ทิวทัศน์อันงดงามบนยอดเขาล้อมหมวก
เมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้ชื่อว่าเป็น “เมืองสามอ่าว” เนื่องจากในตัวเมืองด้านที่ติดทะเลอ่าวไทยนั้นเป็นที่ตั้งของอ่าว 3 อ่าวด้วยกัน ได้แก่ อ่าวน้อย อ่าวประจวบคีรีขันธ์ และอ่าวมะนาว
สำหรับ “อ่าวมะนาว” ได้ชื่อมาจากลักษณะของอ่าวที่โค้งกลมดังผลมะนาว โดยอ่าวแห่งนี้เป็นที่ตั้งของ “กองบิน 5” ของกองทัพอากาศ ซึ่งเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวชมภายในเขตทหาร อันมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายน่าสนใจไม่น้อย
อาคารประวัติศาสตร์สงครามในกองบิน 5
อนุสาวรีย์รายนามผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ญี่ปุ่นยกพลขึ้น
เนื่องจากที่อ่าวมะนาวนี้เคยเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ โดยเมื่อครั้งเหตุการณ์สงครามมหาเอเชียบูรพาในปี 2484 ทหารญี่ปุ่นได้ยกพลขึ้นบกในบริเวณอ่าวมะนาวแห่งนี้เพื่อใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านไปยังประเทศพม่า ทหารไทยได้ต่อสู้อย่างเข้มแข็งแม้จะมีกำลังพลเพียง 120 คน ต่อสู้กับทหารญี่ปุ่นซึ่งมีกำลังพลถึง 3,000 คน ซึ่งสุดท้ายแล้วฝ่ายไทยเสียชีวิต 42 ราย ซึ่งประกอบด้วยทหารอากาศ 38 นาย ตำรวจ 1 นาย ยุวชนทหาร 1 คน และครอบครัวทหาร 2 คน
ดังนั้น ทางกองบิน 5 จึงได้จัดทำพื้นที่ประวัติศาสตร์ซึ่งเคยเป็นสนามรบนี้ให้เป็น “พิพิธภัณฑ์อุทยานประวัติศาสตร์กองบิน 5” โดยมีสิ่งที่น่าสนใจให้ชมหลายอย่าง ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงประวัติศาสตร์สมัยญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกที่อ่าวมะนาว โดยมีอาคารพิพิธภัณฑ์ 3 หลังด้วยกัน อาคารหลังแรกเป็นอาคารโถงชั้นเดียวทาสีฟ้า ภายในจัดแสดงพื้นที่ของกองบิน 5 ที่จำลองขึ้น อีกทั้งยังมีวีดิทัศน์เล่าเรื่องราวเหตุการณ์เมื่อครั้งญี่ปุ่นบุกกองบิน 5 ในครั้งนั้น
อาคารพิพิธภัณฑ์หลังใหม่
รูปภาพของ พล.อ.ท.ศรีศักดิ์ สุจริตธรรม ในห้องจัดแสดงบนชั้น 2
อาคารหลังที่ 2 เป็นอาคารประวัติศาสตร์สงคราม ซึ่งเดิมเป็นบ้านพักนายทหารชั้นสัญญาบัตร เป็นเรือนแถวไม้สีฟ้าชั้นเดียวยกพื้น ภายในจัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์สมัยญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกซึ่งจัดทำอย่างทันสมัย โดยแบ่งเป็น 5 ห้อง คือ “ห้องอุบัติการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2” ซึ่งเป็นการบรรยายว่าสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดขึ้นได้อย่างไร “ห้องชีวิตทหารไทยในไฟสงคราม” “ห้องการเจรจาขอผ่านแดน” “ห้องเกียรติภูมิผู้กล้า” และ “ห้องสู่สันติภาพ” ซึ่งแต่ละห้องนั้นได้บรรยายถึงเหตุการณ์ของสงครามมหาเอเชียบูรพาที่ทำให้เห็นว่าทหารไทยและคนไทยพร้อมต่อสู้สละเลือดเนื้อเพื่อปกป้องประเทศชาติ
