ปลากะพงทอดน้ำปลา จากร้าน “โกดังทะเล”
ไม่ว่าจะค่ำมืดดึกดื่นขนาดไหน คนกรุงฯ ก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยว แหล่งของกินกระจายอยู่ทั่วกรุงเทพฯ “กินตามย่าน” คราวนี้ ก็ขอเอาใจสาวกนักกิน พาไปตะลุยกินตอนกลางคืนกันที่ “เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟรอนท์” (ASIATIQUE The Riverfront) แหล่งกิน ชอป สุดชิคบนนถนนเจริญกรุง ที่ตั้งอยู่ติดกับริมแม่น้ำเจ้าพระยา
“เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟรอนท์” (ASIATIQUE The Riverfront)
คราวนี้เราเลือกนั่งเรือมาลงยังท่าเรือเอเชียทีคฯ จากสะพานตากสินจะมีเรือของเอเชียทีครับส่งฟรี มาถึงท่าเรือเอเชียทีคเลย เมื่อลงมาแล้วจะเห็นทางเดินชมวิวติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา จากจุดนี้เมื่อมองเข้าไปจะเป็นโกดังต่างๆ ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านอาหาร และร้านค้ามากมายทีเดียว มาถึงเอเชียทีคทั้งทีเดินเล่นกินลมชมวิวกันพอหอมปากหอมคอ พอตกเย็นได้เวลาท้องก็เกิดอาการหิวขึ้นมาทันที
บรรยากาศห้องส่วนตัวชวนนั่งสบายๆ ที่ร้าน “โกดังทะเล”
ร้านแรกที่เราเลือกเข้ามาลองลิ้มมีชื่อว่า “โกดังทะเล” ร้านนี้เป็นร้านอาหารทะเลที่มีจุดเด่นอยู่ที่ความสดใหม่ของอาหาร เนื่องจากที่ร้านมีฟาร์มที่เลี้ยงอาหารทะเลสดๆ เป็นของตัวเองอยู่ที่แม่กลอง ซีฟูดสดๆ จะถูกส่งตรงจากมหาชัยมาที่ร้านทุกวัน แถมยังมีตู้พักเลี้ยงอาหารทะเลเหล่านี้ให้ได้เห็นกันด้วย เรียกว่าไม่ต้องกลัวว่าจะไม่สด เพราะโชว์ความสดให้เห็นกันเต็มตา
ปูผัดผงกะหรี่
อาหารทะเลของที่ร้านนี้ จะนำมาปรุงเป็นเมนูจานเด็ดสไตล์ไทยๆ เน้นรสชาติอาหารที่มีความจัดจ้านถูกปากนักกินชาวไทยมีเมนูให้ได้เลือกสั่งกินกันเป็น 100 เมนูเลยทีเดียว โดยเมนูจานเด่นที่เราเลือกสั่งมาลองลิ้มกันก็คือ “ปลากะพงทอดน้ำปลา” สำหรับจานนี้เรียกได้ว่าเป็นเมนูขายดีชูโรงของทางร้าน ที่ลูกค้าแทบทุกโต๊ะต้องสั่งมากินกัน เพราะทางร้านมีฟาร์มเลี้ยงปลากะพงเอง ทำให้ได้ปลากะพงที่สด ปลากะพงสด ทอดในน้ำมันร้อนๆ จนเหลืองกรอบ เสิร์ฟมากับน้ำปลาสูตรพิเศษที่ทางร้านปรุงขึ้นมาโดยเฉพาะ เนื้อปลาแน่นๆ เนื้อฟูกรอบนอกนุ่มใน พอราดน้ำปลาลงไปยิ่งชูรสทำให้เนื้อปลามีความหอมออกเค็มนิดๆ กินคู่กับยำมะม่วงรสแซบอร่อยอย่าบอกใครเชียว
บรรยากาศภายในร้าน CHECKMATE ตกแต่งอย่างมีสไตล์
หากใครที่มองหาร้านนั่งชิลๆ กินมื้อค่ำไปด้วยฟังเพลงไปด้วย ก็ขอแนะนำให้ไปกันที่ร้าน “CHECKMATE” (เช็คเมท) เป็นร้านอาหารสไตล์บาร์แอนด์บริสโทรที่สามารถนั่งกันได้ชิลๆ ยามค่ำคืน สำหรับร้านนี้เป็นร้านอาหารไทยแนวฟิวชั่น ที่ทางร้านคิดเมนูขึ้นมาเป็นสูตรพิเศษเฉพาะ ที่นำเอาอาหารไทยไปผสมผสานกับอาหารชาติอื่นๆ และเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพมาปรุงแต่งเป็นอาหารจานเด็ดที่ชวนลิ้มลองมากมาย
checkmateสลัด
