เกิดเป็น "เจ้าเหนือหัวคน”เพราะสะสมบุญบารมี
แต่กลายเป็น "เจ้าในหัวใจคน" เพราะสั่งสมคุณความดี
ไม่ว่าใครจะเอ่ยประโยคนี้ แต่เชื่อว่าพสกนิกรชาวไทยคงเห็นพ้องต้องกัน เมื่อนึกถึงพระพักตร์ของเจ้านายพระองค์หนึ่ง ผู้ทรงมีพระอิริยาบถที่ดูผ่อนคลายราวกับมีความสุข และสำราญพระทัยในสิ่งที่ทรงทำอยู่ตลอดเวลา จนอาจกล่าวได้ว่า พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างของ "ผู้ที่มีความสุขจากภายในอย่างแท้จริง" อย่าง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
และด้วยวันที่ ๒ เมษายน นี้ ถือเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทีมข่าว Feel Good จึงขออัญเชิญพระฉายาลักษณ์ของพระองค์ท่านที่เปี่ยมด้วยความเรียบง่าย ไม่ถือพระองค์ ปฏิบัติพระองค์อย่างสามัญชนในพื้นที่สาธารณะ ภายใต้เรื่องราวสุดแสนประทับใจที่ใครหลายคนอาจยังไม่เคยได้ยินมาจากที่ไหนๆ มาถ่ายทอดด้วยผ่าน 4 เรื่องราวเกี่ยวกับพระองค์ เพื่อเป็นกระแสพลังงานที่ดีให้แก่ชาวไทยทั้งประเทศ
เจ้าฟ้าเดินห้างสรรพสินค้า
อาจฟังดูเหลือเชื่อ แต่เคยเกิดขึ้นแล้วจริงๆ ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระดำเนินในห้างสรรพสินค้าโดยไม่มีราชองครักษ์ เพราะเมื่อไม่นานมานี้ชาวเน็ตต่างโพสต์เล่าความประทับใจ ครั้นเมื่อได้เห็น สมเด็จพระเทพฯ ปฏิบัติพระองค์เรียบง่าย ไม่ถือพระองค์อย่างสามัญชน โดยเสด็จพระดำเนินอยู่ริมถนนจากวังสระปทุมไปยังห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน โดยไม่มีพรม ไม่มีการปิดถนน สร้างความปลื้มปีติต่อผู้พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง
ใบปริญญาจากผู้ให้ผู้ยิ่งใหญ่
ครั้นเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2557 ที่ผ่านมา เรื่องราวสุดแสนประทับใจก็เกิดขึ้นกับมหาวิทยาลัยทักษิณอีกครั้ง เมื่อสมเด็จพระเทพฯทรงเรียกโดยตรัสว่า “มารับใหม่มาลูก” และกวักพระหัตถ์พร้อมด้วยรอยยิ้ม ให้บัณฑิตคนหนึ่ง เดินกลับมารับพระราชทานใบปริญญาบัตรใหม่อีกครั้ง หลังจากที่บัณฑิตคนนั้นทำใบปริญญาบัตรตกลงบนพื้นในขณะที่พระองค์กำลังพระราชทานให้ ทั้งนี้ด้วยพระองค์ไม่สบายพระทัย เกรงว่า บัณฑิตคนนั้นจะไม่ได้รูปที่ดีในวันรับปริญญา
ทว่า พระกรุณาอันสูงส่งของพระองค์ที่มอบให้แก่บัณฑิตทั้งหลาย ยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะเมื่อวันที่ 9 มี.ค.2556 สังคมโซเชียลเน็ตเวิร์ก ก็เคยแชร์และส่งต่อคลิปวิดีโอในหัวข้อ "ดูแล้วน้ำตาไหล ทรงพระเจริญ" ความยาว 27 วินาทีอีกด้วย โดยเนื้อหาในคลิปเป็นส่วนหนึ่งของพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง รุ่นที่ 38 ที่สมเด็จพระเทพฯ ทรงกำลังพระราชทานปริญญาบัตรแก่ น.ส.อภิรดี โปร่งใจ หรือน้องน้อย สาวสมองพิการ กล้ามเนื้ออ่อนแรง ที่มีอุปสรรคต่อการเดินเหินและการเคลื่อนไหวของมือ ต้องนั่งรถวีลแชร์เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรในครั้งนี้
และเมื่อพระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็นว่า น.ส.อภิรดี ไม่สามารถยืนขึ้นมารับพระราชทานใบปริญญาได้ พระองค์จึงทรงโน้มพระวรกายลงมาจากพระที่นั่ง และยื่นพระหัตถ์พระราชทานปริญญาบัตรถึงมือบัณฑิตสาวที่พิการโดยไม่ถือพระองค์แม้แต่น้อย ซึ่งวินาทีนั้นหลายๆ คนน้ำตาไหลออกมา เพราะเห็นแลถึงพระเมตตาที่สมเด็จพระเทพฯ มีต่อพสกนิกรชาวไทย
สมเด็จพระเทพกับแม่ค้าร้านก๋วยเตี๋ยว
