ชวนขนลุก!! มาดูพฤติกรรมประหลาดที่คนได้กระทำกับ ซากศพ!!

การเกิด แก่ เจ็บ ตาย ถือเป็นเรื่องที่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ทุกคน ซึ่งเมื่อมนุษย์เสียชีวิตแล้วศพของพวกเขาก็จะถูกนำไปทำพิธีต่างๆทางศาสนา แต่ทว่าในอดีตศพบางศพได้ถูกมนุษย์นำมาใช้ทำบางอย่างที่แปลกประหลาด!! โดยบางศพก็ถูกนำมาใช้ในการทดลองต่างๆ

...ศพที่แข็งเป็นหิน...

มนุษย์ได้มีแนวคิดในการรักษาศพมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยที่รู้จักกันดีคือการทำมัมมี่ ในปี 1792 นาย Girolamo Segato ผู้เชี่ยวชาญด้านกายวิภาคของมนุษย์ เขาได้ใช้เทคนิคพิเศษชนิดหนึ่งในการรักษาเนื้อของมนุษย์ นั่นคือการทำให้เนื้อที่ซากศพกลายเป็นก้อนหิน เขาได้ค้นพบวิธีที่ทำให้ร่างกายของสัตว์แข็งเป็นหินได้ในช่วงเวลาสั้นๆ ซึ่งสามารถรักษาร่างกายเอาไว้ได้อย่างถาวร และถ้าทำในช่วงเวลาที่เหมาะสมผิวก็จะสามารถมองเห็นเป็นลวดลายแผ่นหินได้เลย และมันจะมีความเงาอย่างปราณีต ทว่าก่อนที่เขาจะตายเขาได้เผาบันทึกทั้งหมดของเขาทิ้ง ทำให้วิธีการนี้กลายเป็นปริศนามาถึงปัจจุบัน

...ศพดอง...

ได้มีการก่อสร้างทางรถไฟเชื่อมระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติกและมหาสมุทรแปซิฟิก ได้มีผู้คนมากมายมาทำงานที่ไซต์งานแห่งนี้ บางคนก็ไม่มีบัตรประจำตัวหรือคนรู้จักที่นี่เลย ซึ่งกว่าจะสร้างทางรถไฟสำเร็จได้มีคนงานเสียชีวิตเป็นจำนวนมากจากการป่วยด้วยโรคระบาด แม้จะไม่มีการระบุตัวเลขผู้เสียชีวิตที่แน่นอน แต่จากการคาดเดาน่าจะเกิน 1 หมื่นคนแน่ๆ ทว่าบริษัทที่รับสร้างทางรถไฟแห่งนี้ไม่ได้ฝังศพเหล่านี้อย่างที่ควรเป็น แต่พวกเขาได้นำซากศพที่มีมากมายไปดองเพื่อขายให้กับโรงเรียนแพทย์ ซึ่งขณะนั้นถือเป็นยุคแห่งความรุ่งโรจน์ของวงการแพทย์เลยทีเดียว หลังจากนั้นอีก 5 ปี บริษัทรับเหมาก่อสร้างทางรถไฟแห่งปานามาก็กลายมาเป็นผู้ขายศพรายใหญ่

...บ้องกัญชาที่ทำมาจากศพ...

เมื่อพวกติดยาต้องการจะเสพยาพวกเขาสามารถดัดแปลงทุกอย่างเพื่อใช้เป็นอุปกรณ์ในการเสพยาได้ ซึ่งมีเด็กวัยรุ่น 3 คนได้ใช้วิธีสยดสยองในการสูบยา โดยพวกเขาได้ขุดหลุมฝังศพเด็กคนหนึ่งหนึ่งเพื่อนำส่วนศีรษะมาทำเป็นบ้องกัญชา!! แต่สุดท้ายพวกเขาก็ถูกจับในข้อหาล่วงละเมิดศพ

...จุมพิตของ แซมมัวร์ ป๊อบปี้...

นี่เป็นเรื่องราวในไดอารี่ของเขา โดยเรื่องราวสุดประหลาดของเขาเริ่มขึ้นในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ปี 1669 เขาและครอบครัวได้ออกเดินทางไปที่เมืองเมืองหนึ่งเพื่อฉลองวันเกิดครอบรอบ 36 ปีของเขา เขาได้พาครอบครัวไปที่หลุมศพที่แสนจะปราณีตอีกทั้งยังมีคนอื่นๆ อยู่ด้วย พวกเขาได้เห็นศพพระราชินี แคทเธอรีน แห่ง วาโลอีส และเขาก็ได้อุ้มศพส่วนบนของพระนางขึ้นมาแล้วทำการจุมพิตไปที่ศพของพระองค์ ซึ่งพระองค์ได้สิ้นพระชนม์มานานกว่า 230 ปี ก่อนที่ฉากโรแมนติกของ แซมมัวร์ ป๊อปปี้ จะเริ่มขึ้น!!

...หุ่นยนต์ทดสอบการชน...

หากเกิดในปี 1980 อาจจะเคยได้ยินเรื่องราวประหลาดเกี่ยวกับ วินส์ และ แลนลี่ เกี่ยวกับหุ่นยนต์ ทดสอบการชน แต่ความจริงการใช้หุ่นไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก เนื่องจากการทดสอบการชนที่ได้ผลจริงจะดูออกได้ก็ต่อเมื่อเกิดกับร่างกายของมนุษย์จริงๆ งานวิจัยโดยใช้ศพเริ่มต้นทำมาหลายทศวรรตแล้ว ซึ่งถึงแม้ว่าบริษัทผลิตยางรถยนต์จะพยายามมองข้ามปัญหาเหล่านี้ไป แต่การทดสอบการชนโดยใช้ศพของมนุษย์อยู่ทุกปี

ความปลอยภัยเกี่ยวกับเข็มขัดและกระจกนิรภัยนั้นจะถูกทดสอบกับศพก่อน และจะมีการผ่าชันสูตรศพดูว่าเนื้อของมนุษย์จะเป็นอย่างไรเมื่อเกิดอุบัติเหตุ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันการทดลองได้เปลี่ยนมาใช้แบบจำลองทางคอมพิวเตอร์กันหมด แล้ว

ที่มา : boxza.com