ในปัจจุบันเศรษฐกิจประเทศจีนนั้นมีอัตราการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ชาวจีนร่ำรวยกันมากขึ้นทำให้ชาวจีนมากมายแห่แหนเดินทางไปเที่ยวรอบโลก และเมืองไทยก็เป็นเป้าหมายปลายทางยอดนิยมแห่งหนึ่งของนักท่องเที่ยวจีน! ซึ่งพี่จีนเขาก็มีค่านิยมหรือ “ไลฟ์ส-ตาย” ที่แตกต่างจากบ้านเรามากๆ! มีนักท่องเที่ยวจีนไม่น้อยที่ถูกฝึกมาเป็นอย่างไม่ดีในด้านระเบียบวินัย
รู้ไหมว่า? ผลสำรวจการจัดอันดับ นักท่องเที่ยวจีนเป็นนักท่องเที่ยวยอดแย่อันดับสองของโลก โดยผลสำรวจได้ระบุว่าสิ่งที่รับไม่ได้ที่สุดของนักท่องเที่ยวชาวจีนคือ ‘มารยาท’ และ ‘ความสะอาด’ ทำให้หลายประเทศถึงกับเข็ดขยาดกับนักท่องเที่ยวเหล่านี้ เอาหล่ะวันนี้ทีนเอ็มไทยเลยนำ 9 ไลฟ์ส-ตาย ของชาวจีนที่เห็นแล้วรับไม่ได้จริงๆ บ่องตง! มาฝากกัน ดูซิว่ามันจริงหรือเปล่า!!!!!
1. เรอ
ชาวจีนอาศัยวัฒนธรรมเก่าแก่เกี่ยวกับมารยาทบนโต๊ะอาหารมาเล่นงานเราได้อย่างแยบยล คนจีนบอกว่าการเรอ เหมือนกับคำชม ยิ่งเรอดังยิ่งอร่อย…อร่อยบ้านฟาเตอร์สิ! เหม็นสุดติ่งเลย
ยิ่งถ้าพี่แกมานั่งรวมกันหลายๆคน แล้วเรอพร้อมกันนี่ เราอาจมีสิทธิ์ติดเชื้อเป็นโรคปอดอักเสบได้เลยนะ ระดับความรุนแรง : ขึ้นอยู่กับประเภทของอาหารและปริมาณประชากรร่วมโต๊ะ ถ้าบริโภคพวกของธาตุหนัก อย่างเช่น กระเทียมพริกไทยนี่จะมีอานุภาพที่ร้ายแรงมาก
2. ตด
คนจีนถูกปลูกฝังว่าการตด ก็เหมือนกับความคิดถึง
เราจะรู้สึกดีถ้ามีคนสัมผัสได้…ดิชั้นว่าดิชั้นได้กลิ่นแปลกๆ ดิชั้นสัมผัสได้ คุณแท็ครู้สึกเหมือนกันหรือเปล่าคะ? ได้สิครับคุณเจน ตอนนี้ผมขมคอมากเลยครับ โอ้พระเจ้า!!! แท็คจะเป็นลม น่าจับไปทุ่มบกให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย นี่รถทัวร์นะคะไม่ใช่รถส่วนตัว เฮ้ยพวกนายไม่เอาลุคกันบ้างเลยเหรอ ถ้าเป็นทัวร์หมื่นปีที่มีแต่อากง อาม่า ก็ไม่ว่ากัน เพราะคงไม่หวังจะมาหาคู่ชีวิตกันในเมืองไทยอยู่แล้ว
แต่ว่าบางคนที่ยังหนุ่มยังสาวนี่ กะไม่หวังได้ตีหัวเมืองหลักของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างกรุงเทพฯบ้างเลยเหรอ เจอแบบนี้ต้องจ้างให้ไปขับถ่าย…กี่หยวนว่ามา! ระดับความรุนแรง : ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ ยิ่งแคบอย่างเช่นในลิฟต์ อานุภาพจะแรงมาก และสังเกตได้จากเสียง ถ้าเป็นเสียงแหลมๆหน่อยจะเหม็นมาก เพราะเวลาคนปวดส้วมนิดๆ จะไม่กล้าปล่อยลมแบบเต็มแรง ต้องค่อยๆปล่อยออกมา กลัวอุนจิจะเล็ด นั่นคือที่มาของคำว่า ‘ตดหัวขี้’ แต่มีตดอีกชนิดแถวบ้านเรียกมัจจุราชเงียบ ถ้ามาแล้วจะรุนแรงมาก แถมจับมือใครดมไม่ได้ ต้นตอมาจากใครก็ไม่รู้ แต่เราโทษพี่จีนไว้ก่อน
3. อุจจาระ ขี้ :
