15 วันนรก! ทดลองการอดนอนของรัสเซีย ผลลัพธ์ที่สุดสะพรึง

15 วันนรก! ทดลองการอดนอนของรัสเซีย ผลลัพธ์ที่สุดสะพรึง ใน ช่วงปลายปี 1940 นักวิจัยชาวรัสเซียได้ทำการทดลอง นักโทษ 5 คน โดยใช้สารกระตุ้นที่เป็นแก๊สทำให้นักโทษทั้ง 5 คนนั้นตื่นตลอดเวลาซึ่งเป็นระยะเวลาทั้งหมด 15 วัน พวกเขาถูกนำตัวมาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปิดสนิท เพื่อที่จะสามารถควบคุมปริมาณออกซิเจนที่เข้าสู่ร่างกายของเขาอย่างใกล้ชิด เพราะฉะนั้นแก๊สจะไม่ทำให้พวกเขาตาย เพราะแก๊สจะเป็นพิษเมื่อความเข้มข้นของมันสูงขึ้น อยากรู้ไหมว่าผลลัพธ์ที่ออกมานั้นจะเป็นอย่างไรไปติดตามกันเลยค่ะ!

15 วันนรก! ทดลองการอดนอนของรัสเซีย ผลลัพธ์ที่สุดสะพรึง 

การ ทดลองนี้เกิดขึ้นก่อนที่จะมีกล้องวงจรปิด ดังนั้นพวกเขาจึงมีเพียงแค่ไมโครโฟน และหน้าต่างขนาดเท่าช่องลมที่ทำด้วยกระจกหนา 5 นิ้ว ที่ถูกนำไปติดไว้หน้าห้องเพื่อสังเกตการณ์ ภายในห้องจะมีหนังสือ และเตียงพับได้เพื่อเอาไว้เอนหลัง แต่ไม่มีที่นอน หมอน นอกจากนี้ยังมีห้องอาบน้ำ ส้วม และอาหารแห้งมากพอสำหรับนักโทษ 5 คน สามารถกินได้เป็นเดือนๆ ซึ่งผู้เข้าร่วมการทดลองทั้งหมด เป็นนักโทษทางการเมืองที่ถือว่าเป็นศัตรูของรัฐในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

ในช่วงวันแรกๆ! ทุก สิ่งทุกอย่างดูปกติดี ผู้ร่วมทดสอบแทบจะไม่ปริปากบ่นเลย หลังจากที่มีการสัญญาปลอมๆ ว่าพวกเขา “จะถูกปล่อยให้เป็นอิสระ” ทันที! หลังจากที่พวกเขาเข้าร่วมการทดสอบนี้ และมีข้อตกลงว่าพวกเขาห้ามนอนเป็นระยะเวลา 30 วัน คำสนทนาและกิจกรรมต่างๆ ของพวกเขาถูกสังเกตการณ์อยู่ตลอด

ผ่านไป 4 วัน! พวกเขาเริ่มจะพูดถึงเหตุการณ์ที่เจ็บปวดที่มากขึ้นเรื่อยๆ ในอดีตของพวกเขา และน้ำเสียงในวงสนทนาของพวกเขาก็เริ่มหม่นหมองลงเรื่อยๆ

ผ่านวันที่ 5! พวก เขาก็เริ่มพร่ำบ่นถึงสถานการณ์และเหตุการณ์ที่พาพวกเขามาอยู่ ณ ที่ตรงนี้ และเริ่มแสดงอาการหวาดระแวงออกมาให้เห็น พวกเขาเลิกพูดคุยกัน ไม่มีคำสนทนาใดๆ ทั้งสิ้น และเริ่มมากระซิบกระซาบกับไมโครโฟนและช่องที่ติดกระจกส่องทาง

มันแปลก มากที่ดูเหมือนว่าพวกเขาทั้งหมด คิดว่า พวกเขาสามารถเอาชนะความเชื่อใจของผู้ทำการทดลองได้ โดยการทำให้เพื่อนหนึ่งในนักโทษที่ถูกขังอยู่ด้วยกันนั้นไม่สบาย ซึ่งตอนแรกนักวิจัยคาดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นผลมาจากการให้แก๊ส

