เกาะกระดานฟ้าสวยน้ำทะเลใส
อากาศร้อนอบอ้าว หัวใจต้องการทะเล “ตะลอนเที่ยว” ก็อยากจะออกไปต่างจังหวัดรับลมทะเล พักสายตาจากการทำงาน ออกไปมองฟ้าอันสดใส พาใจไปพักผ่อน เรามาเที่ยวด้วยกันที่ “จังหวัดตรัง” หนึ่งในเมืองต้องห้าม...พลาด ตามโครงการของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
"ติ่มซำ"เมนูอาหารเช้าของคนตรัง
แต่มาครั้งนี้มีเวลาเที่ยวแค่เพียงหนึ่งวัน ก็กลัวจะเที่ยวไม่จุใจเลยขอเที่ยวแบบครบรสสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติในจังหวัดตรังตั้งแต่เช้ายันค่ำ สัมผัสท้องน้ำ ท้องฟ้า ท้องทะเลตรัง เรียกว่ามาเที่ยวทั้งทีขอตะลอนถึงไหนถึงกัน ถึงจะเป็นทริปสั้นๆ แต่ประทับใจอย่างแน่นอน
หมูย่างเมืองตรัง
มาถึงเมืองตรังเมืองของคนช่างกิน เมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องอาหารเช้า เราก็ขอทำตัวเป็นคนช่างกินเหมือนกับคำที่ว่า เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม มาเมืองนี้ต้องไม่พลาดกินอาหารเช้าสไตล์คนตรังเลย ต้องรีบตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ รีบตรงไปยังร้านโกปี้หรือร้านกาแฟนั่นเอง สิ่งแรกที่ต้องทำคือสั่งเครื่องดื่มก่อนเลย หลังจากนั้นอาหารอื่นๆจะตามมาเต็มโต๊ะ ทำเอาตื่นตาตื่นใจมากกับอาหาร
"จาโก้ย" หรือ ปาท่องโก๋ ทานคู่กับสังขยา
เมนูติ่มซำที่วางอยู่ข้างหน้า มีทั้งขนมจีบ ซาลาเปา ฮะเก๋า ปาท่องโก๋ และอีกหนึ่งเมนูเด็ดที่พลาดไม่ได้คือ หมูย่างเมืองตรัง อาหารเด็ดที่ขึ้นชื่อของเมืองตรัง ถ้ามาเมืองหมูย่างแล้วไม่ได้กินหมูย่าง ก็เหมือนมาไม่ถึงเมืองตรัง เราเลยต้องสั่งมาลองลิ้มชิมรส หมูย่างเนื้อนุ่มๆ หนังกรอบๆ อร่อยจนหยุดกินไม่ได้
บรรยากาศภายในถ้ำมรกต
พอท้องอิ่มเราก็พร้อมออกเดินทาง สถานที่แรกที่ไปคือ ถ้ำมรกต ถ้ำน้ำทะเลที่เกิดจากมหัศจรรย์ทางธรรมชาติทางทะเล จากปากทางเข้าถ้ำซึ่งเป็นโพรงเล็กๆ จะเข้าออกได้ทางเดียวเฉพาะช่วงน้ำลงเท่านั้น วิธีการเข้าถ้ำคือต้องใส่เสื้อชูชีพต่อแถวเรียงหนึ่งและเกาะหลังลอยคอเข้าไปในถ้ำ และช่วยกันปั่นจักรยานในน้ำและจับคนข้างหน้าไว้ให้มั่น หากใครที่ว่ายน้ำไม่เป็นก็ไม่ต้องกลัว เราสามารถเข้าไปชมถ้ำมรกตได้ปกติ
นักท่องเที่ยวเข้าแถวเรียงหนึ่งสู่ถ้ำมรกต
ระหว่างทางในถ้ำถ้ำก็จะเจอทัวร์กรุ๊ปอื่นส่งเสียงทักทายก้องกังวานกันไปทั่วทั้งถ้ำ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านถ้ำบรรยากาศจะมืดจนมองไม่เห็นอะไรเลย เมื่อพ้นปากถ้ำจะพบกับหาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลสีมรกตใสแจ๋ว โอบล้อมไปด้วยผาสูงชัน เมื่อแหงนหน้ามองขึ้นไป จะเห็นเป็นโพรงขนาดใหญ่ ให้ความรู้สึกทึ่งในสิ่งที่ธรรมชาติสร้างสรรค์อย่างลงตัว
เกาะกระดาน เกาะที่มีชายหาดสวยที่สุดของท้องทะเลตรัง
ออกจากถ้ำมรกตกันแล้ว เรารีบนั่งเรือมาชมความงดงามกันต่อที่ เกาะกระดาน เกาะแห่งนี้ได้รับฉายาว่า “เกาะแห่งความรัก” เพราะได้ถูกเลือกให้เป็นสถานที่จัดพิธีวิวาห์ใต้สมุทรที่จัดขึ้นในช่วงกุมภาพันธ์ของทุกๆปี ขึ้นชื่อว่าเป็นเกาะแห่งความรัก เป็นเกาะที่มีชายหาดสวยที่สุดของท้องทะเลตรัง เมื่อมาถึงบรรยากาศโดยรอบนั้นก็มีความสวยงามสมคำล่ำลือ น้ำทะเลใส มองเห็นปะการังทอดตัวเรียงราย ฝูงปลาทะเลแหวกว่าย เหมาะสำหรับการมาพักผ่อน
