7 เคล็ดลับดับร้อน นอนหลับสบาย ในคืนร้อนนน...

อากาศร้อนๆ อย่างนี้ นอกจากจะเสียเหงื่อและยังทำให้เราหงุดหงิด อารมณ์ไม่ดี เวลานอนก็แสนจะยากเย็นเพราะอากาศที่ร้อนเหลือคณา ถ้าบ้านไหนมีแอร์ให้เย็นกายชื่นฉ่ำใจก็โชคดีไป แต่พอถึงสิ้นเดือนก็แทบสิ้นใจ เพราะค่าไฟคงมาแรงแซงทางโค้งเป็นแน่ เราจึงได้คิดค้นหาวิธีที่จะทำให้คุณเย็นโดยไม่พึ่งแอร์ ประหยัดไฟยิ่งกว่าเบอร์ 5 ส่วนคนไหนงบน้อยมีแต่ “แฟน” แต่ไม่มี “แอร์” ก็ไม่เป็นไร วิธีนี้รับรองไม่ร้อนนอนสบาย ค่าไฟไม่ขึ้นแน่นนอน 
          1.ทำตัวให้เย็น
       
       • ดื่มน้ำบ่อยๆ จะช่วยทำให้ร่างกายของคุณเย็นขึ้น พยายามดื่มน้ำทุกๆ ชั่วโมงอย่างน้อย 8 ออนซ์ อาจจะเพิ่มใบสะระแหน่ เปลือกส้ม มะนาว ลงไปในน้ำจะช่วยให้สดชื่นขึ้น
       
       • แช่ข้อมือของคุณในน้ำเย็น ข้างละ 10 วินาที โดยวิธีนี้จะช่วยลดอุณหภูมิในร่างกายของคุณได้ประมาณ 10 ชั่วโมง
       
       • แช่เท้าของคุณในถังน้ำเย็น ความเย็นจะแผ่กระจายไปยัง มือ เท้า ใบหน้า และหู เพื่อระบายความร้อน
       
       2.ใส่เสื้อผ้า (หรือไม่ใส่) แล้วแต่สถานการณ์คลายร้อน
       
       “ไม่ใส่เสื้อผ้า” ถ้าคุณอยู่ในสถานการณ์และสถานที่ที่สามารถ นุ่งน้อยห่มได้ อย่ารอช้า เพราะการใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นหรือไม่ใส่อะไรเลย จะช่วยให้คุณรู้สึกเย็นสบายได้อย่างเป็นธรรมชาติที่สุด ร้อนมากไม่ใส่อะไรเลย ร้อนน้อยหน่อย ใส่เป็นชุดว่ายน้ำหรือชุดชั้นในอยู่บ้าน ก็ไม่ว่ากัน เย็นสบายอย่าบอกใคร
       
       เคล็ดลับสำหรับการเลือกเสื้อผ้าสำหรับหน้าร้อน ควรเป็นเสื้อผ้าที่ผลิตจากใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าไหม ผ้าลินิน จำทำให้คุณรู้สึกเย็นขึ้นกว่าผ้าที่ทำมาจากใยสังเคราะห์ และควรสวมเสื้อผ้าสีอ่อนๆ เพราะเสื้อผ้าสีเข้ม จะดูดแสงและเก็บความร้อนได้ดีกว่า แนะนำให้สวมเสื้อผ้าสีขาว เพราะจะช่วยสะท้อนแสงได้ดีที่สุด รวมทั้งไม่เก็บความร้อนอีกด้วย
       
       3.ทำความเย็นโดยไม่พึ่งแอร์
       
       เริ่มต้นด้วยการนำภาชนะใส่น้ำไปแช่ช่องฟรีซให้แข็ง จากนั้น นำน้ำแข็งที่ได้มาใส่ภาชนะใบใหญ่ ตั้งไว้หน้าพัดลม ไอเย็นจากน้ำแข็งกำลังละลายจะทำให้คุณเย็นสบายคล้ายแอร์เลยทีเดียว นอกจากนั้น น้ำแข็งที่ละลายแล้วคุณยังสามารถนำมารีไซเคิลไปแช่แข็งได้ใหม่ ประหยัดทั้งไฟ ประหยัดทั้งน้ำ แบบนี้ไม่รักไม่ได้แล้ว
       
