ระยะหลังๆ มานี้ เทรนอาหารเพื่อสุขภาพกำลังมาแรง เพราะหลายๆ คนหันมาใส่ใจการดูแลสุขภาพร่างกายกันมากขึ้น และก็มีเมนูใหม่ๆ ที่หลายคนเพิ่งเคยได้ยินว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ “เมล็ดเชีย” กัน
       
       “เมล็ดเชีย” (หรือ เมล็ดเจีย) Chia Seed เป็นพืชในกลุ่มเครื่องเทศในตระกูลเดียวกับกะเพรา เป็นพืชให้เมล็ดเล็ก ๆ มีสองสีคือดำและขาว เปลือกนอกเมล็ดพองตัวได้เหมือนเม็ดแมงลัก พืชชนิดนี้จะเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็น
       
       จากหลักฐานทางโบราณคดีพบว่า เมล็ดเชียเป็นพืชที่มีอายุมานานกว่า 3,500 ปีก่อนคริสตกาลตั้งแต่สมัยอาณาจักรแอซแท็ก และอาณาจักรมายันในทวีปอเมริกา ชาวแอซเท็กและชาวมายันนิยมนำมาบริโภคเป็นอาหารหลักเหมือนกับธัญพืชทั่วไป เช่น ข้าวโพด และถั่ว โดยพวกเขาจะนำเอาเมล็ดเชียมาบดรวมกับแป้ง คั้นเป็นน้ำมันออกมาเพื่อใช้ดื่ม หรือไว้ปรุงอาหาร ด้วยความเชื่อที่ว่า เมล็ดเชียมีสรรพคุณทางยาที่ช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรง
       
       เหตุที่ผู้คนให้ความสนใจหันมากินเมล็ดเชียก็เนื่องจาก เมล็ดเชียมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายมากมาย เช่น ไฟเบอร์ กรดไขมันดีชนิดโอเมก้า-3 และโอเมก้า-6 แคลเซียม สารต้านอนุมูลอิสระ และโปรตีน เป็นต้น 
          ซึ่งสารอาหารเหล่านี้ ก็ทำให้เมล็ดเชียเป็นตัวช่วยทำให้สุขภาพดีขึ้น ทำให้หัวใจแข็งแรงจากกรดไขมันดีโอเมก้า-3 และ โอเมก้า-6 ช่วยปรับสมดุลระบบไหลเวียนโลหิตในร่างกาย ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ทำให้ระบบเผาผลาญของร่างกายดีขึ้น เนื่องจากเมล็ดเชียมีไฟเบอร์ โปรตีน และกรดไขมันโอเมก้าทรีสูง จึงช่วยปรับสมดุลระบบเผาผลาญพลังงานของร่างกายได้ เมล็ดเชียช่วยบำรุงความจำ เนื่องจากมีกรดไขมันโอเมก้าทรีสูงกว่าปลาแซลมอนถึง 9 เท่า ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมองให้ทำงานเป็นปกติ
       
       สำหรับเมนูอาหารต่างๆ ที่ทำมาจากเมล็ดเชีย ก็มีทั้งอาหารคาว เช่น การนำเมล็ดเชียไปใส่สลัด พาสต้า พิซซ่า หรือเป็นผักเครื่องเคียงในเมนูอาหารหลายๆ ชนิด ส่วนของหวาน ก็สามารถนำไปกินคู่กับไอศกรีม กินกับโยเกิร์ต ทำเป็นสมูทตี้ พุดดิ้ง หรือใส่ชา กาแฟ และน้ำผลไม้
       
       แต่ถึงจะเป็นอาหารสุขภาพอย่างไร วิธีกินเมล็ดเชียให้มีประโยชน์ก็คือ กินในปริมาณที่เหมาะสมและถูกวิธี รวมทั้งกินอาหารอื่นๆ ที่มีประโยชน์ควบคู่กันไปด้วย แบบนี้ถึงจะเรียกว่าดูแลสุขภาพด้วยอาหารอย่างแท้จริง