมกับหักปีกของตนทิ้ง คำพูดของ LUCIFER
ดัง กึกก้องไปถึงหูพวก DEMON สัตว์อัปลักษณ์
ที่วนเวียนอยู่ตามป่าลึกและใต้ผืนดิน
ต่างพากัน ลุกฮือ โห่ร้องที่ได้ยินเช่นนั้น
LUCIFER เริ่มมองหาที่ๆตนจะสร้างอาณาจักรขึ้นเอง
แต่ ในโลกมนุษย์นั้น ไม่มีที่พอสำหรับเขา

เขาจึงดำดิ่งสู่ห้วงมหาสมุทร อันเวิ้งว้าง
ลึกลง ไปจนสุดผืนแผ่นดินใต้มหาสมุทร

เพื่อสร้างอาณาจักรของตนขึ้นด้วยเปลวเพลิงแห่งความ อิจฉา
และแผดเผาทุกอย่างสิ้นด้วยไฟแห่ง โทสะ สร้างบัลลังก์ของตนขึ้น
จาก แรงอาฆาตพยาบาท ริษยา

เพื่อรอวันกลับมาแก้แค้นพระเจ้า...

หลังจากลงสู่ขุมนรกได้ไม่นาน

LUCIFER ได้แผ่ขยายอำนาจของตนอย่างกว้างขว้าง โดยไม่ฟังเสียงใคร
แม้ว่า METATRON จะลงมาอธิบายพระวจนะของพระเจ้าที่รับสั่งในวันนั้น
LUCIFER ก็ไม่เชื่อ

และเนื่องจาก METATRON
ออกนอกสวรรค์เป็นเวลานาน

ส่งผลทำให้พระเจ้าและเหล่าเทวดา ต่างกล่าวหาว่า
METATRON กลายเป็น SATAN ไปอีกคน

เมื่อกลับมายังแดนสวรรค์ จึงถูกพระเจ้าลงโทษมิให้พูดจา
ใดๆ ได้อีก นอกจาก สิ่งที่พระองค์รับสั่งเท่านั้น

ทำให้เหล่าเทวดา และมวลมนุษย์
ค่อยๆลืมความมีตัวตนอยู่ของ METATRON นอกจากเทวดา 4 องค์ที่ทำหน้าที่ส่งสาส์น
ของพระเจ้าเท่านั้นคือ
ZADKIEL,HASHMAL,YAHRIELและMURIEL

ในเวลาไล่เลี่ย กัน ได้เกิดกรณีพิพาทขึ้น เมื่อ AZAZEL เทวดาในอาณัติของ METATRON

ได้ทำเกินหน้าที่ของตนนอกเหนือจากดูแล อดัม
ใน ช่วงที่ยังอยู่ในสวนเอเดน
เพราะตอนที่พระเจ้าขับไล่
อดัมและอีฟ ออกจากสวนเอเดนนั้น พระเจ้ามิได้รับสั่งให้ AZAZEL เลิกการติดตามดูแล อดัม

แต่ด้วยความเข้าใจผิดAZAZEL
หันหลังให้กับ อดัม ตาม พระเจ้า
และยังไปพูดกับเหล่าเทวดาทั้งหลาย
ถึงสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำ
พระเจ้าเลยคาดโทษไว้

ด้วยความโกรธ AZAZEL เริ่มไม่ยอมรับในความยิ่งใหญ่และสูงสุดของพระเจ้า
หนีลงมายังโลก และเริ่มสอนมนุษย์ให้รู้วิธีการทำอาวุธ
พร้อมกับสอนศิลปะการต่อสู้ให้

เรื่องรู้ถึง พระเจ้า ทำให้ AZAZEL ผิดใจกับพระเจ้าเป็นอันมาก
แต่ มิได้ทรงขับไล่เพียงแต่ให้ไปอยู่ในโลกใต้สมุทร
เฝ้าทางเข้าออกของปิศาจ ที่จะขึ้นมายังโลก

แต่ด้วยความที่โกรธและเริ่มเสื่อมศรัทธาในพระเจ้า
AZAZEL จึงชอบแอบลักลอบไปทั้ง 3 โลก เพื่อสืบหาข้อมูล
และเริ่มปั่นหัว ทั้งเทวดา มนุษย์ และLUCIFER

ทำให้เกิดสงครามขึ้นและ เนื่องจาก AZAZEL
อยู่ในสังกัดของ METATRON ยิ่งทำให้ พระเจ้ามองเห็นว่า METATRON เป็นผู้ยุยงอยู่เบื้องหลัง

เลยทำให้พระเจ้าตรัสรับสั่งกับ METATRON น้อยลงไปอีก.

