ด่านแม่สอด ประตูสู่เมืองเมียวดีของพม่า
“แม่สอด” คืออำเภอชายแดนไทย-พม่าของจังหวัดตากที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองการค้าที่คึกคัก มีลำน้ำเมยแบ่งเขตระหว่างเมืองแม่สอดของไทยและเมืองเมียวดีของประเทศพม่า และยังเป็นเส้นทางเศรษฐกิจตามแนวตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor) ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างพม่า-ไทย-ลาว ผ่านไปถึงเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม อีกด้วย
นอกจากนั้น เมืองแม่สอดยังมีความหลากหลายของเชื้อชาติ ทั้งคนไทย พม่า กะเหรี่ยง มุสลิม ฯลฯ ที่ผสมกลมกลืนกันเป็นอย่างดี รวมถึงมีแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อหลายอย่างที่น่าสนใจ ดึงดูดให้ “ตะลอนเที่ยว” เดินทางมาสัมผัสในเสน่ห์ความงามของแม่สอด ซึ่งนอกจากจะพาซอกแซกเที่ยวแม่สอดกันจนทั่วแล้ว ก็ยังจะพาเที่ยวไปในอำเภอชายแดนที่อยู่ติดกัน โดยมีอำเภอแม่สอดเป็นจุดศูนย์กลาง อันได้แก่อำเภอแม่ระมาด และพบพระ ที่ต่างก็มีแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อไม่ควรพลาดอยู่หลายแห่งด้วยกัน
เจดีย์วิหารสัมพุทเธ ที่วัดมณีไพรสณฑ์
แม่สอด-ริมเมย
ทริปนี้ “ตะลอนเที่ยว” ขอเลือกเที่ยวในตัวเมืองแม่สอดกันก่อน โดยเราเปิดประเดิมเอาฤกษ์เอาชัยกันที่ “วัดมณีไพรสณฑ์” ที่โดดเด่นไปด้วยองค์เจดีย์สีทองอร่ามที่มีลักษณะแปลกตาสวยงาม คือ “เจดีย์วิหารสัมพุทเธ” ซึ่งเป็นเจดีย์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนอาคาร และมีองค์เจดีย์เล็กๆ ล้อมรอบอยู่ถึง 233 องค์ รวมถึงมีพระพุทธรูปบรรจุอยู่ถึง 512,028 องค์
นอกจากนั้นภายในวัดยังมีพระพุทธโคดมบรมศรีเมืองฉอด (หลวงพ่อโต) และโบสถ์เก่าแก่อายุกว่า 200 ปี รวมถึงวิหารหลวงพ่อทันใจทรงเครื่องอันสวยงาม ให้เราได้สักการะและซึมซับในงานพุทธศิลป์แบบพม่าอันสวยงามอีกด้วย
องค์เจดีย์ที่สร้างจำลองมาจากเจดีย์ชเวดากองของพม่าที่วัดชุมพลคีรี
จากนั้นมาต่อกันที่ “วัดชุมพลคีรี” อีกหนึ่งวัดงามคู่เมืองแม่สอด วัดแห่งนี้มีจุดเด่นคือองค์เจดีย์ที่สร้างจำลองมาจากเจดีย์ชเวดากองของพม่า เป็นองค์เจดีย์สีทองสูงประมาณ 20 ม. และมีเจดีย์รายขนาดเล็กทาสีด้วยสีขาวล้อมรอบองค์เจดีย์ทอง 20 องค์
ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
จากไหว้พระเราไปสักการะสมเด็จพระนเรศวรฯ กันต่อยัง “ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามสนามกีฬาเทศบาลแม่สอด ศาลแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่พระองค์ทรงหลั่งทักษิโณทกประกาศอิสรภาพ ณ เมืองแกลง ประเทศเมียนมาร์ โดยเสด็จผ่านด่านแม่ละเมา อ.แม่สอด เป็นแห่งแรก ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ชาวแม่สอดเคารพนับถือกันมาก
