ซีแซด ขนาด 30-06

CZ 30-06 พร้อมอุปกรณเดินป่า ในลักษณะเดียวกับที่รพินทร์ใช้ เช่นเป้เดินป่าของ ต.ช.ด. มีดโบวี่
ใบมีดขนาดแปดนิ้ว แผนที่สู่มรกตนครและเข็มทิ

ก่อนอื่นต้องขอแก้ไขความเข้าใจผิดของผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับปืนยาวเสียก่อน ว่า คำว่าปืนไรเฟิลนั้นมิได้หมายถึง
ปืนยาวแรงสูงอย่างที่คิดกัน แต่หากหมายถึงปืนยาวที่มีร่องเกลียวในลำกล้องซึ่งก็ครอบคลุมตั้งแต่ปืนยาว ที่ใช้
กระสุนกระจ่อยร่อยอย่าง .22 ไปจนถึงปืนขนาดใหญ่ๆอย่าง .600 ไนโตร บางท่านอาจจะสงสัยว่าแล้วปืนอะไร
ละที่ไม่มีเกลียวลำกล้อง ก็ปืนลูกซองไงครับ

ปืนยี่ห้อซีแซดนั้นเป็นปืนที่ทำจากประเทศเช็กโกสโลวาเกีย (สาธารณรัฐ เชค ในปัจจุบัน) ปืนซีแซดนั้นขึ้นชื่อใน
ความแข็งแรงทนทานและราคาที่ย่อมเยาจึงเป็นปืนที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในหมู่ ชาวบ้านและพรานอาชีพ
อย่างรพินทร์ ตัวปืนมักจะดูเรียบๆธรรมดาฝีมือการผลิตเรียบร้อยแต่ก็ไม่หรูหรา เรียกง่ายๆว่าตั้งใจทำมาให้ใช้
งานมากกว่าเอามาชื่นชม

 

กระสุนขนาด 30-06นั้นเป็นกระสุนที่ถูกพัฒนาขึ้นมาในอเมริกาเพื่อใช้ในทางทหาร
ตั่ง แต่ปี ค.ศ. 1906 ซึ่งก็เป็นที่มาของตัวเลข 06ที่ต่อท้ายชื่อของมัน ส่วนตัวเลข 30
นั้นบอกถึงขนาดหน้าตัดขนาด .30นิ้ว กระสุนขนาดนี้จัดเป็นกระสุนขนาดกลางสำหรับ
ใช้งานทั่วไปมีหัวกระสุน น้ำหนักต่างๆกันให้เลือกได้ตามลักษณะการใ ช้งานถ้าใช้หัว
กระสุนหนัก 180เกรน จะให้ความเร็วต้น 2750 ฟิตต่อวินาที คิดเป็นพลังงาน 3023
ฟุต-ปอนด์

สามสิบศูนย์หกเป็นกระสุนที่แพร่หลายมากในบ้าน เราเพราะเป็นกระสุนที่เคยมีประจำการ
ในกองทัพโดยใช้กับปืน M-1 Garand หรือที่เรียกกันว่า ป.ล.ย.บ. 88 พรานจำนวนมาก
เลือกใช้ปืนขนาดนี้เพราะในยุคนั้นพอจะ"หา"กระสุนได้ง่าย ทั้งกระสุนพานิชสำหรับล่าสัตว์
และกระสุนทหาร

   

ปืน M-1 Garand หรือที่เรียกกันว่า ป.ล.ย.บ. 88 ปืนทหารที่ใช้กระสุนสามสิบศูนย์หก

 

วิ นเชสเตอร์คานเหวี่ยงขนาด 30-30

     

ทันทีที่ถูกพรานนำทางปฏิเสธไม่ยอม ให้ร่วมเดินทางไปด้วย ม.ร.ว.ดาริน ก็แผลงฤทธิ์โดยการคว้า
ปืน วินเชสเตอร์คานเหวี่ยง โมเดิล 94 ขนาดสามสิบสามสิบของนายอำพลมาแสดงฝีมือการยิงปืน
 โดยการยิงลูกนุ่นให้ทุกคนดู

           

