เชื่อว่าหลายคนก็ยังไม่รู้จัก "อุปาทานหมู่" แต่ถ้าถามว่าเคยได้ยินข่าวเหตุการณ์ที่มีคนแสดงอาการประหลาดๆ เช่น ลงไปชักดิ้นชักงอ ตัวเกร็ง ร้องไห้ หรือกรีดร้องลั่น เหมือนคนของขึ้นมั้ย ก็คงตอบพร้อมกันว่าเคยแน่นอน ซึ่งน้องๆ อาจจะเคยได้ยิน หรือ แจ็คพ็อตแตกหน่อย ก็อาจเคยเห็นด้วยตาตัวเอง
ความประหลาดของปรากฏการณ์นี้ อยู่ที่คนที่เกิดอาการดังกล่าว จะแท็กทีมกันมาเป็นกลุ่ม และแสดงอาการเหมือนกันทั้งกลุ่ม ซึ่งส่วนใหญ่ที่พบเห็น จะเป็นงานบวงสรวง หรือพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ อย่างไรก็ตาม ในเหตุการณ์แบบนี้ก็มีหลายคนตั้งข้อสังเกตกันมากมายว่า เป็นเรื่องจริง ที่เกิดจากสิ่งเหนือธรรมชาติ เพราะโดนของเข้าจริงๆ หรือ เป็นแค่อุปาทานหมู่ เห็นคนอื่นเป็นแล้วก็พลอยเป็นตามไปด้วย ดังนั้นหลายๆ ครั้งจึงคลุมเครืออยู่ว่า สิ่งเหล่านี้เป็นไสยศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์กันแน่??
หากมองแบบไสยศาสตร์ คนที่เชื่อก็มีมาก ก็จะมองว่าเกิดจากเจ้าที่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือคนที่มีของอยู่ในตัว พออยู่ท่ามกลางพิธีการ เช่น สวดพาณยักษ์ หรืองานบายศรี ก็จะเกิดองค์ลง หรือลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผีจึงเข้า แต่สำหรับวิทยาศาสตร์กลับคิดต่างและมองว่า เหตุการณ์นี้เป็นเพียงโรคติดต่อทางจิต หรืออุปาทานหมู่นั่นเอง
จุดเริ่มต้นของอาการ เชื่อว่า เกิดจาก "คนแรก" (ตัวเหนี่ยวนำ) มักจะเป็นคนที่มีภาวะจิตใจเข้มแข็ง อาจเกิดจากความเครียดสะสม จนกระทั่งแสดงอาการออกมา คนที่อยู่รอบข้างเห็นอาการเหล่านั้น ก็ตกใจและไปกระตุ้นให้เกิดอารมณ์หรือความรู้สึกร่วมและเป็นไปกับเค้าด้วย พอหลายๆ คนเป็นพร้อมกัน ก็ยิ่งกระตุ้นให้คนข้างเคียงแสดงออกตามกัน คล้ายลูกโซ่ ดังนั้น หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้จริงท่ามกลางคนหมู่มาก วิธีการแก้ไขที่ดีที่สุด คือ นำคนที่มีอาการออกจากพื้นที่ตรงนั้น เพื่อไม่ให้แพร่กระจายไปเยอะกว่านี้
นอกจากนี้ อุปาทานหมู่ ยังรวมไปถึงการมีความเชื่อหรือพฤติกรรมตามๆ กัน ซึ่งจะไม่เกี่ยวข้องกับการชักเกร็งแต่อย่างใด เช่น ที่เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย อยู่ๆ ชาวบ้านก็เชื่อว่าน้ำทะเลมีรสหวาน ทั้งๆ ที่ทะเลดังกล่าวก็เค็มเป็นปกติ แถมยังเจือปนด้วยน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมาก ใช้เวลาเพียงไม่นานชาวบ้านจากพื้นที่ใกล้เคียงก็เชื่อว่า น้ำทะเลในหมู่บ้านของเขาก็มีรสหวาน ทำให้มีทั้งชาวบ้านที่กิน และเก็บไว้เพื่อบูชาเป็นจำนวนมาก
แต่ตัวอย่างของปรากฏการณ์อุปาทานหมู่ ที่รู้สึกว่าน่ารักและแปลกที่สุดเท่าที่เคยเจอมาก็คือ อุปาทานหมู่หัวเราะไม่หยุด น้องๆ อาจจะเคยรู้สึกว่าเราเองก็เคยหัวเราะตามเพื่อน ทั้งๆ ที่เรื่องเล่าไม่ได้ขำหรอก เห็นเพื่อนขำจริงจัง ก็เลยหัวเราะเพื่อนนั่นแหละ สุดท้ายก็พากันหัวเราะจนเหนื่อย เหตุการณ์นี้ก็คล้ายๆ กัน โดยเกิดที่ประเทศแทนแกนนิยา (แทนซาเนีย ในปัจจุบัน) มีนักเรียนหญิงกลุ่มหนึ่งกำลังเล่าเรื่องตลกกัน เด็กๆ ก็เริ่มหัวเราะ จากกลุ่มเล็กๆ มันได้ขยายไปคนที่อยู่ข้างๆ คนที่เดินผ่านก็โดนด้วยเหมือนกัน พอเด็กกลับบ้านก็ไปแพร่ให้พ่อแม่หัวเราะตาม บทสรุปก็คือ ไปไกลยังหมู่บ้านอื่นๆ นับรวมคนที่เป็นโรคหัวเราะไม่หยุดก็เป็นพันๆ คน เลยค่ะ
สรุปแล้วปรากฏการณ์นี้ ในทางวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเป็นปรากฏการณ์ทางจิต จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่ออยู่รวมกันเป็นกลุ่มคนเยอะๆ และมีความเชื่อที่คล้ายๆ กัน โดยไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติแบบบ้านเราเท่านั้น ดังจะเห็นได้ว่าประเทศอื่นๆ ก็มีปรากฏภารณ์อุปาทานหมู่แบบแปลกๆ ให้เห็นมากมาย แต่ถ้าให้เดา พี่มิ้นท์คิดว่าที่เมืองไทยเกิดปรากฏการณ์กลุ่มคนขนาดใหญ่ชัก หรือองค์ลงบ่อยๆ ก็เป็นเพราะว่า ประเทศเรามีกิจกรรมที่ต้องรวมตัวกันเพื่อประกอบพิธีกรรมอยู่บ่อยๆ เช่น บวงสรวง ทำขวัญ รับน้อง และคนไทยก็มีความเชื่อด้านนี้ค่อนข้างเยอะนั่นเอง
ขอขอบคุณที่มา ::: :::dek-d :: พี่มิ้นท์ชวนเม้าท์ :: ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ จากหนังสือจิตพิกล คนพิลึก
รูปภาพประกอบจาก
http://carlmaxim.wordpress.com, http://news.tlcthai.com, http://presurfer.blogspot.com