บรรยากาศในตลาดนครแม่สอด
ร้านขายดอกไม้ในตลาด
ในย่านใจกลางเมืองแม่สอด ยังมีสถานที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งซึ่งเป็นสีสันและมีชีวิตชีวาไม่น้อยโดยเฉพาะในช่วงเช้า นั่นก็คือ “ตลาดนครแม่สอด” ตลาดสดที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองแม่สอด ซึ่งมีทั้งชาวไทยและพม่ามาจับจ่ายซื้อของ มีทั้งประเภทของสดของแห้ง ทั้งผัก ผลไม้ ปลา เนื้อสัตว์ต่างๆ นอกจากนั้นก็ยังมีของกินของใช้ที่เป็นของพม่า เช่นแป้งทานาคา เสื้อผ้า โสร่ง ดอกไม้สด รวมถึงขนมของกินแบบพม่า
ภายในตลาดริมเมย
สร้อยข้อมือหินสี สินค้ายอดฮิตในขณะนี้ที่ตลาดริมเมย
แต่ถ้านักท่องเที่ยวอยากชอปของฝากของที่ระลึก ต้องมาที่ “ตลาดริมเมย” ตลาดซื้อขายสินค้าชายแดนที่ตั้งอยู่สุดทางหลวงสายตาก-แม่สอด ริมฝั่งแม่น้ำเมย หรือที่ชาวพม่าเรียกแม่น้ำตองยิน อันเป็นเส้นแบ่งพรมแดนของไทยและพม่า และอยู่ติดกับสะพานมิตรภาพไทย-พม่าอีกด้วย
ตลาดแห่งนี้มีสินค้าทั้งของกินของใช้ที่นำเข้ามาจากพม่าและจีน ทั้งเครื่องประทินผิวแบบพม่าเช่นทานาคา ที่มีให้เลือกหลากหลายแบบ ชานมพม่าที่หลายๆ คนติดใจก็หาซื้อได้ที่นี่ รวมถึงงานเฟอร์นิเจอร์ไม้ งานหัตถกรรมแกะสลักไม้ต่างๆ และนอกจากนั้นก็มีพวกอัญมณีเครื่องประดับ เช่น หยก ทับทิม พลอยสีจากพม่า
ช่วงนี้ที่กำลังนิยมสุดๆ ก็ต้องเป็นสร้อยข้อมือหินสีนำโชคที่มีขายกันตามร้านขายเครื่องประดับกันแทบทุกร้าน และมีลูกค้ายืนเลือกซื้อแทบทุกร้านด้วยเช่นกัน ส่วนสนนราคานั้นก็ถูกกว่าร้านในกรุงเทพฯ ไม่น้อยเลยทีเดียว
อุโบสถและองค์เจดีย์ที่วัดไทยวัฒนาราม
บริเวณตลาดริมเมยนี้มีบริการนำเที่ยวไปยังเมืองเมียวดีที่ฝั่งพม่าด้วย แต่หากใครยังอยากเที่ยวแม่สอดอยู่ขอให้ตามมาเที่ยวกันต่อที่ “วัดไทยวัฒนาราม” วัดนิกายมหายานของชาวไทยใหญ่ สถาปัตยกรรมต่างๆ ได้รับอิทธิพลมาจากพม่าและมอญอย่างเห็นได้ชัด
พระไสยาสน์องค์ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ
สิ่งสำคัญในวัดไทยวัฒนารามได้แก่เจดีย์สีทองอร่ามและหงส์คู่สีทองซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชาวมอญที่แสดงถึงความรุ่งเรือง ต้องไม่พลาดไปกราบ “พระมหามุนี” พระพุทธรูปที่จำลองมาจากพระพุทธมหามัยมุนี พระพุทธรูปสำคัญสูงสุดของพม่าที่ประดิษฐานอยู่ที่เมืองมัณฑเลย์ โดยในช่วงสงกรานต์ประมาณวันที่ 18 เม.ย. ของทุกปีก็จะมีพิธีล้างพระพักตร์พระพุทธรูปเหมือนที่เมืองมัณฑะเลย์ทำเป็นประจำทุกวันอีกด้วย
นอกจากนั้นแล้ว บริเวณด้านหลังวัดยังเป็นที่ประดิษฐานพระไสยาสน์ พระพุทธรูปนอนปูนปั้นศิลปะแบบพม่าที่มีขนาดยาวที่สุดของภาคเหนือ โดยมีความยาว 93 ศอก สร้างจำลองมาจากพระนอนที่ใหญ่ที่สุดในโลกในประเทศพม่า เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวเมืองแม่สอด