ถ้าเห็นส้วมที่ปิดฝาอยู่ สัญชาตญาณของเราจะบอกว่าไม่น่าเสี่ยง แต่นี่ห้องน้ำรวมแล้วดันมีห้องเดียวทำไงดีจ๊ะ! ขณะยืนลังเลอยู่นั้น ก็มีสาวน้อยสัญชาติจีนเดินพรวดพราดแซงคิวเข้าห้องน้ำไป ในใจลึกๆแอบคิดว่า “ซวยแล้ว” หลังจากนั้นไม่นานผมก็เดินสวนเธอเข้าไป ผมถึงกับตะลึงจนหูรูดเกร็ง เพราะสิ่งที่พบเจอคืองูเห่าสองตัวขนาดประมาณแขนพาดทับกันอยู่เป็น 2 Layer แบ่งสีกันอย่างชัดเจน แสดงให้เห็นว่าก่อนหน้านี้มีเจ้าถิ่นจับจองพื้นที่อยู่แล้ว แต่เธอยังปล่อยงูอีกตัวลงไปพร้อมยักใหล่บอก “กูไม่แคร์” ใจคออำมหิตมาก กะฆ่าให้ตายเลยสินะ นี่ไม่เคยอ่านชาวนากับงูเห่าเลยใช่มั้ย
มันเป็นปริศนาลึกลับที่แม้แต่เจ้าหนูโคนันก็ยังมิอาจหาคำตอบได้ นั่นคือ…ทำไมน้องไม่กดส้วม? ระดับความรุนแรง : ขึ้นอยู่กับว่าขณะนั้นเราปวดมากแค่ไหน ทนได้หรือเปล่า ทนได้ก็รอห้องอื่นไป ทนไม่ไหวก็คำเดียวเลยครับ…นรก!
4. ขากถุย ถ่มน้ำลาย :
เคยมีชาวจีนหลงทัวร์มาถามทางอยู่หนหนึ่ง แต่พูดภาษานาเม็กอะไรไม่รู้เรื่องเลย ด้วยความรำคาญเลยบอกทางแบบมั่วๆไป ไม่คิดว่าวันนี้ชาวจีนเหล่านั้นจะแค้นฝังหุ่น ใช้เหตุผลนี้มาเป็นข้ออ้างในการ ‘ถ่มน้ำลาย’ ทำลายทัศนียภาพของเราไปทุกหนแห่ง ใครก็ตามที่ไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แล้วเห็นคราบน้ำลายกระจายตัวเป็นจุดๆ นั่นแสดงให้เห็นว่าทัวร์จีนได้เดินผ่านมาทางนี้แล้ว ถ้าใครหลงให้เดินตามมา ถ้าเป็นน้ำลายกองใหญ่ๆ แสดงว่าตรงนี้สูบบุหรี่ได้คะ ไม่ต้องรีบ ควักบุหรี่ขึ้นมาสูบอย่างสบายอารมณ์ก่อน แล้วจะไปไหนต่อก็เดินตามทางน้ำลายมาละกัน
ระดับความรุนแรง : ขึ้นอยู่กับปริมาณของประชากร ถ้าทัวร์ลงสัก 10 คัน ตรงบริเวณที่พักสูบบุหรี่จะกลายเป็นบ่อน้ำโอเอซิสเลย ไอบ้า! ประเทศไทยไม่ได้แล้งขนาดนั้น
5. แซงคิว แซงคิว :
เป็นการทำลายดรรชนีความสุขที่มีประสิทธิภาพสูง ได้ผลเป็นวงกว้าง ประหนึ่งยิงปืนครั้งเดียวได้นกสองตัว เพราะแซงหนึ่งทีนี่เครียดกันทั้งแถว และกลเม็ดนี้สามารถทำได้ทุกที่ด้วยซิ ทั้งคิวห้องน้ำ คิวกินข้าว คิวขึ้นรถ คนพวกน้ีถูกฝึกวิชามาอย่างแข็งแกร่ง ย่ิงด่ายิ่งตอบโต้
ถ้าเราสะกิดเบาๆ พี่แกจะตะโกนกลับมาด้วยเสียงที่ดังกว่าหลายเท่า แล้วเป็นภาษาอาฉี่อะไรก็ไม่รู้ กลายเป็นเราอายแทนเลย เหมือนเราทำผิดโดนจับได้แล้วก็โมโหแก้เขิน ระดับความรุนแรง : ขึ้นอยู่กับคิวของแถว ยิ่งยาวยิ่งทวีคูณความบันดาลโทสะ
6. ต่อราคา ต่อราคา :
ฮาวมัช? ตอบไป “ไฟว์ฮันเดร็ด” พี่แกกดเครื่องคิดเลขกลับมาให้ดูตัวเลข 100 เราบอก โน! โน! เต็มที่ทรีฮันเดร็ด กดกลับมาให้ดูอีกทีร้อยยี่ พระเจ้า!!! บอกไม่ขายก็ส่ายหน้าแล้วเดินหนีไป
ต่อแบบนี้คิดในใจนี่พี่จะไม่ให้กำไรผมเลยเหรอ ที่ต่อนี่ต้นทุนยังไม่ได้เลย ไม่ใช่หมูปลอมต้นทุนต่ำอย่างบ้านพี่นะ! นี่รวมไปถึงความขี้งกแบบสุดๆ จนเราต้องเอือมไปตามๆกัน มีคนเคยเจอชาวจีนแต่งชุดนักศึกษาอยู่ที่เชียงใหม่ เลยเข้าไปพูดคุยด้วยว่ามาเรียนที่นี่เหรอ พี่แกบอกว่า“เปล่า เห็นใส่ชุดนักศึกษาไปไหนแล้วเขาจะลดราคาให้ อย่างเช่น รถแดง” สะพรึงกันทั้งตำบล!