คุณชายเชษฐามีปืนรุ่นนี้อีกกระบอกหนึ่ง แต่เคยหยิบออกมาใช้เพียงครั้งเดียวในการไล่ราวยิงเลียงผา
ที่บริเวณทุ่ง เขาโล้น (ในการพิมพ์ครั้งก่อนๆเขียนว่าเป็นปืนคานเหวี่ยงขนาด .30-06 แต่ในการพิมพ์ครั้งล่า
สุดแก้ไขเป็นขนาด .30-30) นับว่าเป็นการเลือกปืนที่เหมาะสมมากทีเดียว

         

รูปร่างของปืนกระบอกนี้อาจจะคุ้นตา ท่านอยู่บ้าง ทั้งนี้ก็เพราะเป็นปืนที่ใช้กันตั้งแต่ยุคคาวบอย
ตะวันตก ทำให้เห็นในหนังคาวบอยของฮอลลีวูดเกือบทุกเรื่อง

 

ปืนรุ่นนี้เป็นปืนที่ออกแบบมาเพื่อให้ใช้ได้ คล่องตัวบนหลังม้าจึงเป็นปืนที่มีขนาดกระทัดรัดและ
น้ำหนักเบา ลำกล้องยาว20นิ้วตัวปืนหนักประมาณ 3กิโลกรัม เแม็กกาซีนเป็นหลอดติดตายอยู่ใต้
ลำกล้อง สามารถบรรจุกระสุนได้หกนัด ถ้าสนใจอ่านเรื่องราวของวิ นเชสเตอร์ โมเดล 94 ได้ที่นี่ครับ

 

 

 

 

 

กระสุน 30-30 นั้นถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัทวินเชสเตอร์ในปี 1895 เพื่อใช้กับ
ปืนวินเชสเตอร์ โมเดิล 94 รุ่นนี้โดยเฉพาะ เลข 30 ตัวแรกบอกถึงขนาดของ
หัวกระสุนว่าเป็นขนาด .30นิ้ว ส่วนเลข 30 ตัวหลังบอกถึงน้ำหนักของดินขับ
30เกรน

ปืนและกระสุนขนาดนี้นับเป็นปืน ไรเฟิลขนาดเบา หัวกระสุนน้ำหนัก 150 เกรนมี
ความเร็วประมาณ 2390 ฟิตต่อวินาที และให้พลังงานเพียง 1902 ฟุต-ปอนด์

หนังสือ อ้างอิง 1) Rifles of the World 2) Cartridges of the world

 

 

 แหล่ง ที่มา http://www.thailandoutdoor.com/Gun/gunofpetch/win_M94/win_m94.htm

 

ปืนสั้น

   

ปืนสั้นที่ใช้ทั้งหมดเป็นปืนที่ ฝ่ายนายจ้างเตรียมมา โดยที่เป็นปืนแบบซิงเกิลแอ๊คชั่นของ
บริษัทรูเกอร์ ทั้งหมด

       

 จากบนลงล่าง Super Blackhawk .44Magnum, Blackhawk .357 Magnum, Single-six .22

 

ปืนประจำตัวของเชษฐา ไชยยันต์ และ รพินทร์ นั้นเป็นปืนขนาด .44 Magnum รุ่นซูเปอร์แบล็ค
ฮ็อค ส่วนคุณหญิงดารินนั้นใช้ รุ่น แบล็คฮ็อคขนาด .357 Magnum และมี รุ่นซิงเกิลซิก ขนาด .22
 ซึ่งมีโม่สำรอง ทำให้ยิงกระสุนได้ทั้ง .22 ธรรมดาและ.22 magnum สำรองในเป้หลังอีกกระบอก

ปืนแบบซิงเกิลแอ็คชั่นนั้นมีจุด เด่นที่โครงสร้างแข็งแรงชิ้นส่วนน้อย ทำให้มีความทนทานเหมาะ
กับ การใช้งานสมบุกสมบันอย่างการเดินทางมหาโหดเช่นนี้เป็นอย่างยิ่ง แต่ก็มีข้อเสียที่การบรรจุ
กระสุนทำได้ช้า

   

ปืนรูเกอร์ซูเปอร์แบล็คฮอว์ค ขนาด .44 แม็กนั่มปืนสั้นคู่มือของ เชษฐา ไชยยันต์ และ รพินทร์
ในภาพเป็นปืน รุ่นใหม่ซึ่งเป็นสเตนเลสสีเงิน แต่ปืนขอทั้งสามคนน่าจะเป็นสีดำ เพราะในยุคนั้น
รูเกอร์ยังไม่ได้ทำปืนสเตนเลสออกมา