“ทรงเสวยก๋วยเตี๋ยวในร้านเล็กๆ ริมทาง” นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในวันหนึ่งของเดือนมิถุนายน ปี 2553 ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีได้เสด็จฯ เป็นการส่วนพระองค์ไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูโบราณ นายทองสุข ตรงข้ามวัดศาลเจ้า อ.เมือง จ.ปทุมธานี และในการเสด็จไปครั้งนั้น เป็นเสด็จไปแบบมิได้มีการแจ้งไว้ล่วงหน้า ในร้านจึงมีเพียงเก้าอี้พลาสติก โต๊ะเหล็ก ถ้วยชามธรรมดา ไม่มีอะไรพิเศษอันเป็นที่เหมาะสมต่อผู้เป็นเจ้าฟ้าเลย
ทว่า ท่ามกลางความตื่นตกใจผู้คนในละแวกนั้นที่พากันก้มลงคลุกเข่าลงกราบ พระองค์กลับทรงยิ้ม และรับสั่งให้ทุกคนปฏิบัติตนตามปกติ พร้อมทั้งยังทรงสั่ง และเสวยก๋วยเตี๋ยวหมูโบราณอย่างสามัญชน สร้างความอัศจรรย์ใจต่อผู้เห็นเหตุการณ์อย่างยากจะบรรยายยิ่ง
เจ้าฟ้าบนรถไฟใต้ดิน “เรื่องไม่น่าเชื่อแต่เป็นจริง”
“ผมเจอ "พระเทพ" บนรถไฟฟ้าใต้ดิน” รูปถ่ายแนบเรื่องราวสั้นๆ บทหนึ่ง สร้างความประหลาดใจแก่คนไทยทั้งประเทศ จนถูกส่งต่อในโลกออนไลน์นับแสนเพียงช่วงข้ามคืน เมื่อชายคนหนึ่ง มีโอกาสพบกับสมเด็จพระเทพฯ ในพื้นที่ที่ไม่น่าเชื่อว่าพระองค์จะเสด็จ อย่าง สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) โดยมีใจความว่า
เมื่อไม่นานมานี้เองครับ มีโอกาสขึ้น กทม. ไปธุระแถวหัวลำโพง นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไป ในขณะที่ประตูสถานีสุทธิสารเปิด ก็มีหญิงคนหนึ่งสวมแว่น ใส่หมวกแก๊ป ท่าทางคล่องแคล่ว เดินเข้ามายืนตรงหน้าผม ผมก็ลุกให้ เพราะติดนิสัยจากเด็กต่างจังหวัด ประกอบกับนั่งใกล้สุด หญิงคนนั้นนั่งลงแล้วถามว่า "ช่วยถือของให้มั้ยค่ะ"
พอดีผมบ้าหอบฟางอยู่ กระเป๋า 2-3 ใบ เลยยื่นกระเป๋ากล้อง+เลนไปให้
แต่มีชายคนนึงชิงไปถือก่อน ผมก็หันไปมอง เขาก็ยิ้มๆ ขำๆ ผมก็งงๆ เข้าใจว่าเป็นน้องชายหรืออะไรประมาณนั้น พอหันหน้ากลับมาดูที่ผู้หญิง โอ เข่าอ่อนเลย เพราะเพ่งมองกี่ครั้งก็ใช่สมเด็จพระเทพฯ พระองค์กำลังเอานิ้วชี้มาจรดที่ปาก พร้อมทำเสียง "จุ๊ ๆ ทำเฉยๆ ไว้ อย่ากระโตกกระตาก"
ผมก็เลยเข่าอ่อน หัวใจตกลงไปที่ตาตุ่ม ดีที่พี่ผู้ชาย (เข้าใจว่าทหารรักษาพระองค์) สะกิด กับรั้งตัวไว้ทันก่อนผมจะลงไปกราบ แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปร่วมกับพระองค์ ก็เข้าใจเอาเองว่า พระองค์ท่านคงอยากมีความส่วนพระองค์ ถ้าผมถ่ายคนหนึ่งอีกทั้งขบวนต้องมาถ่ายด้วยแน่
นับได้ว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้า ล้นกระหม่อมของผมทีเดียว ที่ได้เฝ้าพระองค์ท่านใกล้ชิดขนาดนี้ เรื่องดีๆ นำมาเล่าสู่กันฟังครับ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ”
และ 4 เหตุการณ์นี้อาจเป็นเพียงเศษเสี้ยวของเรื่องราวสุดแสนประทับใจที่ยังมีอีกนับไม่ถ้วน ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เจ้านายผู้เป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทยมากที่สุดพระองค์หนึ่ง ได้
ทรงแสดงให้เห็นแล้วว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา สมเด็จพระเทพฯ ไม่เพียงแต่ทรงเป็น“ลูกสาวที่แสนดี” เป็น “ครูที่น่ายกย่อง” หรือ“ผู้ที่เพรียบพร้อมในทุกพระอัจฉริยภาพ” หากยังรวมถึง การปฏิบัติพระองค์อย่างสามัญชน เป็นเจ้าฟ้าเดินดิน เจ้าฟ้าแห่งสามัญชนอย่างแท้จริง
สุดท้ายนี้ Feel Good ขอพระองค์ทรงพระเจริญ..... และตราตรึงไว้เป็น "เจ้าหญิงในดวงใจ" ของพวกเราคนไทยตลอดไป... ตลอดกาลนานเทอญ