 

วันเวลาล่วงผ่านไป หนึ่งศตวรรษ

การต่อสู้ระหว่าง นรก-สวรรค์ ครั้งแรกก็เริ่มขึ้น
LUCIFER นำทัพเข้าต่อกรกับ เหล่าเทวดา

โฉมหน้าบางส่วนของกองทัพปิศาจ

เพื่อฝ่าไปหาพระเจ้า แต่ด้วยการนำทัพ สวรรค์
ของเหล่า อัครเทวทูต ได้แก่ MICHAEL, GABRIEL, RAPHAEL,
URIEL, METATRON, REMIEL,
SARIEL, ANAEL, REGUEL, RAZIEL

ทำให้กองทัพของ LUCIFER ไม่สามารถฝ่าไปได้และพ่ายแพ้กลับไป
แต่ถึงกระนั้น ความสูญเสียที่เกิดขึ้นก็ช่างใหญ่หลวงนัก
เหล่าเทวดา และเหล่าปิศาจ ต่างล้มตาย กันอย่างมากมาย

ในส่วนของมนุษย์ หลังจากที่ AZAZEL สอนให้ทำอาวุธ
มนุษย์ก็เริ่มที่จะฆ่าฟันกันเอง ไม่เว้นแม้แต่กับพี่น้องสายเลือดเดียวกัน
ไม่เกรงกลัวต่อบาป และนับถือพระเจ้าน้อยลง

LUCIFER หลังจากที่พ่ายแพ้สงครามเห็นว่าเจ้าพวกสัตว์ประเสริฐของพระเจ้า
กระทำการ เยี่ยงนี้ จึงคิดหาวิธีเข้าครอบงำจิตใจของมนุษย์
และเริ่มท้าทายพระเจ้า ใหม่โดยการพนันขันต่อกับพระเจ้าว่า

มนุษย์ สัตว์ประเสริฐที่พระเจ้าสร้างมานั้นจะทำความดีหรือเลวมากกว่ากัน

และมีทีท่าว่า LUCIFER กำลังจะเป็นฝ่ายชนะ
เพราะมนุษย์ ยิ่งนับวันก็ยิ่งทำความเลวมากขึ้นๆ

พระเจ้า ทรงเสียพระทัยมากที่สิ่งที่พระเจ้าสร้างมา
ให้รูปลักษณ์ เหมือนพระศิริโฉมของพระองค์
กระทำการชั่วช้า ไม่เกรงกลัวต่อบาป และลืมคำสั่งสอนของพระองค์
พระเจ้าจึงตรัสรับสั่งกับ METATRON ว่า

"เราจะกวาดล้างมนุษย์ที่เราสร้างขึ้นมาให้สิ้นไปจากแผ่นดิน รวมถึงทุกสิ่งทั้งสัตว์เลื้อยคลาน นกในอากาศด้วย"

แต่ในบรรดามนุษย์ที่ถูก ครอบงำและหลอกล่อให้ทำความชั้ว
ยังมีคนดีอยู่ นั้นคือ โนอาห์ จึงทำให้เขาเป็นที่โปรดปราณของพระเจ้า

พระเจ้าจึงตรัสกับ โนอาห์ว่า

"เราตัดสินใจแล้วว่า จะให้บรรดาเหล่ามนุษย์ถึงแก่ความพินาศเสียที เราจะทำลายพวกเขาไปพร้อมๆกับแผ่นดินโลก เจ้าจงต่อนาวา(เรือ) ด้วยไม้สนโกเฟอร์ ยาว 300 ศอก กว้าง 50 ศอก สูง 30 ศอก แล้วทำเป็นห้องๆ และชันยาเรือทั้งภายในและภายนอก จงทำช่องข้างบนให้สูง 1 ศอก จงตั้งประตูเรือด้านข้าง ทำดาดฟ้าเรือ และแบ่งเป็นชั้นๆ รวม 3 ชั้น เราจะทำให้น้ำถ่วมแผ่นดิน จะทำลายมนุษย์และสัตว์ที่มีลมปราณทั้งปวงใต้ฟ้า ทุกสิ่งที่อยู่บนแผ่นดินจะตายสิ้น แต่เราจะตั้งพันธสัญญาไว้กับเจ้า ให้เจ้าเข้าอยู่ในนาวาทั้งบุตรภรรยา และบุตรสะใภ้ จงนำบรรดาสัตว์ที่มีชีวิตทั้งตัวผู้และตัวเมียทุกชนิดอย่างละ 7 คู่ไปด้วย และจงสะสมเสบียงให้เพียงพอ"

ครั้นล่วงไป 7 วัน ฝนเริ่มตกอย่างหนัก ฝนตก 40 วัน 40 คืน
น้ำท่วมสูงกว่ายอดเขาขึ้นไปถึง 15 ศอก
และท่วมยาวนานถึง 150 วัน
และเลยไปอีกถึง 40 วันกว่าน้ำจะแห้งหมด

LUCIFER เห็นดังนั้นก็กล่าวหาว่าพระเจ้าใช่วิธีการแบบนี้
เป็นการกระทำที่นอก เหนือจากที่ตกลง
และเริ่ม ครอบงำมนุษย์ใหม่

แต่ครั้งนี้เขากระทำแบบไม่เกี่ยงวิธี การ...