เรามีเวลาน้อยขอแค่นั่งมองวิวเพลินๆ ก็สุขใจ คนขับเรือชี้ให้ดูเกาะอื่นๆได้จากเกาะนี้ไม่ว่าจะเป็น เกาะมุก เกาะแหวน เกาะเชือก เกาะม้า เรียงไปจนถึงเกาะไหงอีกด้วย
ความสวยงามของหินงอกหินในถ้ำเลเขากอบ
หรือใครที่ชอบบรรยากาศของการแอดเวนเจอร์ที่มากกว่าการเข้าถ้ำมรกตแต่ไม่อยากให้ตัวเปียกน้ำ ถ้ำเลเขากอบ ก็ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ถ้ำเลเขากอบจัดเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยว unseen Thailand การเข้าถ้ำจะมีชาวบ้านพายเรือท้องแบนพาเข้าไป ซึ่งเรือรองรับผู้เข้าชมถ้ำได้ลำละ 5 คนเท่านั้น เหมาทั้งลำรอบละ 300 บาท เราจึงไม่รอช้ารีบเข้าไปสัมผัสบรรยากาศ โดยมีคนพายเรือเป็นมัคคุเทศก์ท้องถิ่นไปในตัว
เมื่อเข้าสู่ภายในถ้ำเราจะต้องนอนราบกับท้องเรือสลับกับนั่ง ซึ่งภายในถ้ำประกอบด้วยโถงถ้ำ มีหินงอกหินย้อยสวยงามแตกต่างกัน มีถ้ำลักษณะต่างตามชื่อถ้ำ เช่น ถ้ำท้องพระโรง เป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยที่มีลักษณะคล้ายกับม่านหิน และชมถ้ำอื่นๆ อีกคือ ถ้ำรากไทร ถ้ำคนธรรพ์ ถ้ำเจ้าสาว
ความหวาดเสียวขณะลอดท้องมังกร ณ ถ้ำเลเขากอบ
ไฮไลท์เด็ดของถ้ำเลเขากอบอีกอย่างหนึ่งที่สร้างความประทับใจ คือการนอนหงายราบให้ชิดกับกับท้องเรือมากที่สุดเพื่อลอดท้องมังกร ซึ่งเป็นที่ช่วงหนึ่งของถ้ำที่มีขนาดที่แคบมาก เพดานถ้ำต่ำมีระยะห่างจากหน้าแค่ฝ่ามือเดียว และห้ามจับหินงอกหินย้อย คนพายเรือจะต้องใช้ความชำนาญอย่างมาก ตลอดระยะทางประมาณ 350 เมตร เราจะต้องไม่ขยับตัวต้องนอนนิ่งๆ เอามือแนบชิดกับลำตัวให้มากที่สุด เพื่อความปลอดภัย เรียกได้ว่าสร้างความตื่นเต้น ลุ้นระทึก และสนุกสนาน หวาดเสียว โดยที่ตัวไม่เปียกอย่างแน่นอน
มังกรพ่นน้ำ ประดิษฐ์จากรากไม้เทพทาโร
หลังจากลอดท้องมังกรของถ้ำเลเขากอบกันแล้ว ก็มีสถานที่ที่ไม่ไกลจากถ้ำเลเขากอบมากนักคือ วังเทพทาโร เราเลยขอแวะมาดูเจ้ามังกรซะหน่อย เมื่อมาถึงก็จะพบเจ้ามังกรที่ทำจากรากไม้เทพทาโร ตกแต่งเรียงรายในสวนไม้เทพทาโร จากนั้นเดินลอดซุ้มท้องมังกร 9ช่องมหามงคล ซึ่งที่แห่งนี้เป็นแหล่งเรียนรู้รากไม้เทพทาโรหรือ ทางภาคใต้เรียกว่า “ไม้จวงหอม” ซึ่งเป็นไม้หอม มีกลิ่นหอมอ่อนๆให้ความรู้สึกผ่อนคลาย บ้านจวงหอมซึ่งมีมังกรไม้เทพทาโรที่ใหญ่ที่สุดในโลก สามารถแวะมาอุดหนุนงานหัตถกรรมท้องถิ่นที่ทำจากไม้เทพทาโรเป็นของฝากจากจังหวัดตรังกันได้
ซุ้มมังกรจากรากไม้เทพทาโรที่มีลักษณะโดดเด่นแตกต่างเฉพาะตัว
เรียกได้ว่าทริปนี้เป็นการสัมผัสจังหวัดตรังแบบย่อๆ แต่ครบรสในหนึ่งวัน ลงตัวอย่างพอดี หากใครต้องการสัมผัสวิถีชีวิตและสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆอีกมากมาย เช่น เกาะมุก, เกาะรอก, สถานีรถไฟกันตัง, ถนนคนเดิน ฯลฯ อาจจะต้องปักธงเขียวให้จังหวัดตรังเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งในการที่จะเลือกที่จะมาพักผ่อน
ปลาพะยูน สัญลักษณ์ประจำจังหวัดตรัง ทำจากไม้เทพทาโร
มาวันเดียวอาจจะเที่ยวได้แค่ส่วนหนึ่ง จังหวัดตรังยังมีที่ท่องเที่ยวอื่นๆที่สวยงามรอเราไปสัมผัส สำหรับการพักผ่อนครั้งหน้า จังหวัดตรังจะเป็นตัวเลือกแรกที่คิดถึง
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตรัง โทร. 0-7521-5867, 0-7521-1058 , 0-7521-1085 หรือเว็บไซต์ www.tourismthailand.org/Trang