ส่วนอาคารพิพิธภัณฑ์หลังที่ 3 นี้เพิ่งจัดทำขึ้นมาใหม่ เดิมเป็นบ้านพักนายทหาร 2 ชั้น ทาด้วยสีครีม บริเวณชั้นล่างจัดแสดงเรื่องราวของประวัติศาสตร์กิจการบิน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของกองทัพอากาศไทย รวมถึงประวัติศาสตร์ของกองบิน 5 อีกทั้งยังเล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาของภาพหินแกะสลัก ณ บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์ ที่แกะสลักภาพวีรกรรมของทหารอากาศที่เสียสละเลือดเนื้อเพื่อขัดขวางการยกพลขึ้นบกของทหารญี่ปุ่นที่อ่าวมะนาว
การจัดแสดงบนชั้นที่ 2
ภาพแกะสลักหินวีรกรรมของทหารอากาศ
และบนชั้น 2 จัดแสดงเป็นห้องทำงานของ ร.ต.สมศรี สุจริตธรรม (ยศสุดท้ายและภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น พล.อ.ท.ศรีศักดิ์ สุจริตธรรม) ซึ่งเป็นนายทหารอากาศคนแรกที่เห็นเรือของทหารญี่ปุ่นขณะที่จะไปลากอวนน้ำตื้นที่อ่าวมะนาว และเมื่อเห็นดังนั้นจึงรีบกลับไปรายงานให้ผู้บังคับกองบิน 5 ทราบ และปัจจุบันท่านยังคงมีชีวิตอยู่ นับเป็นบุคคลประวัติศาสตร์ของกองทัพอากาศอย่างแท้จริง
แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของอ่าวมะนาวอีกอย่างหนึ่งก็คือ “เขาล้อมหมวก” ซึ่งเป็นภูเขาที่กั้นระหว่างอ่าวประจวบฯ และอ่าวมะนาว บริเวณเชิงเขาล้อมหมวกเป็นที่ตั้งของ “ศาลเจ้าพ่อเขาล้อมหมวก” ที่ชาวเมืองประจวบฯ ต่างเคารพศรัทธาว่าเป็นดวงวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์คอยดูแลปกปักรักษาประชาชนและสรรพสัตว์ในแถบนี้ อีกทั้งบริเวณศาลเจ้าพ่อเขาล้อมหมวกยังเป็นแหล่งอยู่อาศัยของฝูงค่างแว่นถิ่นใต้นับร้อยตัว นักท่องเที่ยวสามารถมาชมและให้อาหารได้อย่างใกล้ชิด
เจ้าพ่อเขาล้อมหมวก
ค่างแว่นถิ่นใต้ที่เชิงเขาล้อมหมวก
และบนยอดเขาล้อมหมวกซึ่งมีความสูงราว 300 เมตรนั้น ยังเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท และเป็นจุดชมวิวอ่าวเมืองประจวบฯ ได้ถึง 5 อ่าว สวยงามอย่างยิ่ง แต่การปีนป่ายค่อนข้างลำบาก โดยทางขึ้นจากตีนเขาช่วงแรกจะเป็นทางบันไดปูนมีต้นไม้ร่มรื่น มีจุดชมวิวมุมสูงของอ่าวมะนาวให้ชมเป็นระยะๆ
หลังจากหมดทางบันได เส้นทางอีกครึ่งที่จะต้องใช้แรงและพละกำลังของตัวเองป่ายปีนภูเขาหินปูนขึ้นมา โดยทางกองบิน 5 ได้เตรียมเชือกเส้นหนาไว้ให้คอยจับประคองตัวเอง แต่ก็ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เพราะตลอดเส้นทางต้องปีนป่ายภูเขาที่ชันมากน้อยสลับกัน ดังนั้นจึงควรเตรียมสภาพร่างกายและรองเท้าให้พร้อมในการเดินขึ้นสู่ยอดเขาล้อมหมวก
มณฑปพระพุทธบาทบนยอดเขา
ทิวทัศน์อ่าวประจวบฯ บนเขาล้อมหมวก