หลังจากที่พระเจ้าทำการ ล้างโลกแล้ว
พระองค์ทรงทำพันธสัญญากับ โนอาห์ว่า

"เราจะไม่ทำลายบรรดามนุษย์และสัตว์โดยใช้น้ำอีก...เราจะตั้งสายรุ้งไว้ ที่เมฆ
เพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งพันธสัญญาระหว่างเรากับโลก"

จากนั้นไม่นาน บุตรชายของโนอาห์ชื่อ เชม
ก็ได้เกิดบุตรชายคนหนึ่งชื่อ อับราฮัม เป็นคนที่มีคุณธรรม
และเคารพศรัทธาในองค์พระผู้เป็นเจ้า
อาศัยอยู่ ที่เมืองโซดอม แล้ววันหนึ่งอับราฮัมก็ได้รู้ว่า
พระเจ้าจะทำการล้างเมืองโซดอมกับโกโมร่าห์
อับ ราฮัมมีหลานชายอยู่คนหนึ่ง ชื่อ โลท ก็เป็นคนดีมีคุณธรรมเช่นกัน

จากการที่พระเจ้าได้ส่ง ทูตสวรรค์ 2 องค์ลงมาสอดส่องความเป็นไปในโลกมนุษย์
ครั้นเวลารุ่งสาง ทูตสวรรค์ทั้ง 2 ก็ได้
พา โลทและครอบครัวให้หนีออกจากเมืองซะ
และได้ กำชับอย่างหนักแน่นว่า

"จงหนีเอาชีวิตรอด อย่าได้เหลียวหลัง หรือหยูด ณ ที่ใดที่หนึ่งในลุ่มน้ำนี้ มิฉะนั้น เจ้าจะต้องเสียชีวิต ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ห้ามหันกลับมามองเป็นอันขาด"

แล้วพระเจ้าก็ให้เทวดา ที่ชื่อ LOKI กวัดแกว่งดาบเพลิง
เกิดเป็นลูกไฟล่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้า ทำลายเมืองทั้ง 2 สิ้น

ลูกหลานของโนอาห์อีกหลาย ชั่วอายุคน
ได้ขยายเผ่าพันธุ์ของตนออกไปเป็นจำนวนมาก
แล้วก็อีกเช่น เคยมนุษย์ โดยสันดาน มีความชั่วแฝงอยู่
บวกกับการยั่วยุ และครอบงำจากเหล่าปิศาจของ LUCIFER
ทำให้มนุษย์มีความทะเยอทะยาน จนหลงลืมตัว
คิดว่าตนเป็นพระเจ้าหรือมีอำนาจทัดเทียมพระเจ้า

จากยุคนึงไปอีกยุคนึงไม่ สิ้นสุด ก่อกรรมทำชั่ว อวดดี
จนกระทั้งได้มีการสร้างหอคอย บาแบล ขึ้น
ใน สมัยนั้น มนุษย์พูดภาษาเดียวกันทั่วโลก
จึงเป็นการง่ายที่จะสื่อสารกัน เมื่อสร้างหอคอยเสร็จ
ก็ประกาศตนเป็นอิสระไม่อยากให้มีการแทรกแซงจากพระ เจ้า

ไม่นานนัก เมื่อพระเจ้าทอดพระเนตรลงมาเห็น
ก็เป็นอันเข้าพระทัยทันทีว่า มนุษย์นั้นคิดจะก่อการกบฏต่อพระองค์
พระองค์จึงตรัสว่า

"เราจะทำให้ภาษาของคนเหล่านี้วุ่นวายต่าง กันไป อย่าให้ได้พูดกันเข้าใจอีก"

จากนั้นก็ทรงชี้นิ้วลงมา ยังหอคอย ในฉับพลันก็เกิดสายฟ้าฟาดลงบนยอดหอคอย
มนุษย์ที่อยู่ในนั้นต่างก็ กระเด็นไปคนละทิศละทาง
และจากคำสาปแช่งของพระเจ้าก็ทำให้
ผู้คนนั้น พูดกันคนละภาษา ไม่สามารถสื่อสารกันได้ในขณะนั้น

แต่ LUCIFER ก็ไม่ยอม แพ้ ยังคงใช่เล่ห์กล อุบายต่างๆ
เข้าครอบงำความคิดต่อไปอย่างไม่หยุด ยั้ง....