15 วันนรก! ทดลองการอดนอนของรัสเซีย ผลลัพธ์ที่สุดสะพรึง

ผ่านไป 9 วัน! นัก โทษคนนึงก็เริ่มตะโกนโวยวาย วิ่งไปวิ่งมาทั่วห้องแล้วกรีดร้องด้วยเสียงที่สูงมากๆ เป็นเวลานานกว่า 3 ชั่วโมงหลังจากนั้นเขาก็พยายามที่จะตะเบงเสียงต่อ แต่สิ่งที่เขาทำได้ก็คือ การทำเสียงแหลมออกมาเป็นครั้งคราวเท่านั้น ซึ่งนักวิจัยที่คอยสังเกตการณ์นั้นสันนิษฐานว่าเส้นเสียงของนักโทษคนนั้นน่า จะฉีกขาด แต่! สิ่งที่ทำให้น่าประหลาดใจที่สุดก็คือ พฤติกรรมของนักโทษคนอื่นๆ ตอบสนองการกระทำของเขา หรือพูดอีกแง่หนึ่งก็คือ ไม่ตอบสนองอะไรต่อการกระทำของเขาเลยมากกว่า พวกเขาที่เหลือก็ยังคงกระซิบกระซาบใส่ไมโครโฟน

จนกระทั่งมีนักโทษอีก สองเริ่มแผดเสียงออกมา ส่วนนักโทษอีกสองคนที่ไม่ได้กรีดร้องก็เริ่มหยิบหนังสือออกมาฉีก แล้วก็เอาแผ่นกระดาษหน้าแล้วหน้าเล่ามาละเลงบนใบหน้าของพวกเขาเอง หลังจากนั้นก็ส่งมันมาทางช่องกระจกอย่างใจเย็น แล้วจู่ๆ การกรีดร้องก็หยุดลงอย่างกระทันหัน แล้วก็กลับไปกระซิบกระซาบกับไมโครโฟนต่อ!

หลังจากผ่านเหตุการณ์นั้นไปอีก 3 วัน! นัก วิจัยที่ตรวจสอบไมโครโฟน(ทุกๆ ชั่วโมง) เพื่อให้แน่ใจว่าพวกนักโทษยังมีชีวิตอยู่ ก็ได้ตรวจสอบเสียงอีกครั้งเมื่อ เขารู้สึกถึงความผิดปกติภายในห้อง ไม่ได้ยินเสียงนักโทษแม้แต่คนเดียว ซึ่งมันจะเป็นไปไม่ได้เลยเพราะ .. เมื่อเขาเช็คระดับการเผาผลาญออกซิเจนภายในห้องก็ยังแสดงให้เห็นว่าพวกนักโทษ ทั้ง 5 คนนั้นยังมีชีวิตอยู่แน่นอน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว มันเป็นระดับของออกซิเจนที่ทั้ง 5 คนนั้นจะต้องใช้หลังจากที่ออกกำลังกายมาอย่างหนักซะด้วยซ้ำไป

ในเช้าวันที่ 14! เพียง เพื่อจะได้รับการตอบสนองจากนักโทษเหล่านั้น นักวิจัยได้โทรศัพท์เข้าไปภายในห้องขัง โดยพวกเขาแค่หวังว่าจะเป็นการกระตุ้นให้นักโทษตอบสนองอะไรก็ได้ เพราะพวกเขากลัวว่านักโทษอาจจะตายหรือว่านอนแน่นิ่งไปแล้ว พวกเขาประกาศว่า “พวกเราจะเปิดห้องเพื่อเข้าไปเช็คไมโครโฟน เพราะฉะนั้นอยู่ให้ห่างจากประตู นอนราบกับพื้น ไม่อย่างนั้นจะถูกยิง คนที่เชื่อฟังจะได้รับการปล่อยตัว” แต่พวกเขากลับได้ยินเสียงตอบกลับมาอย่างเยือกเย็นว่า “พวกเราไม่ต้องการเป็นอิสระอีกต่อไป”

หลังจากนั้นก็เกิดการโต้แย้ง ระหว่างนักวิจัยและกองกำลังทหารที่สนับสนุนการทดลองนี้ เมื่อไม่สามารถกระตุ้นการตอบสนองโดยการใช้โทรศัพท์ได้อีก พวกเขาจึงตัดสินใจจะเปิดห้องขังนั้นตอนเที่ยงคืนของวันที่ 15

