จากการสืบเบาะแสคนร้าย ตำรวจพบว่าระหว่างทางกลับบ้าน ยามรายนี้ขี่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า และวางกล่องใบใหญ่อีกสองกล่องไว้ด้วยในเวลากลางดึกเที่ยงคืน ตำรวจจึงสกัดจับและสอบสวน ซึ่งนายกู้ก็ให้การวกวน จนในที่สุดก็ต้องยอมรับว่าของในกล่องทั้งสองใบเป็นของที่ขโมยมาจากโรงงาน
ในตู้เย็นของนายกู้ ยามหัวขโมยเต็มไปด้วยไข่ไก่ แถมยังเขียนวันที่ขโมยมาลงบนไข่อีกด้วย
หลังจากโดนตำรวจไล่บี้ ยามคนนี้จึงต้องยอมจำนนและสารภาพเรื่องที่ตัวเองทำมาทั้งหมดว่า หลังจากที่ได้เป็นยามกะดึกในโรงงานนี้มาปีกว่าก็ขโมยของมาเรื่อยๆกี่ครั้งไม่รู้ รู้แต่ว่าเกินร้อยครั้ง ของทั้งหมดที่ขโมยก็เอามาไว้ในบ้านนี่แหละ ซึ่งก็ตำรวจก็ค้นพบว่าในบ้านเต็มไปด้วยของที่ขโมยมา ตั้งแต่ไม้กวาด ไม้ถูพื้น แปรงสีฟัน ผ้าขนหนู ตะปู เข็มกลัด ฯลฯ
ขโมยผงซักฟอกมาตั้งเยอะแยะ
ของกระจุกกระจิกที่ขโมยมา
ไม้กวาดยังขโมยมาตั้งหลายอัน
เกลือจำนวนมากวางกองไว้ที่มุมห้อง ในตู้แช่แข็งลิ้นชัก 3 ชั้น อัดแน่นไปด้วยเนื้อสัตว์ ตู้เย็นมีไข่ 400 กว่าใบ และยังเขียนวันที่ขโมยใมบนเปลือกไข่เพื่อจะได้รู้ว่าต้องรีบกินไข่ฟองไหนก่อน
นายกู้ หัวขโมยรายนี้ยอมรับว่าครั้งแรกที่เริ่มขโมยคือเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว เขาพบว่าโรงอาหารของโรงงานไม่ได้ล็อคประตู ก็เลยเริ่มขโมยไข่และเกลือกลับบ้าน และเป็นเพราะมันเป็นของเล็กๆน้อยๆที่หายไป เลยไม่มีคนตรวจเช็คเจอว่าของหาย จากนั้น เขาก็เริ่มชินกับการขโมยของนู่นนี่นั่นกลับบ้านตลอด ทั้งที่ไม่ได้มีปัญหาทางการเงินเลย แต่ที่ขโมยเป็นเพราะความโลภเล็กๆน้อยๆเท่านั้นเอง
ของที่ขยันขโมยมาเรื่อยๆ ทั้งไข่ไก่ เนื้อสัตว์ ถามจริงกินหมดหรือไงนะ
ทุกคนต้องตะลึงกับจำนวนไข่ไก่ที่มากมายเต็มไปหมด และเมื่อถามเขาว่าทำไมต้องขโมยไข่มาเยอะขนาดนี้ เขาตอบทันทีว่า 「เพราะว่าผมชอบกินไข่มากๆ」
โฆษกของโรงงานแห่งนี้เปิดเผยว่า อึ้งกับการขโมยของยามรายนี้มากๆ และเพิ่งจะเข้าใจก็คราวนี้ว่าทำไมยามคนนี้ถึงชอบเข้าเวรกะดึกจัง ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง...ถึงจะโลภของเล็กๆน้อยๆ แต่การขโมยของก็เป็นความผิดนะจ๊ะ ต่อไปนี้คงต้องไปกินไข่ในคุกแทนแล้วยามกู้เอ๊ย