พระมหามุนีแห่งวัดไทยวัฒนาราม
จักรยานมากมายที่คลัง 9
เมื่อมาเที่ยววัดไทยวัฒนารามแล้ว นักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งมักนิยมแวะเลยเข้าไปชมโกดังจักรยานมือสอง หรือที่รู้จักกันในชื่อ “คลัง 9” ที่อยู่ในเส้นทางเดียวกัน คลัง 9 เป็นโกดังจักรยานมือสองขนาดใหญ่ อยู่ในตำบลท่าสายลวด ไม่ไกลจากตัวเมืองแม่สอดมากนัก ที่คลัง 9 นี้เป็นแหล่งพักจักรยานที่รับซื้อมือสองต่อมาจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อส่งต่อไปขายที่ประเทศพม่า จักรยานที่นี่มีจำนวนนับแสนคัน ส่วนมากเป็นจักรยานแม่บ้านญี่ปุ่นและจักรยานพับที่ถูกขัดล้างซ่อมแซมพ่นสีใหม่ มีนักท่องเที่ยวไปเลือกชมเลือกซื้อและลองขี่จักรยานกันไม่น้อยเลย
ทางขึ้นไปสักการะพระธาตุหินกิ่ว
ในเส้นทางนี้ยังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง นั่นก็คือ “วัดพระธาตุหินกิ่ว” หรือ “วัดพระธาตุหินกิ่วดอยดินจี่” วัดแห่งนี้มีจุดเด่นอยู่ที่องค์เจดีย์สีทองที่ประดิษฐานอยู่บนก้อนหินขนาดใหญ่ในลักษณะเดียวกับพระธาตุอินทร์แขวนที่ประเทศพม่า ก้อนหินบนหน้าผามีฐานคอดกิ่วเหมือนจะขาดออกจากกัน เป็นที่มาของชื่อวัดพระธาตุหินกิ่ว บนก้อนหินมีเจดีย์ทรงมอญสร้างไว้มีขนาดพอดีกับความกว้างของก้อนหิน
องค์พระธาตุหิวกิ่ว ลักษณะคล้ายพระธาตุอินทร์แขวนที่พม่า
รอยพระพุทธบาทที่วัดพระธาตุหินกิ่ว
การจะไปสักการะพระธาตุหินกิ่วนั้นจะต้องเดินขึ้นบันไดกว่า 700 ขั้นขึ้นไปยังชะง่อนหิน และจากองค์พระธาตุจะมีทางเดินต่อให้ไปสักการะรอยพระพุทธบาท ในเส้นทางนี้จะมีเด็กๆ จากในหมู่บ้านมาเสนอตัวเป็นไกด์น้อยนำชมองค์พระธาตุและสิ่งต่างๆ ที่น่าสนใจบนเขา สร้างความเพลิดเพลินในการเดินดีไม่น้อย
อุโบสถวัดโพธิคุณ
แม่สอด-ตาก
หลังจากท่องเที่ยวในตัวเมืองแม่สอดแล้ว เราเปลี่ยนเส้นทางมาชมแหล่งท่องเที่ยวนอกเมืองในโซนถนนทางหลวงหมายเลข 12 ที่จะมุ่งหน้าไป อ.เมือง จ.ตาก กันบ้าง สำหรับเส้นทางสายนี้เป็นเส้นทางขึ้นลงเขาโค้งชัน ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
หน้าบันลายปูนปั้นที่งดงาม
พระพุทธรูปประธานภายในอุโบสถ
โดยเมื่อออกมาจากตัวเมืองตากไม่ไกล ยังไม่ทันถึงช่วงขึ้นเขาลดเลี้ยวเคี้ยวคด ก็มีจุดให้แวะเที่ยวกันที่ “วัดโพธิคุณ” วัดงามในอำเภอแม่สอด ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่เป็นอุโบสถขนาดใหญ่ ภายนอกงดงามด้วยลายปูนปั้นตามซุ้มประตูหน้าต่าง บริเวณฐานอุโบสถมีลักษณะโค้งที่เรียกว่าโค้งท้องสำเภา ส่วนภายในมี 3 ชั้น บนชั้นที่ 3 ซึ่งใช้เป็นโบสถ์ประกอบพิธีทางศาสนานั้นมีพระประธานปางมารวิชัยองค์ใหญ่สีทองประดิษฐานอยู่กลางห้องที่ตกแต่งอย่างประณีต โดยทั้งผนัง เสา และเพดานตกแต่งด้วยลวดลายไทยประเพณีในลักษณะของประติมากรรมนูนต่ำผสมผสานกับการระบายสี ประดับกระจกและปิดทอง