         

 

 

 

ปืนรู เกอร์แบล็คฮอว์ครุ่นเดียวกับปืนสั้นคู่มือของ ม.ร.ว. นายแพทย์ ดาริน วราฤทธิ์  กระบอกในภาพนี้
เป็นสีดำ แต่ของดารินนั้นจะเป็นแบบชุบนิเกิลเป็นสีเงินทั้งกระบอก

 

ปืน ของดาริน กระบอกนี้ถูกใช้งานในบทบาทสำคัญๆ มากมายตั้งแต่ ที่รพินทร์ใช้ยิงวัวแดง
ที่วิงสวนควันปืนหลังจากที่ไชยยันต์ยิงเจ็บไว้, รพินทร์ใช้ยิงเสือในตอนที่ถูกน้ำป่าพัดหลงไป
กับดารินและไม่มีปืนยาวติดตัว, ดารินใช้ยิงต่อสู้กับสางเขียวในตอนที่รพินทร์นอนจับไข้อยู่ ฯลฯ

 

 

 ดา รินมีปืนสั้นอีกกระบอกติดอยู่ในเป้หลัง เป็นปืนรูเกอร์ซิงเกิ้ลซิกขนาด .22 ซึ่งสามารถเปลี่ยนโม่ให้ใช้
ทั้งกระสุนขนาด .22 LR และ .22 แม็กนั่มได้ ปืนของดารินนั้นมีความยาวลำกล้องยาว 9 นิ้ว และน่าจะ
เป็นสีดำ(ปีนในภาพมีความยาวลำกล้อง 7นิ้วครึ่ง)

 

กระสุนขนาด .22 นั้น เป็นกระสุนขนาดเล็กที่สุดที่มีใช้กันอยู่
ในบ้านเรา เป็นกระสุนที่มีแรงปะทะต่ำ แต่ก็มีความแม่นยำสูง
และเสียงไม่ดังมากเหมาะ สำหรับใช้เป็นปืนหาอาหาร

กระสุน .22 ที่นิยมใช้กันแพร่หลายคือกระสุน .22 LR ที่ย่อมาจาก
Long Rifle หัวกระสุนหนัก 40 เกรน เมื่อยิงด้วยปืนสั้นจะให้ความเร็ว
ประมาณ 948 ฟิต/วินาที และให้พลังงาน ประมาณ 80 ฟุตปอน์ด

ส่วนกระสุนขนาด .22 แม็กนั่มนั้น ใช้หัวกระสุนขนาดเท่ากันและหนัก
40 เกรนเท่ากันแต่ขยายความยาวปลอกให้เพิ่มขึ้นเพื่อให้หัวกระสุนวิ่ง
เร็ว ขึ้นเ

 

 

 

 

กระสุนขนาด .357 Magnum นั้นถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท Winchester และ
Smith&Wesson ในปี 1935 ถ้าใช้หัวกระสุนหนัก 125 เกรนจะให้ความเร็ว 1450
ฟิต/วินาที และพลังงาน 583 ฟุต-ปอนด์ ทันทีที่เปิดตัว 357 Magnum กลายเป็น
กระสุนปืนสั้นที่แรงที่สุดในโลก จนก

 

 

 

 

กระสุน .44 Remington Magnum เปิดตัวขึ้นในปี 1955 ในฐานะจ้าวแห่ง
กระสุน ปืนสั้น มันกลายเป็นกระสุนปืนสั้นในเชิงพาณิชที่แรงที่สุดในโลกจน
ถึงทุก วันนี้ (มีกระสุนปืนสั้นที่แรงกว่า .44 Magnum แต่ไม่ใช่กระสุนที่ผลิต
ขายกันทั่วไป) ถ้าใช้หัวกระสุนหนัก210เกรน .44Magnum จะส่งหัวกระสุน
ไป ด้วยความเร็ว 1495 ฟิต/วินาที คิดเป็นพลังงานถึง 1042 ฟุต-ปอนด์

กระสุน .44 แม็กนั่มมาดังเอามากๆในหนังเดอร์ตี้แฮรี่ ของคลิ้นท์ อีสต์วูดออกฉาย
ใน ราวปี 1971 คนที่ได้ดูคงจะจำคำพูดของจ่าแฮรี่ ได้

 

 

"This is the most powerful hangun in the world. It can blow your
brain clean off.........."

