เจาะลึก!! 7 ภูติ..ผี..ปีศาจที่มีชื่อเสียง..

ในบทความนี้เราจึงนำผีกลับมาอีกครั้ง… โดยเลือกผี ปีศาจต่างๆที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่นมาด้วยถึง 7 ตน… บางตนนั้นก็มีวิถีการดำรงชีพคล้ายๆกับผีของไทย บางตนนั้นก็ดูคล้ายสัตว์ประหลาดเสียมากกว่า หรือบางตนก็เป็นผีท้องถิ่นจริงๆ…

ใครกลัวผีอะไร..เตรียมใจให้พร้อม …แล้วไปทำความรู้จักพร้อมกันเลย!!!

 

การาสุเทนงู (Tengu : 天狗)

 เป็นความเชื่อของเรื่องนกสามขาที่มีอยู่ทั้งในแถบประเทศญี่ปุ่นและเกาหลี โดยทางญี่ปุ่นเชื่อว่าการาสุเทนงูนั่นมีภาพลักษณ์เป็นปีศาจร้ายและมักจะสร้างพายุเข้าโจมตีผู้คนอยู่บ่อยๆ เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ถูกพายุเข้าถล่มบ่อยครั้ง การาสุเทนงูเป็นข้ารับใช้ของไดเทนงู แต่ก็มีบางคนเชื่อว่าการาสุเทนงูไม่ได้เป็นปีศาจร้าย แต่กลับเป็นปีศาจที่รักสงบและสุภาพ แต่การกระทำร้ายๆที่แสดงออกมานั้นเป็นเพราะต้องทำตามคำสั่งของไดเทนงู

ว่ากันว่าการาสุเทนงูนั้นมีแต่เพศผู้ อาศัยอยู่ในป่าลึก มีนิสัยและพฤติกรรมที่คาดเดาได้ยาก บางครั้งก็จะลักพาตัวเด็กๆไปทิ้งไว้ในป่าแล้วเฝ้ามองเด็กที่หลงทางอยู่ในป่า แต่บางคนก็เล่าว่าเมื่อใดที่หลงป่าแล้วร้องขอให้การาสุเทนงูช่วย มันจะนำทางออกจากป่าให้ได้

การาสุเทนงูสามารถเรียกพายุได้ เชี่ยวชาญด้านมนต์มายาและวิชาแปลงกาย มีพละกำลังมากและยังเก่งด้านการรบ ลักษณะของการาสุเทนงูจะคล้ายกับมนุษย์นก ซึ่งมักไปไหนมาไหนด้วยการบิน การาสุเทนงูชอบและชื่นชมผู้กล้าที่กล้าต่อกรกับผู้นำทรราชย์ โดยจะทำการช่วยเหลือเหล่าผู้กล้า จึงมีคนเชื่อว่าการที่การาสุเทนงูมีชื่อเสียงทางด้านลบนั้น เป็นเพราะเหล่าผู้นำทรราชย์ที่สูญเสียอำนาจใส่ความการาสุเทนงู ในยุคปัจจุบันยังมีคนไม่น้อยที่นับถือการาสุเทนงู และเรียกว่า “เทพพยาบาท” เมื่อใดที่มีคนหลงในอำนาจหรือผิดคำสาบาน การาสุเทนงูจะออกมาแล้วทำลายผู้นั้น

 

กัปปะ (Kappa : 河童)

เป็นปีศาจจำพวกพรายน้ำมีรูปร่างหน้าตาคล้ายกบตัวสีเขียวมีกระดองเต่าอยู่ข้างหลังเท้ามีพังผืดจมูกแหลมและมีหัวที่แบนคล้ายจาน ไว้กักเก็บน้ำซึ่งจะทำให้กัปปะมีพลังพิเศษ แต่ถ้าสูญเสียน้ำไปกัปปะจะอ่อนแรงลงอย่างมาก ถึงขนาดที่ไม่สามารถขยับตัวได้เลย เป็นปีศาจที่อาศัยอยู่ตามหนองน้ำหรือแหล่งน้ำต่างๆ ว่ากันว่าอาหารที่กัปปะชอบคือ “แตงกวา” แม้ว่าจะมีรูปร่างพอๆกับเด็ก แต่ก็เป็นปีศาจที่เอาชนะได้ยากตนหนึ่งเลยทีเดียว วิธีการเอาชนะก็คือเมื่อเจอกับกัปปะให้ก้มคาราวะ เมื่อกัปปะคาราวะตอบน้ำบนหัวจะหกทำให้หมดฤทธิ์ อีกวิธีคือการเขียนชื่อตัวเองลงไปในแตงกวาแล้วขว้างลงไปในแม่น้ำ เมื่อกัปปะมาเจอแตงกวานี้ก็จะกินอย่างเอร็ดอร่อยและจดจำชื่อที่อยู่บนแตงกวาด้วย ในคราวหน้าถ้าบังเอิญต้องเจอเจ้าของชื่อนั้น กัปปะก็จะไม่ทำอันตรายอะไร

