เรื่องนี้คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง  ที่เติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่ไม่ค่อยจะอบอุ่น และลุ่มหลงไปกับสังคมแสงสีจอมปลอม ทำให้เธอเลือกที่จะสร้างเปลือกนอกให้ดูดีร่ำรวยทัดเทียมคนอื่น แต่สิ่งที่ต้องแลกไปคือ 'ความบริสุทธิ์' แบบชนิดที่มัวเมาจนชีวิตเธอเละ! กว่าที่จะผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ ทั้งร่างกายและจิตใจก็แทบไม่เหลือชิ้นดี วันนี้เธอจึงขอนำเรื่องราวที่ผ่านมามาเปิดเผย เพื่อเตือนใจวัยรุ่น และเด็กสาวทั้งหลายที่กำลังหลงไปสู่วังวน 'โสเภณี'

ภาพจาก bloggang (ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา)

          เรื่อง ที่เราจะเล่านี้ ขออุทิศให้สามี ชายผู้ฉุดดึงเราจากชีวิตที่ยิ่งกว่าเศษดิน จนมาเป็นสิ่งที่เรียกว่ายิ่งกว่าดาว(ในความรู้สึกเรา)

          เราเกิดจากครอบครัวชนชั้นกลาง  แม่เป็นครู แต่พ่อไม่มีอาชีพแน่นอน เราอยู่กับยายตั้งแต่เด็กเราเป็นเด็กร่างเริง แต่อีกด้านนึงก็เป็นเด็กที่ขาดไปเสียทุกสิ่ง โตมาเราเป็นคนหน้าพอใช้ รูปร่างก็ธรรมดาออกอวบๆ เราเริ่มเกเร ตอนที่ยายเราเสีย แล้วพ่อก็มารับเราไปอยู่ด้วย เราขาดเรียนบ่อย ติดแฟน ไม่ไปเรียน อยากทำงาน อยากอยู่กับแฟน อยากมีครอบครัว (อายุ16) แล้วพอไม่มีเงินใช้ ก็เริ่มเข้าวงการ

          ตอนแรกก็แค่แอบทำ ได้เงิน1,500 ก็หมดกับแฟนนั่นล่ะ(แฟนไม่รู้นะ คิดว่าที่บ้านเรามีเงิน เพราะเราชอบหลอกตัวเองว่าเรามี) พอเราเริ่มมีคนมาชอบมากขึ้น เสี่ยน่ะ  เพราะเราเป็นคนที่ไม่มีจริต ไม่มารยา ออกจะซื่อๆ เค้าก็เลยรับเลี้ยงเรา ให้เงินใช้ คราวนี้เราเลยฝันไปไกลว่า เสี่ยเค้ารักเราจริง แต่ไม่นานเค้าก็เบื่อ มีเด็กใหม่

ภาพจาก thegloss (ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา)

          คราวนี้เราก็ต้องกลับมาทำงานเหมือนเดิม  เมื่อก่อนเราได้เงินมาไม่เคยให้ที่บ้านเลยนะ ใช้เองคนเดียว เที่ยว ใช้ซื้อของแพงๆ เพื่อยกระดับตัวเอง(เด็กเอ้ย โง่สิ้นดี) และต่อมา มาคบเพื่อนรุ่นพี่ คราวนี้ไปกันใหญ่ โดดมาทำเต็มตัว ไปเมืองนอก เข้าขบวนการโสเภณีข้ามชาติ ไปทำงานที่ฮ่องกง ที่สุดของชีวิต เกินจะบรรยาย...

          เราไม่ได้เลือกที่จะไปฮ่องกงหลอกนะคะ  เอเย่นต์เป็นคนเลือก ใจเราอยากไปทางยุโรป เพราะความหวัง ความฝันที่จะมีสามีเป็นฝรั่ง จะได้มีเงิน เลิกเสียที(โง่อีกแล้ว) แต่เอเย่นต์บอกว่าสเป็กเราต้อง ทางอาหรับไม่ก็ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ แต่เรากลัว ใจยังไม่ถึง ขอแค่ใกล้ๆฮ่องกงแล้วกัน ตอนลงเครื่อง เค้าจะมีคนควง แบบว่าเหมือนญาติอ่ะ มารับที่สนามบิน เอาเงินโชว์ว่าเรามาช็อปนะ เงินเพียบ

 ภาพจาก examiner (ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา)

          แล้วโลกแห่งความจริงก็เผยโฉม เอเย่นต์บอกว่าต้องรับแขก 120 คนถึงจะหมดหนี้ เรานี่ร้องไห้ ขาสั่นไปหมดอยากกลับบ้าน เพื่อนรุ่นพี่ที่มากับเรา บางคนขายมานานแล้วยังร้องเลย แล้ว เราเพิ่งเข้าวงการ เจอขนาดนี้ ตายแน่ แต่เอเย่นต์ก็ยังอุตสาห์บอกนะว่าวันนึงก็ได้แล้ว 29-30 คน โอยตาย เค้าให้แขกมีเวลา 20 นาทีต่อครั้ง แต่ละละครั้งจะให้กระดุมแทนรอบแต่ละรอบที่ทำงาน ผู้หญิงที่อยากอวดก็เขย่ากระปุกลูกอมที่ใส่กระดุมไว้ ดังก็องแก็งๆ อวดว่าชั้นได้รอบเยอะ