โดยเราเลือกสั่งเมนูเบาๆ กินง่าย ชื่อว่า “Checkmateสลัด” ทางร้านใช้ผักไฮโดรโปนิกส์สดๆ หลายชนิด แตงกวาญี่ปุ่น และหัวหอม ราดด้วยน้ำสลัดญี่ปุ่นน้ำมันงาที่ปรุงรสชาติให้เข้มข้นขึ้นใส่พริกขี้หนูและพริกไทย และก็ยังมีปลาทูน่าเกรดเอจากญี่ปุ่นเอาไปนาบบนกระทะให้แค่ขอบพอสุกแต่เนื้อข้างในยังสดอยู่ ชิมสลัดผัดสดกรอบได้รสชาติสลัดน้ำมันงาญี่ปุ่นหอมๆ ออกรสเผ็ดนิดๆ กินเข้ากับเนื้อปลาทูน่ารสชาติเยี่ยม นั้งฟังเพลงเพลินๆ ได้อารมณ์ผ่อนคลายสุดๆ
Strawberry Delight
จากนั้นไปต่อกันที่ร้านของหวานชื่อว่า “สวีทลิปส์” (Sweet Lips) ที่ขายของว่างและเครื่องดื่มจำพวกเครป สโนว์ไอซ์ ไอศกรีม และสมูทตี้ต่างๆ เราเลือกสั่งเมนูน่าตาน่ารักมาชิม ชื่อว่า “Strawberry Delight” เป็นเครปที่ทางร้านผสมแป้งเอง ทำสดใหม่ทุกวัน ด้านบนทาด้วยนูเทลลา แต่งหน้าด้วยวิปปิ้งครีมสด สตรอว์เบอร์รี่ลูกโต และคัสตาร์ดเด้งดึ๋ง ชิมเนื้อเครปนุ่มๆ วิปปิ้งครีมหอมมัน มีความเปรี้ยวของสตรอว์เบอร์รี่เล็กน้อย และคัสตาร์ดหวานนุ่ม แต่ถ้าชอบเย็นๆ ต้องเป็น Strawberry Delight + Ice cream ก็สามารถเลือกรสชาติไอศกรีมได้ตามชอบใจกันเลย
ร้าน “Thai Thai (Fruit Soda)”
น้ำรูทเบียร์เย็นสดชื่น
จากนั้นไปต่อกันที่เครื่องดื่มเย็นๆ ชื่อร้านว่า “Thai Thai (Fruit Soda)” สำหรับร้านนี้จะมีเมนูเครื่องดื่มให้เราได้เลือกกินหลากหลาย ซึ่งเครื่องดื่มก็จะเป็นประเภทน้ำผลไม้ ใส่โซดา มีทั้งน้ำรูทเบียร์ เสาวรส ลิ้นจี่ น้ำเขียว บ๊วย น้ำแดง ฯลฯ ให้เลือกกินกันตามชอบใจ สนนราคาแก้วละ 30 บาทเท่านั้น
หน้าร้าน “happylemon” (แฮปปี้เลมอน)
ชาไข่มุกรสอร่อย
หากใครไม่ชอบกินโซดา เราก็มีร้านชานม หรือชาไข่มุกมาแนะนำกันด้วย ร้านมีชื่อว่า “happylemon” (แฮปปี้เลมอน) เป็นร้านชานมไข่มุกจากฮ่องกง มีเมนูเครื่องดื่มให้เลือกสั่งหลากหลาย โดยเราสั่งชานมไข่มุกมาลองลิ้ม ชานมมีกลิ่นชาหอมๆ หวานมันกำลังดี เม็ดไข่มุกลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆ นิ่มๆ เคี้ยวง่าย ไร้ปัญหาไข่มุกติดคอ
ร้าน “MaMa Monkey”
ขนมกินเล่นแบบกล้วยๆ
ไปปิดท้ายความอร่อยกับเมนูของหวานที่ร้าน “MaMa Monkey” สำหรับร้านนี้เป็นร้านขนมที่ทำจากกล้วย มีเมนูขนมกล้วยๆ ให้เราเลือกสั่งหลายอย่าง ซึ่งเมนูที่เราเลือกสั่งมากินก็เป็นกล้วยหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เรียวยาว นำไปทอดจนกรอบนุ่ม กินคู่กับยช็อคโกแลต อร่อยเข้ากันสุดๆ
เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์
ไม่เพียงเท่านี้ “เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟรอนท์” (ASIATIQUE The Riverfront) ยังมีร้านอาหารให้เราได้เลือกกินกันอีกมากมายหลายร้าน ชนิดที่ว่ามากินทุกวันก็คงกินไม่ครบง่ายๆ หากใครชอบเดินเล่นชิลๆ ตอนกลางคืน “เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟรอนท์” (ASIATIQUE The Riverfront) ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งแฮงก์เอาต์ที่ควรค่าแก่การมาเช็กอิน (check in) (คลิก! อ่านเรื่องเที่ยวเอเชีคทีคฯ)