เรียบเรียงโดย Clipmass.com
โดย Hope Diamond หรือ "เพชรสีน้ำเงิน" เป็นเพชรที่พบบริเวณใต้พื้นโลกประมาณ 1.1 พันล้านปีมาแล้ว และเป็นเพชรที่เต็มไปด้วยเรื่องราวคำสาปสุดสยองมากมาย เพราะผู้ที่ครอบครองมันนั้นล้วนแล้วแต่ต้องพบเจอกับสิ่งเลวร้ายทั้งสิ้น
เมื่อปี ค.ศ.1515 นักบวชชาวฮินดูเป็นผู้ที่ได้ครอบครองเพชรเม็ดนี้เป็นคนแรก เพราะเขาได้ขโมยเพชรเม็ดนี้ไปจากวัด แต่ก็ถูกจับได้ และโดนทรมานจนตาย
ต่อมาเพชรเม็ดนี้ก็ตกไปอยู่ในมือของ Jean-Baptiste Tavernier พ่อค้าชาวฝรั่งเศส ซึ่งเขาก็ได้ขายมันไปในราคาที่สูงมาก แต่สุดท้ายเงินที่เขาได้มาจากการขายเพชรเม็ดนี้ก็ต้องหมดไป เพราะลูกชายของเขานำไปเล่นพนันจนหมด ส่วนตัวเขาเองก็ถูกหมาป่ากิน
จากนั้นเพชรเม็ดนี้ก็ตกไปอยู่ในมือของ Nicolas Fouquet ซึ่งเป็นขุนนางชาวฝรั่งเศส แต่ในที่สุดเขาก็ถูกจับในข้อหายักยอกเงินและสร้างความอับอายให้กัยสาธารณะชน
และเมื่อปี 1700s ก็มีคนเห็นว่าเจ้าหญิง Marie Louise ซึ่งเป็นหนึ่งในขุนนางฝรั่งเศส ได้สวมเพชรเม็ดนี้ออกงานอยู่บ่อยครั้ง และสุดท้ายเธอก็ถูกข่มขืน และฆ่าตายในการสังหารหมู่เมื่อปี 1729
หลังจากนั้นเพชรเม็ดนี้ก็ตกเป็นของ พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และภรรยา Marie Antoinette ซึ่งทั้งสองพระองค์ถูกประหารชีวิตด้วยเครื่องกิโยตีน ในการปฏิวัติฝรั่งเศสปี 1793
ต่อมาเพชรเม็ดนี้จึงตกเป็นของ Henry Thomas Hope ดังนั้นจึงเป็นที่มาของชื่อเพชรว่า Hope Diamond ซึ่งเขาใช้เงินกว่า กว่า 30,000 ยูโร หรือ 1.5 ล้านบาท และสุดท้ายครอบครัวของเขาต้องตกเป็นหน้ และพบกับความสิ้นหวังแบบสุดๆ
และสุลต่าน Abdul Hamid ก็ได้ซื้อเพชรเม็ดนี้ต่อมาในราคา 13.2 ล้านบาท แต่สุดท้ายก็ถูกกลุ่มปฏิวัติยึดไปในที่สุด
จากนั้นครอบครัว McLean ก็เป็นผู้ครอบครองมัน และลูกของพวกเขาก็ถูกรถชนตาย ส่วนตัวของ MaLean ก็ป่วยตายเพราะไม่มีเงินรักษา อีกทั้งลูกสาวก็ตายเพราะเสพยาเกินขนาดอีกด้วย
และในปี 1958 Harry Winston ซึ่งเป็นผู้ครอบครองเพชรในช่วงนั้น ก็ตัดสินใจที่จะทำลายสาปด้วยการบริจาคมันให้กับ Smithsonian และหลังจากนั้นเป็นต้นมาก็ไม่มีรายงานเกี่ยวกับคำสาปของเพชรเม็ดนี้ปรากฎขึ้นอีกเลย
ข้อมูลและภาพประกอบจาก