คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่โลกเคยเห็นมาหรอกใช่มั้ยล่ะ ไม่ใช่อาณาจักรอะไรทางตะวันตกหรอกเมี๊ยววว อาณาจักรมองโกลของเอเชียเรานี่แหละ และวันนี้เหมียวจะพาไปรู้จักกับอาณาจักรนี้กัน
เรียกได้ว่ายุคนั้นก็ไม่ได้มีอะไรที่ทันสมัยเท่ายุคนี้ แต่ชาวมองโกลนั้นสามารถยึดครองพื้นที่และสร้างสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆ ได้มากมาย แถมยังเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่โลกเคยรู้จักเลยทีเดียว
แต่เมื่อนึกถึงชาวมองโกล คนส่วนมากก็จะคิดถึงนักรบบนหลังม้าที่ดุดัน พร้อมลูกศรเท่านั้น แต่ที่จริงความลับของการขยายดินแดนของพวกเขา ต้องใช้ความสามารถที่มากกว่านั้นมาก และเราอาจไม่เคยรู้กันมาก่อนเลยล่ะ
ภาพการขยายของอาณาจักรมองโกเลีย
ขั้นแรกเลยชาวมองโกลฉลาดที่จะไม่ทำผิดแบบฮิตเลอร์หรือนโปเลียน ที่กล่าวว่าไม่ควรบุกรัสเซียตอนหน้าหนาว…แต่ชาวมองโกลกลับชอบไปเสียอีก เพราะแม่น้ำจะกลายเป็นหิมะให้ม้าของพวกเขาวิ่ง ฉลุยเลยทีนี้ เลยบุกตีได้แบบง่ายๆ จนข้าศึกไม่รู้ตัว
ทั้งประเทศจีนที่ไม่เคยถูกยึดครองโดยผู้ใด หรือชนชาติอาหรับที่แสนจะแข็งแกร่ง แต่พอเจอการเข้ามาของมองโกลก็ต้องยอมศิโรราบกันทุกราย และถึงอินเดียจะมีผู้นำที่แข็งแกร่ง แต่ก็ยังเสียดินแดนบางส่วนอย่างเลี่ยงไม่ได้…
เคล็ดลับการประสบความสำเร็จของชาวมองโกลในการบุกรุกก็คือกองทัพที่เคลื่อนที่เร็ว ไปได้ทั้งทะเลทรายอันร้อยระอุ ทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ ป่าหนาทึบ หรือแม้กระทั่งทุ่งน้ำแข็ง เพราะพวกเขาขี่ม้าได้เก่งฉกาจจนยากหาใครเทียม ถ้าเจอกองทัพกำแพงหอก ชาวมองโกลก็จะยิงธนู ถ้าเจอศัตรูบางเบา พวกเขาก็จะควบม้าตีอย่าดุดัน และมือฉมังธนูในสมัยนั้น ก็ไม่มีที่ไหนที่เทียบพวกเขาได้
แต่เบื้องหลังความสำเร็จไม่ได้มีอยู่แค่ประสิทธิภาพในการรบ เพราะไม่เช่นนั้นคงไปไหนไม่ได้ไกล อีกเบื้องหลังความสำเร็จคือการเปิดกว้างรับนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาอยู่เสมอๆ ทุกเทคโนโลยี ทุกความรู้ ชาวมองโกลเปิดกว้างมากๆ
พวกเขาใช้ทุกๆ ความได้เปรียบ ทุกๆ เทคโนโลยีในการเอาชนะศัตรู แม้กระทั่งใช้อาวุธของศัตรูเองก็ตาม แถมาวมองโกลยังเป็นผู้ที่เรียนรู้และชำนาญอะไรไวเสียด้วย ถ้าจำเป็นพวกเขาจะเอาอาวุธของชาวยุโรป มาใช้สู้ในตะวันออก และอาวุธของตะวันออกที่ได้เปรียบ ไปสู้ชาวยุโรปเลยทีเดียว