นี่พี่ทำลายถึงโครงสร้างทางเศรษฐกิจของผมเลยนะเนี่ย มีอีกกรณีเจอพวกพี่แกไปบริโภคก๋วยเตี๋ยวกัน ทางร้านก็ใจดี๊ใจดี ให้ตักซุปกระดูกหมูฟรี มากัน 3 คน พี่แกสั่ง 1 ชาม พร้อมตักกระดูกหมูไปแทะเล่นๆประมาณ 5 โลฯ ได้ไม่ให้ทิปซักบาท แถมทิ้งกระดูกให้ดูต่างหน้าเต็มพื้นอีกต่างหาก ระดับความรุนแรง : ขึ้นอยู่กับว่าเป็นช่วงไหนของเดือน ต้นเดือนก็ไม่ค่อยเป็นไร แต่ปลายเดือนนี่…ปลายประสาทอาจจะอักเสบเอาได้ครับ
7. เสียงดัง เสียงดัง:
ลำพังพี่เขามาคนสองคนก็หนวกหูบรรลัยแล้ว ยิ่งมารวมตัวกันเป็นก้อนใหญ่ๆแล้วล่ะก็ ไม่ต่างอะไรกับม็อบที่กระจัดกระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ เสมือนมีเครื่องเสียงระดับหนึ่งแสนเดซิเบลวัตต์อัดแน่นอยู่เต็มพื้นที่ บางที่มีนกหวีดอีกด้วย หนวกหูโฮกๆ เมื่อไหร่ที่ผู้นำม็อบยกระดับการชุมนุมขึ้นด้วยการโหวกเหวกใส่อารมณ์แล้วล่ะก็ คนในม็อบจะยิ่งส่งเสียงให้ดังสูสี เพื่ออรรถรสที่เท่าเทียมกัน พี่ไม่ต้องยกระดับความรุนแรงขนาดนั้นก็ได้ นี่ในวัด ไอ่บ้า!! แก้วหูดับไปหมดแล้วเนี่ย ระดับความรุนแรง : ขึ้นอยู่กับแกนนำ และขนาดของม็อบ
8. No กาลเทศะ
นอกจากดูจระเข้แล้ว สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์บ้านเรา วัดเก่า อารามณ์หลวง นี่เป็นสถานที่ยอดฮิตของชาวจีนเลยครับ
พี่แกพร้อมที่จะสร้างสรรค์งานศิลปะใหม่ๆให้กับประวัติศาสตร์อันน่าภูมิใจของไทยเราได้เสมอ ด้วยการแอบวาดรูปโดเรม่อนตามผนังถ้ำ แถมบางทียังขึ้นไปถ่ายรูปบนเศียรพระ ราวกับว่าได้ไปถ่ายรูปกับดาราเกาหลี โท่ถัง!!! นี่ไม่ใช่ครกยักษ์ส้มตำปูม้าป้าประไพร หรือสัญลักษณ์ของบ้านลาปลาเผา ที่พี่เห็นตามตลาดนะ ระดับความรุนแรง : ขึ้นอยู่กับความศักดิ์สิทธิ์ และแรงศรัทธา
9. วิถีนิยมของนักท่องเที่ยวชาวจีน แหล่งที่พบเจอ :
โบ๊เบ๊, สำเพ็ง, พันธุ์ทิพย์, วัดพระแก้ว, เชียงใหม่ ฯลฯ วิธีสังเกต : ถือถุง Naraya มากันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ หรือได้ยินเสียงโหวกเหวกมาแต่ไกล ให้สันนิษฐานไว้ในใจว่า… “ใช่เลย”
ขอบคุณข้อมูล http://www.marketingoops.com/digital-life/chinese-lifestyle-thailand-watch-out/, damnmagazine