จากกรณีพบศพหญิงสาวนิรนาม ถูกแทงคอเสียชีวิต บริเวณพงหญ้าตรงจุดกลับรถถนนเลียบคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ ย่านบางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทราบชื่อผู้ตายในเวลาต่อมาว่าคือ น.ส.เคนมาเร็น อายุ 22 ปี เป็นชาวเมียนมา โดยได้ขึ้นทะเบียต่างด้าวไว้กับบริษัทแห่งหนึ่ง เมื่อปี 2557 แต่หลังจากนั้นก็หายไป
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (11 พ.ค.) จากการสอบสวนทราบว่า สามีของผู้ตายชื่อ นายคินเมาวิน อายุ 26 ปี ทำงานอยู่ที่พัทยา จ.ชลบุรี นอกจากนี้ยังมี นายเซ็นวิน อายุ 34 ปี น้าชายของผู้ตาย และ นายไนเอ้า อายุ 31 ปี ญาติของผู้ตาย ที่ทำงานอยู่ร้านอาหารในเรือสำราญด้วย โดยเชิญตัวมาสอบสวนเพื่อหาตัวคนร้าย
จากการสอบปากคำเจ้าหน้าที่พบพิรุธหลายอย่าง จึงได้เค้นสอบสวนอีกครั้ง จนกระทั่งทั้งหมดยอมรับสารภาพว่าได้ว่าวางแผนหลอก น.ส.เคนมาเร็น ไปฆ่าทิ้ง โดยร่วมกัน 4 คน รวมนายไนวิน อายุ 28 ปี คนที่ลงมือแทงเหยื่อ ซึ่งได้หลบหนีไป
โดยทั้งหมดให้การอ้างว่า ผู้ตายได้แต่งงานกับนายคินเมาวิน มา 5 ปีแล้ว มีบุตร 1 คน อายุ 3 ขวบ แต่ผู้ตายเป็นคนเจ้าชู้ ชอบคบหาผู้ชายหลายคน จนทางบ้านรับไม่ได้ ประกอบกับสามีเดินทางมาทำงานประเทศไทย จึงได้ส่งตัวผู้ตายมาทำงานอยู่กลับสามี แต่ผู้ตายยังทำตัวเหมือนเดิม
ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้หนีออกจากบ้าน จนมาพบว่ามาอยู่กับชายชาวเมียนมาที่ชลบุรี จึงได้ไปรับตัวมาอยู่ด้วยกันที่ร้านอาหารที่ทำอยู่ในชลบุรีด้วยกัน พร้อมทั้งขอร้องให้ทำตัวให้ดี โดยพร้อมจะยกโทษให้ แต่ผู้ตายไม่ยอมปรับนิสัย จึงได้วางแผนฆ่าทิ้ง
โดยวางแผนหลอกให้ผู้ตายนั่งรถตู้จากพัทยามาคลองส่งน้ำ โดยได้พาไปกินข้าวและพาเที่ยวก่อน จนกระทั่งเวลา 22.00 น. จึงได้ชวนผู้ตายมายังจุดเกิดเหตุ ก่อนที่นายไนเอ้า จะใช้ไม้ตีผู้ตายจนสลบและลากลงไปข้างทาง ก่อนที่จะตามลงไปใช้ไม้ตีอีก 2 ครั้งจนแน่นิ่งไป ก่อนที่นายไนวินจะเดินตามลงไป และใช้มีดแทงที่คอ 1 ครั้ง แล้วนำมีดไปทิ้งในคลองส่งน้ำ หลังก่อเหตุได้นั่งรถเมล์สาย 132 ไปหาเพื่อนที่พระโขนง จนช่วงเช้าได้เดินทางกลับไปที่พัก จนกระทั่งถูกจับกุมในที่สุด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนจะส่งตัวให้พนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาต่อไป