กัปปะนั้นก็มีความอันตรายเช่นเดียวกับปีศาจร้ายอื่นๆเช่นกัน มีเรื่องเล่าว่ากัปปะเคยหลอกล่อให้คนตกลงไปในน้ำ หรือมักจะลากม้าและเด็กๆลงแม่น้ำจนจมน้ำตาย แต่ถ้าหากถูกชาวประมงจับได้มันจะปล่อยตดออกมาป้องกันตัว นอกจากนี้กัปปะจะคอยแอบอยู่ในส้วมเมื่อคนเผลอมันจะแกล้งใช้นิ้วสวนทวาร แต่กัปปะก็มีความสุภาพอ่อนน้อมและมีสัมมาคาราวะมาก เป็นพรายที่มีความคิดความรู้สึกผิด มันจะขอโทษโดยการจับปลามาให้ที่หน้าประตูบ้านทุกวันหรือไม่ก็มอบยาสมุนไพรชั้นเลิศที่มันปรุงขึ้นมาให้ เนื่องจากกัปปะมีความเชี่ยวชาญด้านการปรุงยาลี้ลับเป็นอย่างมาก

 

คาไมทาจิ (Kamaitachi : 鎌鼬) 

 

เป็นภูตลมในตำนานความเชื่อของญี่ปุ่นเคลื่อนไหวได้รวดเร็วเหมือนสายลม ความเชื่อนี้มาจากในสมัยโบราณนั้นมีผู้คนที่ถูกลมที่พัดแรงขึ้นอย่างกระทันหันชนเข้าที่ตัวจนทำให้เกิดแผลขึ้น คนโบราณเชื่อว่าแผลที่เกิดขึ้นจากลมนั้นเป็นเพราะตัววีเซิลที่อาศัยอยู่ในลมหมุนทำนั่นเอง… เรื่องเล่าเกี่ยวกับคาไมทาจิมีอยู่ว่าผู้คนที่ขึ้นไปบนภูเขาบางครั้งจะพบกับลมหมุน เมื่อลมหมุนผ่านไปเขาก็จะพบว่าตัวเองมีบาดแผลแต่ไม่รู้สึกเจ็บซึ่งแผลนี้เกิดจากการกระทำของพวกมัน คาไมทาจิที่อาศัยอยู่ในลมหมุนนั้นมีด้วยกัน 3 ตัว และมีพฤติกรรม คือ ตัวแรกจะชนเหยื่อให้ล้ม ตัวที่สองจะฟันเหยื่อให้เป็นแผล ส่วนตัวที่สุดท้ายจะทายาเพื่อห้ามเลือดและระงับอาการเจ็บปวดให้เหยื่อ แต่การจู่โจมบางครั้งก็สร้างบาดแผลร้ายแรงและเจ็บปวดกว่าที่ยาของมันจะรักษาได้

คาไมทาจิจัดว่าเป็นตัวอันตรายต่อมนุษย์ เพราะมีบางตำนานเล่าว่าผู้ที่พบปรากฎการณ์คาไมทาจินั้น บางครั้งไม่ได้ถูกฟันครั้งเดียว แต่จะถูกฟันแล้วทายาแล้วถูกฟันซ้ำๆอีก ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก

 

ปีศาจจิ้งจอก (Kitsune : 狐) 

ตามความเชื่อนั้นปีศาจจิ้งจอก คือจิ้งจอกที่มีพลังเวทย์ แบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ พวกที่เป็นข้ารับใช้ของเทพอินาริ (เทพแห่งการเพาะปลูก) และพวกที่เป็นปีศาจร้าย ปีศาจจิ้งจอกมีความเชี่ยวชาญในด้านมนต์มายาและวิชาแปลงกาย ว่ากันว่าสุนัขจิ้งจอกที่มีอายุยืนและมีตบะแก่กล้ามากพอ สามารถกลายเป็นปีศาจจิ้งจอกได้ และเมื่อปีศาจจิ้งจอกอยู่จนครบ 100 ปี จะมีหางเพิ่มขึ้นมาหนึ่งหางและมีพลังแข็งแกร่งขึ้น ถ้าหากหางของมันงอกขึ้นจนครบเก้าหางเมื่อไหร่ละก็จะมีพลังมหาศาลและฉลาดมีไหวพริบอย่างมาก

