จากกระเเสข่าว แชร์ลูกโซ่ ที่ครึกโครมอยู่ขณะนี้อาจทำให้หลายคนเกิดความสับสน ว่าธุรกิจเเชร์ลูกโซ่ กับ ธุรกิจขายตรง มีความเเตกต่างกันอย่างไร
รวมถึงอุทาหรณ์ ที่โจษจันของผู้เสียหาย รายเเล้วรายเล่า ตามหน้าหนังสือพิมพ์ อาจทำให้เกิดความหวาดกลัว เเละเข้าใจผิดเนื่องจากบ่อยครั้ง ตกเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว
วันนี้จะพามารู้เเจ้งเห็นจริง ของความต่าง แบบชัดๆ และเข้าใจง่าย ระหว่าง’เเชร์ลูกโซ่ กับ ขายตรง’ ว่ามีข้อเเตกต่างกันอย่างไรบ้าง
1.การจดทะเบียน
ธุรกิจขายตรง – จะต้องจดทะเบียนที่ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. และต้องมีการนำเสนอ เเผนธุรกิจ
เเชร์ลูกโซ่ – ไม่มีการจดทะเบียนใดๆทั้งสิ้น
2.การรับสมัครสมาชิก
ธุรกิจขายตรง – ไม่มีการบังคับ / เเละไม่มีเงื่อนไข ให้สมาชิกซื้อสินค้าเพื่อมีสิทธิในการเข้าร่วมธุรกิจ
เเชร์ลูกโซ่ – มีการบังคับ ทั้งทางตรงและทางอ้อม เพื่อให้สมาชิกซื้อสินค้า
3.การขายสินค้า
ธุรกิจขายตรง – สมาชิกจะนำสินค้าไปขายให้เเก่ผู้บริโภคโดยตรง
เเชร์ลูกโซ่ – ไม่เน้นให้สมาชิกขายสินค้า เเต่เน้นให้มีการชักชวนบุคคลอื่นเข้ามาร่วมกับเครือข่าย
4.การจ่ายผลตอบเเทน
ธุรกิจขายตรง – มีผลตอบเเทนหลักคือการขายสินค้าโดยตรง
เเชร์ลูกโซ่ – มีรายได้มาจากจำนวนสมาชิกที่เข้าร่วมเครือข่าย เป็นรายได้หลัก
5.ลักษณะของสินค้า
ธุรกิจขายตรง – ต้องเป็นสินค้าที่มีคุณภาพที่ดี ผ่านการตรวจสอบ จากองค์กรที่ดูเเล ชั้นนำของประเทศ
เเชร์ลูกโซ่ – ราคาสินค้าค่อนข้างสูง เเละมีคุณภาพต่ำ ใช้หลักการโฆษณาเกินจริงไว้ก่อน
6.สิทธิของสมาชิก
ธุรกิจขายตรง – สามารถคืนสินค้าได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด
เเชร์ลูกโซ่ – มักไม่สามารถส่งคืนสินค้าได้เนื่องจาก ระบบการจ่ายเงินเป็นการนำเงินจาก ผู้สมัครรายใหม่มาให้กับสมาชิกรายเก่า
7.สิทธิของผู้บริโภค
ธุรกิจขายตรง – ผู้บริโภคสามารถยกเลิกสัญญาได้โดยการส่งหนังสือ แสดงเจตนาภายใน 7 วัน นับจากวันที่ได้รับ สินค้า/บริการ
เเชร์ลูกโซ่ – การซื้อสินค้าของสมาชิก เป็นไปตามเงื่อนไขเพื่อหวังรับผลประโยชน์ตอบเเทน จึงไม่ผู้บริโภคตามกฎหมายโดยตรง
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ที่หวังเเสวงหาผลกำไร บนความลำบากของผู้อื่น ก็ยังมีอีก หลายกลโกง อยู่ที่ว่าผู้บริโภคจะรู้ทันกลโกงเหล่านั้นหรือไม่ ซึ่งจากบทความสั้นๆ นี้ ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะทำให้ผู้อ่าน ที่เคยเข้าไปใน ‘วนเวียนแห่งการเอารัดเอาเปรียบได้หูตาสว่างขึ้นมาบ้าง …