บรรยากาศของร้าน ว่ากันว่า ร้านอาหารที่เปิดขายมานานหลายสิบปีนั้น เป็นการรับประกันความอร่อยได้อีกทางหนึ่งว่ามาแล้วจะต้องอิ่มอร่อยกลับบ้านไปอย่างแน่นอน อย่างร้านนี้ที่ “ผ่านมาแวะกิน” จะชวนไปลองลิ้มชิมรสกัน เขาก็เปิดมาได้กว่า 30 ปีแล้ว ร้านนี้มีชื่อว่า “ขาหมูเมืองทอง” ที่เปิดขายความอร่อยอยู่แถวๆ เมืองทองธานี ซึ่งร้านนี้ก็การันตีความอร่อยจากการเปิดขายมานมนาน และยังมีลูกค้าแวะเวียนมาชิมความอร่อยกันเต็มร้านอยู่ตลอดเวลา ซึ่งปัจจุบันมี คุณนงนุช แซ่อึ้ง เป็นผู้สืบทอดกิจการ

ขาหมูเปล่า ขาหมูของที่ร้านนี้จะเป็นสูตรโบราณตุ๋นยาจีน โดยจะใช้ขาหมูคัดพิเศษแบบคุณภาพดี สดใหม่ทุกวัน และจะต้องเลือกใช้เฉพาะขาหลังเท่านั้น นำมาทำความสะอาด นำไปทอดในน้ำมัน แล้วจึงตุ๋นกับเครื่องยาจีนราวๆ 3 ชั่วโมง ส่วนน้ำขาหมูนั้นก็จะใช้น้ำซุปกระดูกหมูมาตุ๋นเป็นน้ำซุปแล้วจึงปรุงรสอีกครั้ง ชิมเนื้อหมูนุ่มๆ ได้รสชาติและกลิ่นหอมของเครื่องยาจีน น้ำราดขาหมูก็กลมกล่อม อร่อยกำลังดี กินกับพริกน้ำส้มเพิ่มความจี๊ดจ๊าด ส่วนคากิ และไส้ใหญ่ก็เนื้อนุ่มอร่อยมากๆ ขาหมูของที่นี่จะมีให้เลือกทั้งตัวน่อง เนื้อล้วน หนัง คากิ ไส้ใหญ่ และไข่พะโล้ ที่ลูกค้าสามารถเลือกส่วนไหนก็ได้ตามชอบ สามารถเลือกได้ทั้งแบบ ขาหมูราดข้าว (50/60/80 บาท) หรือจะเลือกอิ่มอร่อยกับขาหมูเน้นๆ เป็น ขาหมูเปล่า (100/150/200 บาท) นำมากินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ (10 บาท)

กวยจั๊บน้ำข้น ถัดจากขาหมู หันมาลองชิม กวยจั๊บน้ำข้น (50-60 บาท) ที่อร่อยไม่แพ้กัน กวยจั๊บที่นี่เป็นแบบตุ๋นยาจีน ใส่เต้าหู้ กระเพาะหมู ตับ ไส้หมู ไข่พะโล้ เนื้อหมู และหมูกรอบ ส่วนเส้นก็นุ่มๆ ก็ลวกมาสุกพอดี กินกับน้ำซุปหอมเครื่องยาจีนรสชาติกลมกล่อม กินแล้วอร่อยเพลิน หรือหากใครไม่ชอบกวยจั๊บน้ำข้น ก็มี กวยจั๊บน้ำใส ให้เลือกชิมด้วย โดยจะใช้น้ำซุปเคี่ยวกระดูกหมูอร่อยกลมกล่อมเช่นกัน

หน่อไม้ตุ๋นยาจีน ของอร่อยอีกเมนูที่อยากให้ลองชิมคือ หน่อไม้ตุ๋นยาจีน (100 บาท) ที่จะต้องใช้หน่อไม้ของเมืองจีน นำมาตุ๋นกับกระดูกอ่อนและเห็ดหอมนาน 3 วัน เรียกว่าเป็นหน่อไม้ตุ๋นยาจีนสูตรโบราณ ที่หน่อไม้เนื้อนุ่มอร่อยเปื่อยดี กับกระดูกหมูที่เปื่อยนุ่มเช่นกัน กินแล้วทั้งหอมทั้งอร่อยถูกปาก ส่วนใครชอบกินหมูทอด แนะนำ หมูกรอบ+หมูทอด (เริ่มต้น 100 บาท) ซึ่งหมูกรอบของที่นี่จะใช้หมูสามชั้นอย่างดี นำมาหมักเครื่องปรุง แล้วค่อยนำไปทอด ได้หมูกรอบที่หนังกรอบ เนื้อนุ่ม มันน้อย เคี้ยวแล้วอร่อยเพลิน ส่วนหมูทอด หรือ โหงวเฮียงบะ ของที่นี่ ก็ต้องนำมาหมักกับยาจีน โดยใช้เนื้อหมูส่วนสันใน หมักอยู่หลายชั่วโมง ก่อนจะนำไปทอด ได้หมูทอดเนื้อนุ่มหอมอร่อย จะกินกับข้าวสวยร้อนๆ หรือกินเปล่าๆ ก็อร่อยเหมือนกัน

อ่านต่อได้ที่ http://www.manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9580000058674