ปีศาจจิ้งจอกนั้นมีสังคมคล้ายคลึงกับมนุษย์ ทั้งสวมใส่เสื้อผ้าและยืนสองขา บางครั้งก็เข้ามาปะปนอยู่กับคนธรรมดา เพราะสามารถแปลงกายได้แนบเนียนจนคนธรรมดาจับไม่ได้ ปีศาจจิ้งจอกตนใดถูกมนุษย์จับได้ก็จะถูกลงโทษอย่างหนักจากสังคมปีศาจจิ้งจอก การที่ปีศาจจิ้งจอกจะสำเร็จวิชาแปลงกายนั้นสามารทำได้หลากหลายวิธี ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการใช้กะโหลกมนุษย์ แต่บางตนก็ไม่ได้ระวังอาจเหลือหลักฐานบางอย่าง อย่างเช่นลืมแปลงกายอวัยวะบางส่วนที่อยู่ใต้เสื้อผ้าได้ มนต์มายาของปีศาจจิ้งจอกลึกล้ำมาก ถึงแม้ว่ามนุษย์จะรู้ว่าตนเองต้องมนต์ของปีศาจจิ้งจอกแล้ว ก็ไม่สามารถขัดขืนได้

 

ยูกิอนนะ (Yukionna : 雪女) 

เป็นชื่อที่ใช้เรียกภูตหิมะที่มีรูปร่างเป็นหญิงสาวที่งดงามสวมชุดกิโมโนสีขาวสะอาด ว่ากันว่าเป็นจิตวิญญาณแห่งฤดูหนาว นางมักจะปรากฏตัวบนภูเขาหิมะในวันที่มีพายุหิมะและหลอกล่อให้ผู้ชายที่หลงไหลในความงามของนางไปสู่ความตาย เรื่องเล่าของยูกิอนนะนั้นมีหลายหลาก บางครั้งเล่ากันว่าในวันที่หิมะตกหนัก นักเดินทางที่โชคไม่ดีจะได้พบกับสาวหิมะท่ามกลางพายุหิมะที่อันตราย เธอจะสวมกิโมโนสีขาวและค่อนข้างตัวสูง บ้างก็เล่าว่าเธอสวมกิโมโนสีแดงแล้วรอยเท้าที่เดินก็เต็มไปด้วยคราบเลือด

ส่วนใหญ่แล้วเรื่องเล่าของยูกิอนนะนั้นจะปรากฏในทางตอนเหนือของเกาะญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นทางแถบฮอกไกโดหรือแถบจังหวัดอิวาเตะ เนื่องจากทางตอนเหนือของญี่ปุ่นจะมีอากาศหนาวเย็นและมีหิมะปกคลุมอยู่เกือบตลอดทั้งปี จึงมีเรื่องเล่าขานของนางมากกว่าท้องที่อื่นๆ

 

โรคุโรคุบิ (Rokurokubi : ろくろ首) 

หรือสาวคอยาว เป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับมนุษย์ที่ยังมีชีวิตอยู่แต่ต้องคำสาป เมื่อตกกลางคืนจะยืดคอออกไปได้ยาวมากและเป็นเฉพาะในผู้หญิง โรคุโรคุบิจะใช้ลิ้นเลียเพื่อดับไฟตะเกียงและดูดพลังของเหยื่อที่เป็นทั้งคนและสัตว์ โดยปกติแล้วโรคุโรคุบิมักจะแฝงตัวอยู่กับคนธรรมดา แต่ต้องทุกข์ทรมานกับการที่จะพยายามซ่อนร่างจริงของตัวเอง ถึงแม้ว่าโรคุโรคุบิจะพยายามปิดบังร่างจริงสักเท่าไหร่ แต่ด้วยความที่เป็นผีทำให้มีความรู้สึกที่อยากจะยืดคอยาวๆออกมาเสมอ

โรคุโรคุบินั้นไม่ได้มีนิสัยชอบหลอกคนอื่นๆเหมือนปีศาจทั่วๆไป เพราะยังมีความเป็นมนุษย์อยู่ ทั้งยังคิดว่าตัวเองสามารถใช้ชีวิตอย่างมนุษย์ปกติได้ บางครั้งอาการคอยาวจึงออกมาตอนหลับเท่านั้น เมื่อตื่นขึ้นมาก็รู้สึกว่าตัวเองปวดคอและฝันเห็นสถานที่ต่างๆในมุมมองที่แปลกๆเสมอ

 

นปเประโบ (Nopperabou : のっぺらぼう)

 เป็นผีที่มีแต่หน้าเกลี้ยงๆ คล้ายไข่ซึ่งแม้แต่ตา จมูก ปากก็ไม่มีปรากฎบนใบหน้าเลย นปเประโบมักเที่ยวหลอกหลอนคนผ่านทางในเวลากลางคืน

