ตอนนี้มีผู้คนมากขึ้นเริ่มตระหนักถึงคุณค่าทางโภชนาการของเปลือกของผักและผลไม้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเปลือกของผักและผลไม้ทั้งหมดก็จะสามารถกินได้ ผักและผลไม้จะสามารถกินพร้อมเปลือกได้หรืไม่ เราต้องแยกเป็นสองประเภทอย่างชัดเจน ผักและผลไม้ที่เปลือกกินได้ และผักและผลไม้ที่เปลือกกินไม่ได้ เรามารู้จักด้วยกันว่ามันเป็นยังไงบ้าง

ผักและผลไม้ที่กินพร้อมเปลือกจะได้คุณค่าทางโภชนาการมากขึ้น

องุ่น: เปลือกขององุ่นมีผลต้านมะเร็ง

เปลือกขององุ่นมีสารที่ต้านมะเร็งได้ ในถั่วลิสง องุ่นและพืชอีก70  กว่าชนิดต่างก็มีสารนี้ แต่ในองุ่นและไวน์แดงจะมากที่สุด เปลือกขององุ่นมีสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการกลายพันธุ์ ลดการผิดปกติของตับ เพิ่มการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด และอื่น ๆ

มะเขือ: เปลือกของมะเขือสามารถป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดได้

มะเขือเป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด มีสารอาหารมากมายฝังอยู่ในเปลือกของมะเขือ ถ้าปอกเปลือกของมะเขือออก ไม่เพียงแต่จะลดคุณค่าทางโภชนาการให้น้อยลง และยังส่งผลกระทบต่อการดูดซึมธาตุเหล็กของร่างกาย ส่วนที่มีปริมาณวิตามินมากที่สุดของมะเขือคือช่วงที่เปลือกสีม่วงและเนื้อติดกัน ดังนั้นมะเขือสีม่วงจะเป็นพันธุ์ที่ดีที่สุด

แอปเปิ้ล: เปลือกของแอปเปิ้ลมีสารต้านอนุมูลอิสระ

แอปเปิ้ลจะมีเส้นใยอาหารอย่างสูง จะสามารถช่วยในการย่อยอาหารได้ วิตามินซีของแอปเปิ้ลเกือบครึ่งหนึ่งจะอยู่กับเปลือก สารต้านอนุมูลอิสระของแอปเปิ้ลจะดีกว่าผลไม้และผักอื่น ๆ นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันความเมื่อยล้าและเพิ่มแรงให้กับทางกายภาพ เปลือกของแอปเปิ้ลยังสามารถยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรียในปากและมีผลป้องกันการกัดกร่อน เพื่อป้องกันฟันของเรา นอกจากนี้ยังสามารถช่วยให้ผิวขาวและนุ่มและป้องกันการก่อตัวของจุดสีดำ

มีข้อเสนอแนะว่าเมื่อกินแอปเปิ้ล ที่ดีที่สุดก็คือล้างให้สะอาดแล้วกินพร้อมเปลือกลงไปตอนนี้มีแอปเปิ้ลมากมายได้ทาแว็กซ์ ก่อนกินให้ใช้น้ำอุ่นละลายแว็กซ์ที่เปลือกก่อนเสร็จแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

ส้ม: เปลือกของส้มจะช่วยให้เราอยากกินอาหารและกำจัดเสมหะ

เปลือกของส้มมีวิตามิน C แคโรทีน โปรตีนและสารอาหารอื่น ๆ เปลือกของส้มมีกลิ่นหอมและอร่อย แล้วยังสามารถช่วยรักษาอาการไอและเสมหะได้ เอาเปลือกส้มแช่ในน้ำเปล่าหรือน้ำชา จะมีรสกลิ่นหอมมาก และยังเรียกน้ำย่อยช่วยให้เราอยากกินอาหารและสดชื่นได้

ผักและผลไม้ที่เปลือกกินไม่ได้

เมื่อลูกพลับยังไม่สุก แทนนินส่วนใหญ่จะอยู่ในเนื้อของลูกพลับ แต่เมื่อลูกพลับสุก กรดแทนนิคจะอยู่ในเปลือกของลูกพลับ หลังจากกรดแทนนิคเข้าสู่ร่างกาย ได้พบกับโปรตีนในอาหารจะสามารถผลิตตะกอนออกมา ทำให้เกิดโรคต่างๆได้

เปลือกของมันฝรั่งสีแดงมีด่างอย่างสูง กินเข้าไปอาจทำให้เกิดอาการกับระบบทางเดินอาหาร จุดสีน้ำตาลและสีแดงที่อยู่บนเปลือกเกิดจากเชื้อราแอลเทอร์นาเรีย ถ้าเข้าสู่ร่างกายของเราจะเกิดความเสียหายต่อตับและก่อให้เกิดพิษได้ อาการเริ่มแรก จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียและท้องเสีย กรณีที่รุนแรงอาจทำให้เป็นไข้สูง ปวดศีรษะ โรคหอบหืด อาการชักอาเจียน อาการโคม่าและเสียชีวิตก็ได้