จึงได้เป็นตัวแทนนักเรียนในการพูดสุนทรพจน์จบการศึกษา และในวันนั้นคนทั้งโรงเรียนถึงกับอึ้ง เพราะเขาเผยว่าตัวเองเป็นโฮมเลสหรือเด็กไร้บ้าน
ทุกๆวันที่เขาตื่นนอน เขารู้ดีว่าเตียงนอนนั่นไม่ใช่ของเขา เพราะตั้งแต่เขาอายุเพียง 6 ขวบ โรคมะเร็งได้คร่าชีวิตแม่ของเขาไป ทำให้เขาและพ่อต้องระหกระเหินกลายเป็นคนเร่ร่อนไร้บ้านนับตั้งแต่นั้นจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 12 ปีแล้ว
อาจารย์หลายคนในโรงเรียนก็เพิ่งจะรู้ความจริงอันน่าเวทนาของเด็กนักเรียนคนนี้ในวันที่จบการศึกษาและมีสื่อกระพือข่าวเรื่องนี้ออกไป อาจารย์ของเขาก็รู้สึกอึ้ง เพราะเขาเป็นเด็กนักเรียนที่ตั้งใจเรียนมาก ไม่เคยขาดส่งการบ้านเลยแม้แต่ครั้งเดียว ผลการเรียนยังเป็นที่หนึ่งอีกด้วย หลังจากความจริงเปิดเผย เพื่อนๆของเขาจึงร่วมกันช่วยระดมเงินทุนค่าเล่าเรียนในมหาวิทยาลัยให้เขา เพื่อช่วยเหลือให้เขามีอนาคตทางการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยต่อไป
Avery แฟนสาวของเขา และพ่อแม่ของเธอก็ชื่นชมในความไม่ย่อท้อต่อชะตาชีวิตของเด็กหนุ่มผู้นี้ จึงจัดห้องพักห้องหนึ่งในบ้านให้เขามาพักอาศัยอยู่ด้วย
ขณะที่กล่าวสุนทรพจน์จบการศึกษานั้น เขากล่าวกับนักเรียนทุกคนว่า "คำว่า ล้มเลิก ไม่เคยอยู่ในตัวเลือกของผม" "ทุกคนคงคิดว่าการที่ผมสอบได้คะแนนดีเป็นเพราะผมฉลาดมาก แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย ผมพยายามจนได้มาต่างหาก เพราะชีวิตผมเคยสูญสิ้นทุกอย่างไปหมด ไม่เหลืออะไรเลย"
และเขายังบอกอีกว่า "อย่าจมปลักอยู่กับแต่อดีต แต่ให้ใช้มันเป็นแรงผลักดันต่ออนาคต สิ่งที่จะทำให้ชีวิตคนเราได้ดีก็คือ คุณต้องมีแรงขับดัน มีใจที่กระตือรือร้น และที่สำคัญที่สุดคือ มีเป้าหมายในชีวิต"
เขาเขียนคำพูดไว้คอยเตือนใจตัวเองบนหมวกเบสบอลของเขาว่า "ไม่เคยยอมแพ้"
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่ายอมแพ้ต่อโชคชะตา ถ้าเราพยายาม สักวันต้องได้ดี ช่วยกันแชร์เรื่องดีๆแบบนี้ ให้เพื่อนๆได้มีกำลังใจในการสู้ชีวิตต่อไป