         

ภาพนี้เอามาให้ดูกันว่าแรงสะท้อนถอยหลังของ .44 แม็กนั่ม
นั้นแรง ขนาดไหน

 

หนังสืออ้างอิง 1) Rifles of the World 2) Cartridges of the world

 

แหล่ง ที่มา  http://www.thailandoutdoor.com/Gun/gunofpetch/pistol/pistol.htm

 

ไรเฟิลคานเหวี่ยงขนาด 44-40

 

แงซายปรากฎตัวขึ้นเป็นครั้งแรกที่หนองน้ำแห้งเพื่อขอร่วมเดินทางไป ด้วย ปืนที่แงซายมีติดตัวมา
ก็คือปืน Winchester คานเหวี่ยงขนาด 44-40

     

 

 

 

 

 

 

 

 

ปืนและกระสุนขนาดนี้ถูกสร้างขึ้น มาพร้อมๆกันโดยบริษัทวินเชสเตอร์ตั้งแต่ปี 1973 และเป็นที่
นิยม อย่างกว้างขวางในอเมริกาในยุคบุกเบิกตะวันตก ปืนทั้งสั้นและยาวหลายชนิดถูกสร้างขึ้นมา
ให้ใช้กับกระสุนขนาดนี้ เลข 44 ตัวหน้าบอกถึงขนาดหน้าตัดของหัวกระสุนซึ่งก็คือ .44นิ้ว เลข 40
ตัวหลัง บอกถึงน้ำหนักของดินขับในสมัยที่ใช้ดินดำเป็นดินส่งกระสุน ในบ้านเราเคยมีการสั่งปืน
ขนาดนี้เขามาใช้ทั้งในทางทหารและพลเรือน ผู้เขียนพบว่ามีปืนขนาดนี้กระจัดกระจายอยู่ในบ้าน
เราไม่น้อย

 

 

       

กระสุน .44-40 (ขวา) เมื่อเที่ยบกับ กระสุน .44 แม็กนั่ม
(ซ้าย) มีมิติใกล้เคียงกัน แต่อานุภาพต่างกันมาก

     

กระสุน .44-40

 

หัวกระสุน44-40 มีน้ำหนักประมาณ 200 เกรน แต่ความเร็วต่ำเพียง 1100ฟุต/วินาที และให้พลัง
งานเพียง 537ฟุต-ปอนด์น้อยกว่า ขนาด .44 Magnum ที่ยิงจากปืนสั้นเสียอีก ก็น่าอยู่หรอกที่
รพินทรสั่งให้แงซายทิ้งปืนกระบอกนี้ไว้ที่หล่มช้างก่อนเดินทางเข้าสู่นรกดำ

หนังสือ อ้างอิง 1) Rifles of the World 2) Cartridges of the world

แหล่ง ที่มา http://www.thailandoutdoor.com/Gun/gunofpetch/winm73/winm73.htm

 

 

วินเชส เตอร์ขนาด .458 Magnum

   

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เชษฐาและไชยันต์ มีปืน วินเชสเตอร์โมเดล 70 African ขนาด .458 Winchester Magnum มา
คนละกระบอก หลังจากที่ไชยันต์เลือกที่จะใช้ .600 ไนโตร ของเชษฐาเป็นปืนประจำมือจึงได้ยก
ปืนกระบอกนี้ให้รพินทรใช้เป็นปืนประจำมือ ส่วนเชษฐาก็ใช้ปืนกระบอกนี้ไปจนเกือบจะตลอดการ
เดินทาง

ปืน โมเดล 70 นี้เป็นปืนลูกเลื่อนอมตะของวินเชสเตอร์ ที่เริ่มผลิตและจำหน่ายมาตั้งแต่ ปี1936
โมเดล 70 ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วและกลายเป็นมาตรฐานของปืนไรเฟิลลูกเลื่อน ของอเมริกัน
โมเดล 70 ถูกผลิตออกมาในหลายรูปร่างลักษณะและหลายขนาดกระสุน แม้แต่ในเรื่องเพชรพระอุมา
เองก็ยังมี Winchester โมเดล 70 อีกถึง สองกระบอกคือ .375 ของรพินทร และ .270 ของ ดาริน