       ฟังก์ชั่นนี้ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของแอร์คุณได้ด้วย ไม่ให้แอร์ของคุณทำงานหนักจนเกินไป และความเย็นที่ได้ไม่เย็นเจี๊ยบชื่นใจเหมือนการเปิดแอร์ 13 องศา อย่างแน่นอน แต่เป็นตัวช่วยหนึ่งที่ทำให้คุณเย็นขึ้นโดยไม่อาศัยแอร์นั่นเอง 
          4.หมอนเย็น
       
       ตัวช่วยแรกที่เราขอแนะนำสำหรับการทำ “หมอนเย็น” นั่นก็คือ “แผ่นรองหมอนเย็น” ที่จะมอบความเย็นสดชื่น จากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว เพียงวางรองบนหมอนตอนเข้านอน แผ่นเจลจะค่อยๆ ดูดซับและถ่ายเทความร้อนจากร่างกาย ทำให้อุณหภูมิในร่างกายลดลง เย็นสบาย และนอนหลับได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
       
       วิธีที่สอง เอาหมอนใบเล็กๆ ไปแช่ตู้เย็นก่อนที่คุณจะนอนสัก 1-2 ชั่วโมง โดยเอาถุงพลาสติกคลุมไว้ก่อนแช่ในตู้เย็น เพื่อไม่ทำให้หมอนชื้นหรือเปียกจากไอเย็นน้ำแข็ง หรือจะจัดเต็มแบบครบเซตด้วยการเอาผ้าปูที่นอนหรือผ้าห่มผืนบางๆ ไปแช่ตู้เย็นด้วย แต่อย่าลืมเอาถุงพลาสติกคลุมทุกครั้ง จะได้ไม่เปียกชื้นจนเกินไป ซึ่งวิธีนี้อาจจะทำให้คุณเย็นได้เพียงไม่กี่นาทีหลังจากที่เอาหมอนหรือผ้าห่มออกมาจากตู้เย็น ดังนั้นต้องรีบทำเวลาหน่อย
       
       5.เพิ่มความชุ่มชื่นด้วยผ้าม่าน
       
       ฉีดน้ำเย็นๆ ลงบนผ้าม่าน หรือผ้าผืนบางๆ พอหมาดๆ จากนั้นนำไป แขวนไว้ตรงหน้าต่างที่เปิดอยู่ เวลาที่ลมพัดผ่านเข้ามาจะได้รับความเย็นและความชุ่มชื่นจากผ้าที่ผึ่งไว้จะช่วยทำให้อุณหภูมิในห้องของคุณเย็นขึ้น
       
       6.ใช้วิธีอียิปต์โบราณ
       
       วิธีนี้เป็นวิธีการเก่าแก่ของชาวอียิปต์โบราณที่ใช้คลายคลามร้อนยามค่ำคืน เพียงแค่แช่ผ้าบางผืนใหญ่ หรือผ้าห่ม แช่ในน้ำเย็น จากนั้นนำไปผึ่งทิ้งไว้พอหมาดๆ แต่ไม่แห้ง และไม่เปียกจนมีน้ำหยดเป็นอันใช้ได้ นำผ้าห่มมาคลุมตัวคุณไว้ตอนนอน จะช่วยให้ร่างกายของคุณเย็นขึ้น
       
       หรืออีกหนึ่งวิธีที่ที่เป็นที่นิยมคือ การนำแพคน้ำแข็งมาวางไว้บนศีรษะ หรือข้อมือของคุณก่อนนอน จะช่วยให้คุณเย็นสบายขึ้น และต้องให้แน่ใจว่าแพคน้ำแข็งไว้อย่างดีไม่หยดจนเปียก หรือจะเป็นถุงเท้าชุบน้ำพอหมาดๆ สวมก่อนนอนก็เย็นดีไม่น้อย 
          7.ระบายความร้อนออกนอกห้อง
       
       เป็นการครีเอทโดยใช้หลักการถ่ายเทความร้อน จากในห้องออกไปด้านนอก โดยการเปิดพัดลมตั้งโต๊ะแล้วหันหน้าออกไปนอกหน้าต่างเพื่อเป็นการระบายความร้อน จากนั้นให้เปิดพัดลมเพดาน เพื่อเป็นการหมุนเวียนอากาศ ดึงความร้อนขึ้น และพัดออกไปโดยพัดลมตั้งโต๊ะตรงหน้าต่าง เพียงเท่านี้ก็สามารถทำให้ห้องของคุณเย็นขึ้น
Credit: http://www.manager.co.th/goodhealth/ViewNews.aspx?NewsID=9580000045198
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...