ประเทศญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่น่าหลงไหลในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นความมีระเบียบวินัยของผู้คน ด้านวัฒนธรรม หรือจะเป็นงานศิลปะและธรรมชาติต่างๆ
ยิ่งช่วงนี้มีคนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นเยอะมาก แต่บางทีเราก็ไม่รู้จะไปที่ไหนดี วันนี้เหมียวจะพามาชม 24 สถานที่น่าไปในญี่ปุ่น รับรองว่าต้องฟินแน่ๆ สำหรับคนรักการเที่ยวชมธรรมชาติและชอบเสพบรรยากาศ
ภูเขาไฟฟูจิถือเป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญเลยก็ว่าได้ ตั้งอยู่ที่เกาะฮอนชู เป็นภูเขาสูงขนาด 12,389 ฟุต และสูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้
วัดไดโกจิในโตเกียว เหมาะแก่การไปเที่ยวในฤดูใบไม้ร่วงเป็นอย่างมาก เพราะเราจะได้เห็นใบไม้หลากหลายสีสัน
จิโกกุดานิ ถูกขนานนามว่าหุบเขานรก ในระแวกนั้นเต็มไปด้วยบ่อน้ำพุร้อน บางแห่งก็มีกำมะถันปะปนอยู่ และมีภูเขาไฟที่ยังมีชีวิต แต่มันก็งดงาม ควรค่าแก่การไปเหยียบสักครั้ง
และที่จิโกกุดานิก็ยังมีบ่อน้ำพุร้อนสำหรับลิงให้ได้แช่กันอีกด้วย ซึ่งลิงที่อาศัยอยู่แถวนี้เป็นลิงหิมะนั่นเอง
ซาโอะออนเซ็น รีสอร์ทและบ่อน้ำพุร้อนบนภูเขายามากาตะ ซึ่งแถวนั้นคนมักจะเรียกกันว่าต้นไม้น้ำแข็ง เพราะต้นไม้แถวน้ำโดนหิมะปกคลุมจนทั่วจนแทบมองไม่เห็นสีเขียวเลยถือเป็นรีสอร์ทที่เก่าแก่มากแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น
สวยคาราชิ ฟูจุ ที่คิตะเคียวชู เป็นบ้านของเหล่าดอกวิสเตอร์เรียกว่า 20 สายพันธุ์หลาากหลายสีสันให้อยู่อาศัยกัน ซึ่งเราสามารถเดินลอดผ่านอุโมงค์ของมันได้
ถ้าไปช่วงฤดูใบไม้ผลิ แน่นอนว่าพลาดไม่ได้กับดอกซากุระ
ในหน้าหนาวที่คุวานะ มีสิ่งที่เรียกว่า นาบานะ โนะ ซาโตะ ซึ่งเป็นสวนขนาดใหญ่ โดยที่ตอนกลางคืนเขาจะเปิดไฟ LED กว่า 7 ล้านดวงเพื่อสร้างเป็นภาพอันงดงาม งานนี้จัดประมาณกลางเดือนพฤษจิกายนของทุกปี
“หินแต่งงาน” ที่สื่อถึงเจ้าบ่าวและเจ้าสาว เหมาะแก่การไปเที่ยวหน้าร้อน เพราะเราจะเห็นพระอาทิตย์ตกระหว่างหินทั้ง 2 ก้อน
ป่าไผ่ซากาโนะ ตั้งอยู่ที่อาราชิย่าม่า เป็นป่าไผที่มีความยาวถึง 500 เมตร คุณจะได้ยินเสียงลมพัด เสียงไม้ไผ่กระทบกัน แค่นึกก็ฟินแล้ว
ภูเขาโยชิโนะ เป็นอีกที่หนึ่งที่คุณสามารถไปเยี่ยมชมดอกซากุระได้ แถมยังมีเยอะอีกด้วยกว่า 30,000 ต้น
ร้านอาหารหุ่นยนต์ เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาโตเกียวมากขึ้น ด้วยการที่มีโชว์หุ่นยนต์กว่า 3 ชั่วโมง แค่ได้มาดูก็คุ้มแล้วล่ะ
พระนอนที่วัดNankin ในเมืองฟุกุโอกะ เรียกได้ว่าเป็นปางที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาพระพุทธรูปที่ทำจากทองแดงแล้ว ด้วยความสูงกว่า 11 เมตรและยาว 41 เมตร
แม่น้ำโออิ ไหลผ่านเมืองอาราชิยาม่าในเกียวโต คุณสามารถนั่งเรือชมธรรมชาติชิวๆได้
ปราสาทมัตซึโมโต้ มีมาตั้งแต่ปี 1590 และยังคงอยู่ในสภาพดีและคงความเป็นญี่ปุ่นไว้ด้วยการผสมผสานศิลปะจากหินและไม้
Beppu ในเคียวชู สวรรค์ของคนรักการแช่ เพราะมีหลายบ่อให้คุณได้เลือกไม่ว่าจะเป็นบ่อน้ำพุร้อน บ่อทราย และอีกมากมาย
สวน Hitachi Seaside Park เหมาะสำหรับคนรักสีเขียว มองแล้วสบายตา ตั้งอยู่ในเมืองอิบารากิ
เทศกาล Otofuke Tokachigawa Swan Festival Sairinka ที่ โทคาชิงาโอกะพาร์ค ซึ่งจะมีเมื่อเดือนมกราคมไปจนถึงเดือนมีนาคม
บ่อน้ำไทโช เป็นบ่อน้ำที่ใสราวกับกระจก เหมาะแกการมาเดินเล่นชิวๆ เห็นวิวภูเขาทาเกะผ่านเงาน้ำ
เทศกาลหิมะที่ซับโปโร จัดขึ้น 7 วันในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งในงานเราก็จะได้เห็นผลงานแกะสลักหิมะมากมาย และมีผู้เข้าชมกว่า 2 ล้านคนเข้าชมงานนี้ในแต่ละปี
หาดอนจูกุที่เมืองชิบะ เหมาะแก่คนรักทะเล
ทุ่งลาเวนเดอร์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นที่กามิฟูราโน่ ซึ่งเราจะได้เห็นวิวของภูเขาโทคาชิ และทุ่งลาเวนเดรอ์หลากหลายสีสัน
พิพิธภัณฑ์ทรายที่ Tottori Sand Dunes เปิดให้คุณเข้าชมประติมากรรมที่ทำจากทรายล้วนๆ รับรองว่าคุ้มแน่นอน
พิพิธภัณฑ์ชิน-โยโกฮาม่าราเม็ง จัดแสดงประวัติศาสตร์ราเม็งของญี่ปุ่น หรือแม้จะทั่งจะไปทำเองก็ได้นะ
ที่มา businessinsider