15 วันนรก! ทดลองการอดนอนของรัสเซีย ผลลัพธ์ที่สุดสะพรึง

วันที่ 15 ! ภาย ในห้องขังแก๊สพิษถูกดูดออกไปจนหมด และมีก๊าซออกซิเจนเข้ามาแทนที่ หลังจากนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมากระทันหันจากไมโครโฟน มี 3 เสียงเริ่มพูดขอร้อง อ้อนวอนราวกับว่ากำลังร้องขอชีวิต เพื่อที่จะให้นักวิจัยปล่อยแก๊สเข้ามาอีกครั้ง

หลัง จากนั้นประตูห้องก็เปิดออก ทหารจึงถูกส่งเข้าไปช่วยชีวิตนักโทษเหล่านั้น แต่พวกเขากลับตะโกนกรีดร้องด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิม และทหารก็ร้องด้วยความตกใจเช่นเดียวกัน เพราะสิ่งที่เข้าเห็นภายในห้องนั้นคือ นักโทษ 4 ใน 5 คนยังมีชีวิตอยู่ พร้อมกับก้อนเนื้อต้นขาและหน้าอกของนักโทษคนนึงที่เสียชีวิตไปแล้ว อัดแน่นอยู่ในท่อระบายน้ำที่อยู่ตรงกลางห้อง ทำให้การระบายน้ำอุดตัน และทำให้น้ำท่วมขังในห้องสูงถึง 4 นิ้ว

รวมถึงเมื่อได้สำรวจ นักโทษที่เหลืออีก 4 คนก็พบว่า มีบางส่วนของกล้ามเนื้อและผิวหนังเสียหาย เหมือนถูกกระชากออกไปจากร่างกายด้วย ซึ่งความเสียหายของผิวหนังและกระดูกที่โผล่ออกมาจากปลายนิ้วแสดงให้เห็นว่า บาดแผลเหล่านี้เกิดจากการใช้มือ ไม่ใช่เกิดจากการใช้ฟันอย่างที่นักวิจัยคิดไว้ตั้งแต่แรก

การตรวจ สอบอย่างใกล้ชิดที่บาดแผลก็ชี้ให้เห็นว่า พวกเขาส่วนใหญ่ทำร้ายตัวเอง อวัยวะในช่องท้องที่อยู่ต่ำกว่าชายโครงของนักโทษทั้ง 4 คนได้ถูกควักออกไป ในขณะที่หัวใจ ปอด และกระบังลมยังคงอยู่ นอกจากนี้ผิวหนังและกล้ามเนื้อส่วนใหญ่ที่ติดกับซี่โครงถูกฉีกออกจนหมด จนเห็นปอดผ่านกระบังลม เส้นเลือดและอวัยวะต่างๆ ยังคงอยู่ที่เดิม พวกเขาแค่ควักไส้ของตัวเองออกมาวางกระจัดกระจายเกลื่อนพื้น แต่พวกเขาก็ยังคงมีชีวิตอยู่!

ส่วนระบบทางเดินอาหารที่นักโทษทั้ง 4 คนควักออกมานั้น ดูเหมือนว่ายังคงทำงานย่อยเป็นปกติ และสิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ สิ่งที่กำลังย่อยอยู่ก็คือเนื้อของพวกเขาเอง ที่เกิดจากการถูกควักออกมากินในช่วงหลายวันที่ผ่านมา

เมื่อ ทหาร (หน่วยปฏิบัติการพิเศษรัสเซียที่อยู่ประจำที่ทดลอง) ได้เห็นนักโทษในสภาพนั้นก็ไม่มีใครอยากที่จะเข้าและปฏิเสธที่จะเข้าไปเพื่อ นำตัวนักโทษออกมา นักโทษทั้ง 4 คนที่เหลือก็ทำได้เพียงแค่แผดเสียงออกมาในขณะที่ถูกทิ้งไว้ในห้อง หลังจากนั้นนักโทษทั้ง 4 ก็อ้อนวอนให้ช่วยปล่อยแก๊สกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง เพื่อจะทำให้พวกเขาไม่หลับ!!!