ระยะเวลาในการปีนขึ้นมายังยอดเขาอยู่ที่ประมาณ 2 ชั่วโมง เมื่อขึ้นมาถึงด้านบนจะพบกับรอยพระพุทธบาทนี้ที่ข้อมูลจากกองบิน 5 กล่าวว่าเป็นพระพุทธบาทเบื้องซ้าย เป็นการค้นพบโดยบังเอิญขณะอัญเชิญพระพุทธรูปขึ้นไปประดิษฐานบนยอดเขา เมื่ออัญเชิญพระพุทธรูปขึ้นไปถึงยอดเขาจึงได้หาก้อนหินบริเวณนั้นเพื่อรองเป็นฐานพระพุทธรูป พบว่าเมื่อเรียงหินห้าก้อนต่อกันมองเห็นเป็นรอยพระพุทธบาทเบื้องซ้าย โดยจากการตรวจสอบของกรมศิลปากรพบว่ารอยพระพุทธบาทนี้สร้างในสมัยรัชกาลที่ 4 และต่อมาในปี 2541 ก็มีการสร้างมณฑปครอบรอยพระพุทธบาทไว้ พร้อมอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปสำคัญประดิษฐานไว้เป็นที่เคารพสักการบูชาสืบมาถึงปัจจุบัน
ทั้งนี้ วิวทิวทัศน์ที่เห็นด้านบนนั้นสามารถมองเห็นได้ถึง 5 อ่าว เมื่อหันหน้าเข้าสู่แผ่นดินด้านหน้าจะเป็นกองบิน 5 มองเห็นลานบินตัดกัน ส่วนทางขวามือมองไปเห็นอ่าวประจวบฯ อ่าวน้อย และอ่าวคั่นกระได ส่วนด้านซ้ายมือมองเห็นอ่าวมะนาว และอ่าวคลองวาฬ ทัศนียภาพงดงามมากทีเดียว แต่ทั้งนี้ต้องเดินขึ้นและลงมาถึงพื้นก่อน 17.30 น. มิฉะนั้นจะอันตรายหากต้องเดินลงตอนมืด จึงควรกะเวลาขึ้นและลงให้ดี
มองลงไปเบื้องล่างเห็นวิวของกองบิน 5 อ่าวมะนาวและอ่าวประจวบฯ
ทิวทัศน์ยามเย็นพระอาทิตย์ใกล้ตก
นอกจากพิพิธภัณฑ์อุทยานประวัติศาสตร์กองบิน 5 และเขาล้อมหมวกแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถนั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจริมชายหาดของอ่าวมะนาวที่ทั้งสะอาดและเป็นระเบียบเนื่องจากอยู่ในความดูแลของกองบิน 5 มีร้านอาหารเครื่องดื่มพร้อมให้บริการ รวมถึงห้องอาบน้ำอีกด้วย
นับเป็น 1 ใน 3 อ่าวแห่งเมืองประจวบฯ ที่นอกจากจะทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์แล้ว ยังเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลากหลายสไตล์ให้เลือกมาเที่ยวกันได้อีกด้วย
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
กองบิน 5 ตั้งอยู่ใน ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผู้ต้องการปีนขึ้นเขาล้อมหมวกควรมีสภาพร่างกายที่พร้อมสมบูรณ์ ควรใส่รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าหุ้มส้น ควรเตรียมน้ำดื่มในระหว่างการเดินทาง และเอาข้าวของติดตัวไปเท่าที่จำเป็นเพราะการเดินทางค่อนข้างยากลำบาก สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในกองบิน 5 หรือการปีนเขาล้อมหมวกได้ที่ โทร.0-3261-1031 หรือ 0-3261-1017
ผู้ที่สนใจสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สามารถโทร.สอบถามได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ โทร. 0-3251-3885, 0-3251-3871, 0- 3251-3854