ตามตำนานเล่าว่าเนินทางแห่งหนึ่งในจังหวัดอิวาเตะในเวลากลางดึก ได้มีชายคนหนึ่งเดินผ่านบริเวณดังกล่าวเพื่อที่จะเข้าไปในเมือง ระหว่างทางก็พบหญิงสาวสวมชุดกิโมโนคนหนึ่งกำลังนั่งร้องไห้และทำท่าจะกระโดดลงแม่น้ำเพื่อฆ่าตัวตาย ชายคนดังกล่าวจึงพยายามเข้าไปปลอบใจ แต่กลับพบว่าใบหน้าของเธอนั้นเกลี้ยงเหมือนไข่ปลอก ด้วยความตกใจจึงพยายามวิ่งหนีไปหลบในร้านราเมงแห่งหนึ่ง เจ้าของร้านได้ถามว่าไปเจออะไรมา เขาตอบว่าเจอผีไม่มีหน้า เจ้าของร้านจึงถามว่า “ลักษณะเป็นแบบนี้ใช่ไหม?” และใช้มือลูบหน้าจนหน้าหายกลายเป็นผีไม่มีหน้าอีกตน ชายคนนั้นจึงตกใจและวิ่งหนีออกไปจากร้าน

เรื่องราวที่เกี่ยวกับผีไม่มีหน้านั้น มักจะเป็นผีที่มาหลอกคนที่เดินทางในเวลากลางคืน…

 

 

สาวปากฉีก (Kuchisakeonna : 口裂け女)

เป็นผีที่มีชื่อเสียงอีกตนหนึ่งของญี่ปุ่น มีลักษณะเป็นผู้หญิงที่มีปากฉีกถึงใบหู เธอมีความเร็วสูง และมีมนต์มายาพอตัว เกลียดคนพูดโกหกและคนที่กลัวเธอ ซึ่งผีตนนี้มีเรื่องเล่ามายมากตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน…….

ตำนานสาวปากฉีกในสมัยเฮอันเล่าว่า มีหญิงสาวคนหนึ่งหน้าตางดงามมากเป็นภรรยาของซามูไรที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง แต่โชคร้ายซามูไรสามีของเธอสงสัยว่าเธอแอบคบชู้ ด้วยความหึงหวงจึงใช้ดาบคาตานะตัดปากของเธอจนฉีกถึงใบหูเพื่อทำลายความงามให้เธอเสียโฉม พร้อมทั้งยังถากถางว่าหน้าตาแบบนี้แล้วจะมีใครรัก!!!

เมื่อสาวปากฉีกตายไปจึงเป็นวิญาณที่อาฆาตพยาบาท และมักปรากฎตัวตามริมถนนในวันที่หมอกลงช่วงเย็นถึงค่ำโดยสวมผ้าปิดปากที่ฉีกไว้ พอมีคนผ่านมาก็จะเข้าไปถามว่า “ฉันสวยไหม” ถ้าตอบกลับไปว่า “สวย” สาวปากฉีกจะถอดผ้าปิดปากออกแล้วถามอีกครั้งว่า “แล้วแบบนี้หล่ะ” เมื่อเหยื่อเห็นปากที่ฉีกแล้วตกใจพยายามวิ่งหนี สาวปากฉีกก็จะวิ่งไล่ตามจนทันทุกครั้งและทำการตัดปากเหยื่อให้ฉีกเหมือนของเธอ …..เชื่อกันว่า ถ้าโดนสาวปากฉีกวิ่งไล่ให้โยนขนมหวานลงไปที่พื้นเพื่อให้เธอเก็บ จะทำให้เธอตามมาช้าขึ้น

นอกจากนี้ หากตอบไปว่า “ไม่สวย” สาวปากฉีกจะวิ่งไล่และเล่นงานเช่นกัน วิธีการตอบให้รอดพ้นต้องตอบว่า “ก็ปกติดี” ซึ่งจะทำให้สาวปากฉีกจะพอใจไม่ทำร้ายและจะเดินจากไปแต่โดยดี

 

 

ผีชื่อดังของญี่ปุ่นนั้นไม่ได้มีเพียง 7 ตนด้านบนเท่านั้น… แต่ยังมีอีกมาก ทั้งที่เป็นผีท้องถิ่น หรือผีประจำชาติ

สำหรับคนที่สนใจเรื่องพวกนี้ ต้องอดทนรออีกสักหน่อย.. ถ้าผลตอบรับบทความผีๆดี ทาง anngle อาจจะนำซีรีส์ผีอื่นๆมาเขียนต่อก็เป็นได้…

Credit: http://anngle.org/th/j-culture/culture/obake2.html
1 เม.ย. 58 เวลา 13:59 4,447
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...