ขอบคุณรูปภาพจาก Whosaid Thailand (The Russian Sleep Experiment (ทดลองการอดนอนของรัสเซีย)

เหตุการณ์ชุลมุน!

ใน ขณะที่ขนย้ายนักโทษทั้ง 4 คนออกจากห้องนั้น ทำให้ทหารรัสเซียได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายคน ไม่ว่าจะถูกกัดที่ต้นคอ, ลูกอัณฑะถูกดึงฉีกขาด อาการปางตาย, นักโทษ 1 ใน 4 นั้นเกิดคลุ้มคลั่งกัดขาตัวเองจนเส้นเลือดฉีกขาด

และอีกหนึ่งคนก็ม้าม แตก ทำให้เลือดไหลนองในทันที ทีมแพทย์-นักวิจัย พยายามจะทำให้เขาสงบสติอารมณ์ แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะทำอะไรไม่ได้เลย นักโทษคนนี้ได้รับการฉีดมอร์ฟีนในปริมาณที่สูงกว่าคนปกติถึง 10 เท่า แต่เขาก็ยังคงต่อสู้จนทำให้แขนและซี่โครงของหมอคนนึงหัก และเมื่อหัวใจที่เหมือนจะเต้นอยู่ถึง 2 นาทีเต็มหลังจากที่เลือดออก ได้มาถึงจุดที่ระบบโลหิตเขามีอากาศไหลเวียนอยู่มากกว่าเลือด ถึงแม้ว่าหัวใจของเขาจะหยุดเต้นไปแล้ว แต่เขาก็ยังคงกรีดร้อง ตะเบงเสียงต่อและเดินซวนเซไปกว่า 3 นาที ในขณะเดียวกันก็พยายามทำร้ายคนที่อยู่ใกล้ตัวเขา พร้อมกับพูดคำว่า “เอาอีก” ย้ำไปมาและเงียบไปในที่สุด

ต่อมาในระหว่างที่เตรียมนักโทษอีกคนนึง เพื่อ ที่จะผ่าตัดเอาอวัยวะกลับเข้าไปในร่างกายเหมือนเดิม แต่กลับพบว่าเขานั้นมีภูมิคุ้มกันชั้นดีต่อยาระงับประสาทที่ทีมแพทย์นั้นฉีด เข้าไปในร่างกายเขา เขาต่อสู้และดิ้นรนอย่างสุดๆ และเมื่อแก๊สยาสลบถูกนำมาใช้กับเขาแทนเพื่อให้หมดสติ เขาก็พยายามจะฉีกสายหนังที่มีความกว้างถึง 4 นิ้วที่รัดข้อมือเขาอยู่ออกไป ทั้งๆ ที่มีทหารน้ำหนักตัวกว่า 200 ปอนด์ ช่วยกันจับข้อมือข้างนั้นของเขาอยู่ แต่การใช้ยาสลบนั้นก็สามารถทำให้เขาสลบไปได้ และในขณะที่ตาของเขากำลังปิดลง หัวใจของเขาก็หยุดเต้นทันที

การชันสูตรนักโทษคนนี้ก็พบว่า ระดับออกซิเจนในเลือดของเขานั้นมีปริมาณมากกว่าคนปกติทั่วไปถึง 3 เท่า, มีกระดูกหักกว่า 9 จุดในขณะที่เขาต่อสู่อยู่บนเตียง และพบว่านักโทษคนนี้เส้นเสียงถูกทำลาย ฉีกขาดเกิดจากการกรีดร้องอย่างรุนแรง  เขาเลยไม่สามารถอ้อนวอนหรือคัดค้านการผ่าตัดนี้ได้ เขาตอบสนองเพียงแค่สั่นหัวอย่างแรง เพื่อบ่งบอกว่าเขาไม่อยากรับแก๊สยาสลบ

