Pompeii เคยเป็นเมืองที่ใหญ่อันดับต้นๆของจักรวรรดิโรมัน แต่เมื่อ 1900 ปีก่อน เกิดการระเบิดภูเขาไฟวิสุเวียสขึ้น ทำให้ผู้คนกว่าสองพันคนและบ้านเมืองทั้งหมดถูกฝังอยู่ใต้เศษขี้เถ้า นักวิชาการพบว่า เถ้าภูเขาไฟพุ่งลอยขึ้นไปในอากาศหลายร้อยเมตรและอยู่บนนั้นกว่า 18 ชั่วโมง ก่อนที่มันจะตกลงมาปกคลุมบ้านเมือง
เมื่อเวลาผ่านไป เหล่านักวิชาการได้มาสำรวจพื้นที่ที่เคยเป็นเมืองนี้ และพวกเขาได้พบกับร่างพวกนี้ถูกฝังลึกลงไปถึง 9 เมตรจากระดับพื้นดิน และที่สำคัญ โครงสร้างกระดูกของร่างเหล่านี้ยังมีความสมบูรณ์มากอีกด้วย
ภาพของแม่ลูกที่เสียชีวิตพร้อมๆกันในเหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิด ดูเหมือนพวกเขาไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ
ร่างเหล่านี้มีการค้นพบโดยบังเอิญครั้งแรกเมื่อปี 1784 โดยฝันอยู่ลึกกว่า 9 เมตร
ร่างของเด็กคนนี้กลายเป็นหิน เนื่องจากขี้เถ้าภูเขาไฟ
ขี้เถ้าได้ทำลายเนื้อเยื่อของเหยื่อจนหมด
มีชาวเมืองเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้กว่า 2,000 คน ด้วยเหตุนี้ทำให้มันกลายเป็นเมืองร้างจนกระทั่งถูกค้นพบอีกครั้งเมื่อปี 1748
นักโบราณคดีพบร่างไปแล้วกว่า 1,150 ร่าง แม้ว่าอีก 3/4 ของเมืองยังไม่ได้มีการสำรวจ
ผู้เชี่ยวชาญค้นพบวิธีการซ่อมแซมร่างเหล่านี้ด้วยยิปซัม
ดูเหมือนว่าผู้เคราะห์ร้ายจะกรีดร้องตอนที่เถ้าภูเขาไฟโดนตัวเขา
เบ้าตาของพวกเขาเต็มไปด้วยเถ้าภูเขาไฟที่แข็งตัว
นักโบราณคดีค้นพบวิธีใหม่ในการเก็บรักษาร่างเหล่านี้โดยไม่ต้องใช้ยิปซัม
ผู้เชี่ยวชาญกำลังเตรียมนิทรรศการ์ที่มีชื่อว่า Pompeii and Europe
ปัจจุบันเมือง Pompeii ได้ถูกจัดให้เป็นเมืองมรดกโลกโดยองค์กร UNESCO
และมีผู้เข้าชมกว่า 2.5 ล้านคนต่อปี
น่ากลัวจริงๆเลยเนอะเพื่อนๆ บางคนยังไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำว่าจะต้องตาย พลังธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ ไม่มีใครต้านได้จริงๆ ก็ได้แต่หวังว่า ในช่วงชีวิตเรา จะไม่ได้เจออะไรแบบนี้นะ
ที่มา Wiiyfeed