ภาพที่หาดูยาก "เฉินหลง" สมัยอยู่ เยาวราช ตอน 9 ขวบ

ภาพที่หาดูยากที่แฟนภาพยนตร์ของ "เฉินหลง" เมืองไทยคงไม่เคยเห็น อายุเพียง 9 ขวบ 

              เฉินหลงมีความผูกผันกับคนไทยมาก เพราะเมื่อครั้งเฉินหลงอายุ 9 ขวบ ได้มีโอกาสมาใช้ชีวิตอยู่ในเยาวราชถึง 2 ปี อาศัยอยู่หลังโรงงิ้วเก่าๆจะมีรับงานแสดง งิ้วเล็กๆน้อยๆเป็นบางครั้ง และได้เรียนมวยไทยกับคุณลุงแก่ๆขาเป๋ คอยสอนมวยไทยให้ นี้แหละคือเหตุผลทำไมเฉินหลงจึงมีความผูกพันกับคนไทยมาก

 


         ทั้งนี้ แจ๊คกี้ ชาน หรือ เฉินหลง เป็นนักแสดงชาวฮ่องกงที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก เกิดเมื่อวันที่ 7 เมษายน ค.ศ. 1954 ชื่อจริงของเฉินหลงคือ เฉิน กั่งเซิง ซึ่ง เฉิน กั่งเซิง มีความหมายว่า เกิดที่ฮ่องกง

       เกิดในครอบครัวที่ยากจน จนพวกเขาต้องขอยืมเงินเพื่อมาจ่ายเงินค่าทำคลอด เมื่ออายุได้เจ็ดขวบ เขาก็ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนอุปรากรจีน (เรียนงิ้ว) ที่ซึ่งเขาได้ฝึกฝนงิ้วเป็นเวลาสิบปี ทั้งกายกรรม ศิลปะการต่อสู้ การแสดงและการร้องเพลง ที่นี่เองที่ทำให้เขาได้รู้จักกับเพื่อนร่วมสาบานอย่าง หงจินเป่า และ หยวนเปียว

แต่ความไฝฝั่นด้านการแสดงงิ้วก็ต้องจบลง เมื่อเขาอายุได้ 17 ปี วงการงิ้วหมดความนิยมลง เขาจึงหันเหไปสมัครเข้าร่วมทีมสตันท์ในวงการหนังฮ่องกง แต่อยู่ได้ไม่นานก็ต้องตกงาน เพราะวงการหนังกังฟูฮ่องกง กำลังอยู่ในช่วงตกต่ำ ในช่วงที่ บรู๊ซ ลี เสียชีวิต

เฉินหลงได้กลับเข้ามาในวงการอีกครั้ง โดยร่วมงานกับผู้สร้างหนังอย่าง หลอเหว่ย ผู้กำกับหนัง Fist of Fury (ไอ้หนุ่มซินตึ๊ง) ได้เล่นหนังตอนนั้นทั้งหมด 10 เรื่อง แต่ไม่ประสบความสำเร็จเลยซักเรื่องเดียว

ถึงแม้หนังที่เขาแสดงจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่เขาก็ไม่ย่อท้อ ยังแสดงหนังต่อไปจนในที่สุด ปี 1978 เมื่อเฉินหลงนำแสดงหนังให้กับ Seasonal Film เรื่อง Snake in the Eagle's Shadow (ไอ้หนุ่มพันมือ) (1978) หนังเรื่องนี้นี่เองที่ทำให้ชื่อของเฉินหลง กลายเป็นดาราดังเพียงช่วงข้ามคืน หลังจากนั้นหนังที่เฉินหลงได้แสดง ก็ต่างได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องเสมอมา

ปี 1983 เฉินหลงได้จัดตั้งทีมงานสตั๊นท์ของตนเองโดยใช้ชื่อว่า Jackie Chan Stunt Team (หรืออีกชื่อ Jackie Chan's Stuntmen Association) ในการถ่ายทำ เฉินหลงได้ประสบอุบัติเหตุนับครั้งไม่ถ้วน แต่ครั้งที่ร้ายแรงที่สุดก็คือในหนังเรื่อง Armour of God (1987) : ใหญ่สั่งมาเกิด โดยในฉากที่เฉินหลงจะต้องกระโดดจากตึกแล้วมาเกาะต้นไม้ ต้นไม้ที่เฉินหลงเกาะนั้นเกิดหัก ทำให้เฉินหลงตกลงมาในความสูงที่พอสมควร ผลก็คือ กะโหลกศีรษะของเฉินหลงร้าว ถึงแม้จะรอดมาได้ แต่หูของเขาได้รับความกระทบกระเทือน จนทำให้ประสิทธิภาพในการได้ยินลดลง

ปี 2003 เฉินหลงได้เปิดบริษัทภาพยนตร์ของตัวเองในนาม JCE Movies Limited (Jackie Chan Emperor Movies Limited) ซึ่งตัวของเฉินหลงเองเป็นทั้งผู้สร้างและนำแสดงด้วยตนเอง หนังของเขาเรื่องแรกในนามบริษัทนี้ คือ The Medallion (ฟัดอมตะ) (2003) และหลังจากนั้นก็มีผลงานทำเงินต่อเนื่องอย่าง New Police Story (วิ่งสู้ฟัด 5 เหิรสู้ฟัด) (2004) , The Myth (ดาบทะลุฟ้า ฟัดทะลุเวลา) (2005) และ Rob-B-Hood (วิ่งกระเตงฟัด) (2006)

ตลอดระยะเวลา 20 ปี เฉินหลงได้อุทิศแรงและเวลาว่างของเขาให้กับงานการกุศล เขาได้ก่อตั้งมูลนิธิเฉินหลงขึ้นมา ได้ทำงานให้กับองค์กรการกุศลทั้งในบ้านเกิดและต่างประเทศมากมาย มูลนิธิหัวใจมังกรของเขา ซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อสร้างโรงเรียนในพื้นที่ชนบทของจีน และเขายังเป็นทูตสันถวไมตรีของยูนิเซฟ/ยูเอ็นเอดส์ เป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ของสภากาชาดอเมริกัน เป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิการบินพลเมืองเฉินหลงในจีน และเป็นเจ้าภาพจัดงานคอนเสิร์ตและการแข่งรถการกุศลมากมาย

เฉินหลงถ่ายกับพ่อตอนเด็ก


 
Credit: http://entertain.teenee.com/chinese_star/131483.html
12 เม.ย. 58 เวลา 02:40 34,527 1 60
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...