และ หลังจากนั้นเขาก็ไม่ตอบสนองอีกเลยกว่า 6 ชั่วโมง ในขณะที่แพทย์ทำการผ่าตัดนำอวัยวะของนักโทษคนนี้กลับเข้าร่างกายและเย็บปิด ด้วยเนื้อหนังที่ยังพอมีเหลืออยู่ และหนึ่งในสัญแพทย์ได้พูดย้ำไปมาว่า “มันน่าจะมีความเป็นไปได้ตามหลักการแพทย์ที่คนไข้น่าจะยังมีชีวิตอยู่” อีกทั้งพยาบาลที่ช่วยในการผ่าตัดครั้งนี้ยังบอกอีกว่า เธอเห็นปากของนักโทษโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มอยู่หลายครั้งเวลาเขามองมาที่เธอ และเมื่อการผ่าตัดเสร็จสิ้น นักโทษคนนี้ก็มองมาที่สัญแพทย์แล้วเริ่มหายใจฝืดฝาดเสียงดัง และพยายามจะพูดในขณะที่ดิ้นไปมา หมดที่ผ่าตัดจึงคิดว่ามันน่าจะเป็นอะไรที่สำคัญมากๆ พวกเขาเลยนำปากกาและกระดาษมาให้นักโทษคนนี้ และสิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจก็คือ นักโทษเขียนเพียงแค่คำว่า “ผ่าตัดต่อไป”

ส่วนนักโทษอีก 2 คนก็ได้รับการผ่าตัดโดยไม่ใช้ยาสลบ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะถูกฉีดให้เป็นอัมพาตในขณะที่ทำการผ่าตัด แต่การผ่าตัดนั้นก็เป็นไปอย่างยากลำบากเพราะนักโทษนั้นหัวเราะอยู่ตลอดเวลา และเมื่อร่างกายเป็นอัมพาต นักโทษก็ได้แต่เหลียวมองแพทย์และทีมผ่าตัดหลายๆ คนไปมาเท่านั้น แต่ฤทธิ์ยาที่ถูกฉีดให้พวกนักโทษนั้นกลับสลายไปอย่างรวดเร็ว ทำให้นักโทษพยายามดิ้นรน ขัดขืน และเมื่อพวกเขาสามารถพูดได้ พวกเขาก็ร้องขอแก๊สที่เหมือนอยู่ในห้องขังนั้นอีกครั้ง

นักวิจัย พยายามที่จะถามเหตุผลที่พวกเขาทำร้ายตัวเอง ทำไมต้องดึงไส้ตัวเองออกมา? ทำไมต้องการแก๊สพวกนี้อีก? และมีเพียงคำตอบเดียวจากนักโทษว่า “ผมต้องตื่นๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” เมื่อสิ้นสุดการผ่าตัด นักโทษทั้ง 3 คนก็ถูกนำตัวไปขังไว้ยังห้องเดิม เพื่อรอการตัดสินใจของทีมนักวิจัยว่าจะทำอย่างไรกับนักโทษที่เหลือ

นอก จากนี้นักวิจัยยังต้องถูกโกรธเคืองจากทหารที่เป็นผู้สนับสนุนทางการเงินใน การทดลอง ที่ล้มเหลวในการทดลอง และในที่สุดนักวิจัยก็ตัดสินใจต้องฆ่านักโทษที่เหลือเหล่านี้ แต่หนึ่งในผู้มีอำนาจทางการทหารกลับมองเห็นศักยภาพที่ซ่อนเร้นในตัวนักโทษ และต้องการดูต่อไปว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้านักโทษที่เหลืออยู่นั้นได้รับแก๊สอีกครั้ง นักวิจัยต่างพากันคัดค้าน แต่ก็ไม่เป็นผล

ใน ระหว่างที่ทำการปิดผนึกห้องอีกครั้ง นักโทษที่เหลือได้ถูกต่อสายกับเครื่องตรวจคลื่นสมอง ถูกมัดนั่งอยู่บนที่นอนอย่างหนาแน่น เป็นที่น่าประหลาดใจ เมื่อนักโทษทั้ง 3 คน ไม่ต่อสู้เลย เมื่อได้ยินว่าจะได้รับแก๊สอีกครั้ง หนึ่งคนฮัมเพลงเสียงดังและต่อเนื่องเพื่อที่จะทำให้ตัวเองไม่หลับ หนึ่งคนที่พูดไม่ได้ก็พยายามดึงตัวเองออกจากสายหนังที่รัดไว้ด้วยแรงทั้งหมด ที่มี ส่วนอีกหนึ่งคนพยายามโยกหัวไปมาอย่างรุนแรง และกระพริบตาถี่ๆ