สำหรับรุ่น African Magnum นี้ คือรุ่นที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1956 สำหรับใช้กับกระสุน .458
Winchester Magnum โดยเฉพาะ มิติของมันจะแข็งแรงบึกบึนกว่าโมเดล 70 รุ่นอื่นๆ ลำกล้องยาว
22 นิ้ว สั้นกว่าแบบมาตรฐานซึ่งมักจะเป็น 24 นิ้ว นัยว่าเพื่อให้คล่องตัวสำหรับเกมอันตราย
แม็กกาซีนของมันบรรจุกระสุนได้ สามนัดบวกอีกหนึ่งในรังเพลิง

   

 

 

 

สำหรับกระสุน .458 Winchester Magnum นั้นบริษัทวินเชสเตอร์สร้างขึ้นมาเพื่อใช้กับสัตว์ใหญ่
ของอัฟริกา (ในอเมริกาเองไม่มีสัตว์ที่ใหญ่และดุร้ายถึงกับต้องใช้ปืนที่แรงขนาดนี้) โดยการนำปลอก
กระสุนขนาด .375 H&H Magnum มาขยายเพื่อให้รองรับหัวกระสุนขนาดหน้าตัด.45นิ้ว หัวกระสุน
หนัก 500เกรนของ .458 Magnum มีความเร็ว ประมาณ 2300 ฟุต/วินาที และให้พลังงานมหาศาล
ถึง 6133 ฟุต-ปอนด์ มากมาย เหลือเฝือสำหรับการต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตที่ตัวตนอยู่ในโลกนี้

หนังสือ อ้างอิง 1) Rifles of the World 2) Cartridges of the world

แหล่ง ที่มา http://www.thailandoutdoor.com/Gun/gunofpetch/winm70afr/winm70afr.htm

 

 

 

 

 

วินเชสเตอร์ โมเดิล 70 ขนาด 375 H&H Magnum

   

 

ปืนคู่มือขนาดหนักที่สุดที่รพินทรมีใช้อยู่ เป็นส่วนตัวคือปืนวินเชสเตอร์โมเดิล70 ขนาด 375 H&H
 กระบอกนี้ ปืนไรเฟิลโมเดิล70เป็นปืนลูกเลื่อนอมตะของวินเชสเตอร์ ที่เริ่มผลิตและจำหน่ายมาตั้ง
แต่ ปี1936 โมเดล 70 ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วและกลายเป็นมาตรฐานของปืนไรเฟิลลูกเลื่อน
ของอเมริกัน โมเดล 70 ถูกผลิตออกมาในหลายรูปร่างลักษณะและหลายขนาดกระสุน กระบอกที่
รพินทรใช้นี้เป็นรุ่นมาตรฐานซึ่งเป็นปืนใช้งานที่ไม่มีการตกแต่ง

 

 

กระสุน 375 Holland&Holland Magnum ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท ฮอลแลนด์แอนด์ฮอลแลนด์
แห่งประเทศอังกฤษตั้งแต่ ปี 1912 โดยเป็นกระสุนแบบแรกที่ไม่มีจานท้ายแต่มีขอบ(belt) ที่ได้รับ
ความนิยมทำกันในกระสุนหลายๆขนาดในเวลาต่อมา 375H&H ได้รับความนิยมอย่างมาก หลาย
คนกล่าวว่ามันคือกระสุนทั่วไปที่ดีที่สุด ขนาดหนึ่งเพราะสามารถใช้ได้กว้างขวางกับทั้งสัตว์เล็กและ
ใหญ่ในทุกภูมิภาคของโลก หัวกระสุนมีน้ำหนักตั้งแต่ 200เกรน ถึง 350เกรน หัวขนาด300เกรนมี
ความเร็ว 2700ฟิต/วินาที และให้แรงประทะสูงสุด 4615ฟุต-ปอนด์ ซึ่งนับว่าแรงเกินพอสำหรับแบก
เข้าป่าเมืองไทยถ้าไม่ไปเจอเข้ากับตะขาบยักษ์หรือไดโนเสาร์!

ปืนกระบอกนี้กลายเป็นปืนคู่มือ ของบุญคำหลังจากที่รพินทรเปลี่ยนไปถือ .458

หนังสือ อ้างอิง 1) Rifles of the World 2) Cartridges of the world

แหล่ง ที่มา http://www.thailandoutdoor.com/Gun/gunofpetch/win375/win375.htm