          วันแรกที่เราทำงาน เรารับแขกไป 12 คนไม่ ผิดค่ะ 12 คนเราเนี้ยระบมไปหมดแต่ก็ต้องทนเพราะมาแล้ว การหนีไม่ได้อยู่ในหัวเลย เพราะถ้าเราหนีพี่ที่มากับเราต้องใช่หนี้แทน ทุกคนเลยต้องสามัคคีกันเป็นกำลังใจให้กัน เราอดทนทำถึง 7 วันได้กระดุมเกือบร้อยเม็ด หนึ่งเม็ดแรกเงินได้ประมาณ 20 ดอลฮ่องกง= 80กว่าบาทสมัยนั้น เราบ้าไปแล้วเหรอเนี่ย

          มีคนเค้าบอกว่าเด็กๆอย่างเราไม่มีใครเค้ามากันหรอก  มีแต่คนที่ไม่มีทางไปแล้ว กว่าเราจะหมดหนี้ไม่ตายก็บ้าเสียก่อน เพราะแขกแต่ละคนมีแต่กรรมกร คนหาเช้ากินค่ำ กละขะ เราร้องไห้ทุกวัน แต่ก็ปลอบใจตัวเองว่าเราก้าวเข้ามาแล้วต้องมีชีวิตกลับบ้านให้ได้ ต้องทำได้ และแล้ววันที่เราหมดหนี้ก็มาถึง 120คน แต่คนที่ 121 เราแทบจะไม่มีเรี่ยวแรงจะเดินเลย

ภาพจาก pasalao.activeboard (ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา)

          แต่ไหนๆก็ไหนๆ  ต่อไปเราจะได้คนละ 80ดอล=300 กว่าบาท เรากัดฟันทน เพื่อไปได้ไม่กลับบ้านมือเปล่า เราทำงานจนถึงวันที่10 อีกหนึ่งวันวีซ่าจะหมด เราต้องไปจ็อบที่มาเก๊าแล้วมาทำต่อได้อีก 14 วัน แต่ตอนนั้นร่างกายเราไม่ไหวแล้ว เราฉี่เป็นเลือด เอเย่นต์เค้าเลยให้เรากลับ

          รู้มั้ยค่ะ เค้าปล่อยเราที่สนามบิน ไม่ติดต่ออะไรให้เราเลย เพราะเค้าบอหว่าเค้าไม่ขายเราต่อก็บุญแค่ไหนแล้ว  แต่ที่เราารู้ทีหลัง เป็นเพราะพี่ๆที่ไปกับเรา เค้าสัญญาว่าจะอยู่ต่อ แต่ขอให้น้องกลับบ้าน เอเย่นต์จึงยอม เราก็มีเลยต้องติดต่อตั๋วเอง รอขึ้นเครื่องเอง อย่างทุลักทุเล แต่สิ่งที่ทำให้เราสะอื้นใจคือ  มีคนไทยมาทักเราว่า มาช็อปปิ้งเที่ยวนี้ ได้อะไรบ้าง พ่อแม่ใจดีจัง อายุแค่นี้ให้ลูกมาช็อปปิ้งถึงเมืองนอก โธ่คุณน้า หนูมาให้คนที่นี้เค้าช็อปต่างหาก

ภาพจาก news.hatyaiok (ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา)

          ซึ่งเรื่องราวชีวิตของเธอต่อจากนี้ ก็เปรียบเสมือนละครชีวิตที่ดิ่งลงเหวไปเรื่อยๆ เพราะเธอกลับมาเลือกทำอาชีพเดิมจน กลายเป็นความชาชิน พบเจอชาวต่างชาติประเภทวิปริต แต่ปรนเปรอด้วย 'เงิน' จนเผอลหลงไหล จนท้ายที่สุดได้พบเจอกับสามีชาวไทยคนปัจจุบัน ที่พร้อมให้โอกาสและดูแลเธอตลดดไป

ขอ เป็นกำลังใจให้กับชึวิตของเด็กสาวคนนี้ด้วยนะคะ ยินดีด้วยที่หลุดพ้นออกมาจากวงจรนั้น และขอให้สาวๆทุกคนอ่านไว้เพื่อเตือนใจ อย่าได้หลงงมงายในวัตถุจนยอมแลกทุกอย่าง แม้กระทั่งศักดิ์ศรีและชีวิต!

ขอบคุณเรื่องราวจาก  คุณ จากโสเภณี.....สู่ชีวิตที่ดี (สมาชิกPantip.com)