การที่มนุษย์กระจัด กระจายกันไป ทำให้มนุษย์หลายเผ่าพันธุ์ยิ่งเหินห่างจากพระเจ้า
LUCIFER เลยได้โอกาส ส่งสาวกของตนแปลงกายเป็นมนุษย์
ค่อยยุยงให้ผู้คนหันมานับถือ ลัทธิต่างๆแทนที่จะนับถือศรัทธาในพระเจ้า
ให้มีการสร้างเทวรูปต่างๆขึ้น มาสักการะ

จนกระทั้งถึงยุคของ โมเสส

พระเจ้าได้ประทานอำนาจ ให้ และให้ขึ้นไปที่
เขาซีนาย เพื่อนำ บัญญัติ 10 ประการกลับลงมาจากพระเจ้า
แต่ก็ ยังมีคนหลงผิดอีกจำนวนมากมายที่ยังคงบูชาเทวรูปต่างๆ
จนถึงยุคของ กษัตริย์ เดวิด แต่แล้วก็มิวายมีเรื่องที่ทำให้เสื่อมศีลธรรมอีกจนได้

เมื่อเดวิด สมสู่กับหญิงงามที่มีสามีแล้ว
และต้องการครอบครองตัวนางโดยการใช้อำนาจ เล่ห์กลสั่งให้
สามีของนางผู้นั้นออกไปตายในสนามรบ
ต่อมาเดวิดมีบุตร ชายชื่อ โซโลมอน แต่แล้วก็ทำผิดต่อพระเจ้าอีก
ตามเรื่องเล่า โซโลมอน มีมเหสีถึง 700 คน

จนกระทั่งถึงยุคของ พระเยซู.....

จาก อับราฮัม ถึงโซโลมอน นับรวม 14 ชั่วคน
และนับจากเดวิดอีก 14 ชั่วคน คือรุ่นที่ 28 บุตรชายของ โยเซฟ ช่างไม้
สามีของนางมาเรียให้กำเนิดบุตรชายชื่อ เยซู
ที่ เมือง เบธเลเฮม

ครั้งหนึ่ง พระวิญญาณ ได้นำพาพระเยซู พลัดเข้าไปในถิ่นทุรกันดาร
ทรงอด พระกระยาหารถึง 40 วัน 40 คืน

SATAN วกเวียนเข้ามาหาและทูลว่า

" ถ้าท่านเป็นบุตรของพระเจ้าจริง ทำไมไม่สั่งให้ก้อนหินเหล่านี้กลายเป็นอาหารซะหล่ะ"

พระเยซู กล่าวตอบไปว่า

"มนุษย์จะบำรุงชีวิตด้วยอาหารเพียงอย่างเดียวหาได้ไม่ แต่บำรุงด้วยด้วยพระวจนะทุกคำที่ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า"

SATAN ได้ทดสอบพระเยซูรวม 3 ครั้ง
ถึง กับใช้บ้านเมืองและโลกทั้งโลกรวมทั้งพลังอำนาจต่างๆมาหลอกล่อ
ก็ไม่เป็น ผล พระเยซูมีโอกาสเผยแพร่คำสอนเพียง 3 ปีเท่านั้น
ก่อนที่จะถึงวาระสุด ท้ายบนไม้กางเขน
และคนที่ทำให้พระเยซูถูกจับตรึงกางเขนก็ไม่ใช่ใคร
หนึ่ง ในสาวกที่ทรยศเพราะเห็นแก่ทรัพย์นั่นก็คือ JUDHAS

เพียงแค่มารครอบงำจิตใจ ก็ทำให้เขาเกิดความโลภ
บอกที่สอนของพระเยซูให้กับพวกทหารโรมัน

พระเยซู ถูกตรึงกางเขนเวลา 9.00 น.เศษ
ของเช้าวันรุ่งขึ้น ครั้นเที่ยงวัน ขณะที่ท้องฟ้ายังสว่างอยู่
พลันก็เกิดลมพายุมืดมัวไปทั่วแผ่นดิน พระเยซู ร้องด้วยเสียงอันดังว่า

"เอโลอี เอโลอี ลามา สะ บัก ธานี"

แปลว่า

Credit: http://atcloud.com/stories/61833
#ศาสนา
Messenger56
ช่างเทคนิค
สมาชิก VIP
20 พ.ค. 53 เวลา 23:58 6,130 7 62
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...