แถมในกองกำลังของมองโกล ก็ประกอบไปด้วยทั้งคริสเตียน มุสลิม ขงจื๊อ หรือแม้กระทั่งชาวพุทธ ซึ่งพวกเขาเปิดกว้างมากๆ ทางศาสนา และไม่มีศาสนาใดสำคัญหรือด้อยไปกว่ากัน นับเป็นความเท่าเทียมอย่างมากเลยทีเดียว
ผู้นำของมองโกลก็มีความสำคัญในเรื่องนี้อย่างมาก เพราะมักจะเป็นผู้ที่ให้ความสำคัญกับความรู้และการเรียนมากทั้งวิทยาศาสตร์ของจีน ดาราศาสตร์ คณิตศาสตร์ ในสมัยของเจงกิสข่านผู้ก่อตั้งและรวบรวมอาณาจักรนั้นถึงขั้นกับนำตัวอักษรมาให้ชาวมองโกลได้ใช้เพื่อสื่อสารต่างๆ และมีบางส่วนที่ยังคงถูกใช้ถึงทุกวันนี้
อีกทั้งพวกเขายังใช้วิวัฒนาการการพิมพ์ของทางยุโรป และการเรียนการสอนต่างๆ แผ่ขจรขจายไปทั่วเอเชีย แม้กระทั่งในเกาหลีที่ตอนนั้นเป็นพันธมิตรของมองโกล ก็ได้รับการช่วยเหลือในด้านการศึกษาเช่นกัน
และที่น่าทึ่งกว่านั้น อาณาจักรมองโกลได้คิดค้นธนบัตร และค่าเงินต่างๆ ก่อนชาวยุโรปเสียอีก แถมการไปรษณีย์ก็มีประสิทธิภาพไม่แพ้กัน สามารถส่งไปได้ทั้งเอเชียเลยทีเดียว!!!
ช่วงที่อาณาจักรมองโกงขยายอำนาจ ได้มีเขตเสรีการค้าเกิดขึ้น ที่สามารถเดินทางไปแลกเปลี่ยนค้าขายกันได้เกือบทั้งโลกที่ได้รับการค้นพบ เหล่าคาราวานพ่อค้าสามารถเดินทางได้โดยไม่ถูกโจรผู้ร้ายรบกวนเลยทีเดียว และเป็นช่วงเวลาเดียวกับมาร์โค โปโล นักสำรวจชาวยุโรปผู้เป็นตำนานได้เดินทางมายังเอเชีย
ศิลปะวัฒนธรรมในช่วงนั้นก็เฟื่องฟู โดยเป็นยุคของราชวงศ์หยวน ที่ได้มีการนำเอาความเจริญทางยุโรปเข้ามาทั้งทางด้านงานแก้ว และเครื่องดนตรีต่างๆ
และที่สำคัญกว่านั้น เหมือนที่เคยกล่าวไว้ว่าชาวมองโกลเป็นผู้ที่เรียนรู้ได้ไว แต่ที่มากกว่านั้นคือพวกเขาได้นำความรู้ที่พวกเขาเรียนรู้ ไปเผยแพร่ต่อกับคนอื่นๆ แบบไม่มีกั๊ก ทำให้องค์ความรู้เหล่านั้นได้ถูกพัฒนาขึ้นอยู่ตลอดเวลา
แต่ก็เหมือนกับอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่หลายๆ อาณาจักรของโลก ที่ย่อมต้องมีเหตุนองเลือดและการสูญเสียอยู่แล้ว แต่ก็อดชื่นชมไม่ได้ในความสำเร็จของชาวมองโกลและอาณาจักรของพวกเขาใช่มั้ยล่ะ วันนี้เหมียวก็ขอลากันไปก่อนนะจ๊ะ สวัสดีจ้า
ที่มา: BusinessInsider