และ เมื่อนักวิจัยได้ดูคลื่นสมองของนักโทษที่โยกหัวไปมานั้นก็พบว่า คลื่นสมองนั้นเกือบจะดูปกติอยู่ตลอดเวลา แต่มีเพียงบางครั้งที่เปลี่ยนแปลงเป็นเส้นตรง ดูเหมือนว่า เขาทรมานเกิดจากการที่สมองตายซ้ำๆ ก่อนที่จะกลับมาเป็นปกติ และในขณะที่นักวิจัยกำลังสนใจกระดาษที่บันทึกคลื่นสมองที่ออกมาจาก เครื่อง EEG นั้น นางพยาบาลคนนึงเห็นว่าตาของนักโทษที่กระพริบตาคนนั้นปิดลง เวลาเดียวกับที่หัวของเขากลับไปที่หมอน ก่อนที่เส้นกราฟกลายเป็นเส้นตรงยาวต่อเนื่อง จากนั้นหัวใจของเขาก็หยุดเต้น

เมื่อ ผู้บังคับบัญชา เห็นว่าท่าทีไม่ดีแล้ว จึงสั่งให้ปิดตายห้องนั้น และให้นักวิจัยทั้งหมดเข้าไปในห้องที่นักโทษอยู่ด้วย นักวิจัยคนหนึ่งชักปืนของเขาออกมายิงผู้บังคับบัญชาเสียชีวิต หลังจากนั้นก็ หันปืนไปที่นักโทษแล้วเป่าสมองนักโทษไปหนึ่งคน ในระหว่างนั้นผู้ร่วมวิจัย ทหารและคนอื่นๆ ก็วิ่งหนีออกจากห้องไป

นักวิจัยคนที่ถือปืนเล็งปืนไป ยังนักโทษที่เหลือ แล้วพูดโวยวาย ว่า “แกเป็นอะไร ฉันต้องรู้ให้ได้!!” และในขณะนั้นนักโทษยิ้มอย่างช้าๆ และพูดออกมาว่า “ลืมไปแล้วยังงั้นหรือ พวกเราก็คือแกนั่นแหละ พวกเราก็คือความบ้าคลั่งที่แฝงอยู่ในตัวพวกแกทุกคน อ้อนวอนให้ปล่อยตัวพวกเราตลอดเวลา อยู่ภายในจิตใต้ส่วนลึกที่สุดที่เป็นสัตว์เดรัจฉานของพวกแกไงหล่ะ พวกเราคือสิ่งที่แกทำให้เงียบและเป็นอัมพาตไปเมื่อแกไปสวรรค์ในเวลากลางคืน ซึ่งเป็นที่ที่พวกเราไม่สามารถเหยียบย่ำเข้าไปได้”

นักวิจัย คนนั้นเล็งปืนไปที่หัวใจของนักโทษแล้วยิง กราฟเครื่องตรวจคลื่นสมองของนัก โทษคนนั้นกลายเป็นเส้นตรง พร้อมกับที่นักโทษคนนั้นก็ใช้กำลังที่เหลืออยู่พูดประโยคสุดท้ายออกมาว่า “เกือบที่จะได้เป็นอิสระ อยู่แล้วเชียว”

สุด ท้ายนี้ก็ทำให้เราได้รู้ว่า เรื่อง 15 วันนรก! ทดลองการอดนอนของรัสเซีย ผลลัพธ์ที่สุดสะพรึง นี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นโดย  creepypasta ใครที่เป็นคนที่ชอบเรื่องโหดๆ สยองๆ หรือแนวหลอน ก็คงจะได้อ่านเรื่องอื่นๆ จาก creepypasta มาบ้างแล้ว แล้วเพื่อนๆ คิดว่าเรื่องนี้สยองไหมหล่ะ !? อย่าโกรธกันน้า >,<

ขอบคุณข้อมูล https://www.youtube.com/watch?v=cE6Uxhgk08s

Credit: เอ็มไทยวาไรตี้
#การทดลอง
THEPOco
ผู้กำกับภาพ
สมาชิก VIP
22 พ.ค. 58 เวลา 19:09 3,272 30
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...