กราบพะวอที่ศาลพะวอ
เลยจากวัดโพธิคุณมาไม่ไกล เป็นจุดที่เรียกว่า “เนินพิศวง” ซึ่งเมื่อนำรถไปจอดไว้ตรงทางขึ้นเนินโดยไม่ได้ติดเครื่อง รถจะไหลขึ้นเนินไปเองได้อย่างน่าอัศจรรย์ เหตุผลที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะภาพที่เราเห็นว่าเป็นเนินนั้นเป็นภาพลวงตา เพราะเมื่อวัดระดับความสูงแล้วกลับกลายเป็นทางลาดลงเนิน โดยเนินพิศวงนี้มีระยะทางราว 300 เมตร ถ้าใครอยากลองก็ต้องสังเกตป้ายระหว่างทางให้ดีๆ
เดินทางกันต่อมาที่ “ศาลพะวอ” เป็นอีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวมักจะแวะเพื่อสักการะวีรชนที่ชาวแม่สอดและชาวเมืองตากเคารพศรัทธา เจ้าพ่อพะวอเดิมเป็นนักรบชาวกะเหรี่ยงในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งทรงแต่งตั้งให้มีศักดิ์ฐานะเป็นนายด่านแม่ละเมา คอยดูแลมิให้ข้าศึกศัตรูข้ามด่านเข้ามารุกราน เมื่อท่านเสียชีวิตลงในสนามรบ ผู้คนจึงสร้างศาลเจ้าพ่อพะวอขึ้นด้วยความเคารพศรัทธา
เลือกซื้อหลากหลายสินค้าเกษตรที่ตลาดริมเมย
สตรอเบอร์รีสดๆ จากไร่
จากนั้นขับรถข้ามเขาข้ามโค้งซ้ายโค้งขวามาต่อกันที่ “ตลาดสินค้าเกษตรมูเซอ” หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “ตลาดมูเซอ” โดยตลาดมูเซอจะมี 2 จุดใหญ่ๆ คือตลาดเก่าและใหม่อยู่ไม่ไกลกัน ที่นี่เป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าทางการเกษตรของชาวเขาเผ่ามูเซอ ซึ่งมีผลผลิตให้เลือกหลากหลาย ทั้งสตรอเบอร์รี แอปเปิล สาลี่ เมลอน ส้มจีน ทับทิม องุ่น อะโวคาโด และผักอย่างยอดมะระหวาน ฟักแม้ว หน่อไม้ และผักตามฤดูกาลต่างๆ คนผ่านทางมักแวะซื้อผักผลไม้เหล่านี้ติดไม้ติดมือกลับบ้าน
นอกจากนั้นถ้ามาในช่วงหน้าหนาว บริเวณใกล้กับตลาดมูเซอนี้ก็จะมีไร่สตรอเบอร์รีหลายแห่งให้เข้าไปชม เข้าไปเลือกซื้อกันได้อีกด้วย
ต้นกะบากยักษ์ที่อุทยานแห่งชาติตากสิน
ในเขตอำเภอแม่สอดนี้ยังมีอุทยานแห่งชาติถึง 2 แห่งให้เข้าไปเที่ยวชม โดยทั้ง 2 แห่งนี้อยู่บนเส้นทางสายแม่สอด-ตาก แห่งแรกคือ “อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช” ที่มีไฮไลต์อยู่ที่ “ต้นกระบากที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย” โดยมีขนาดลำต้นใหญ่ถึง 16 เมตร ความสูงถึง 50 เมตร เลยทีเดียว และการจะลงไปสัมผัสต้นกระบากยักษ์อย่างใกล้ชิดนี้จะต้องเดินเท้าลงบันไดไปในเส้นทางที่ทางอุทยานฯ ทำไว้ โดยมีระยะทาง 400 เมตร ใครอยากไปชมจึงต้องเตรียมร่างกายให้พร้อม
ส่วนอุทยานอีกแห่งหนึ่งคือ “อุทยานแห่งชาติลานสาง” ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวประเภทน้ำตกที่น่าชมหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกลานสาง น้ำตกลานเลี้ยงม้า น้ำตกผาลาด ฯลฯ อีกทั้งยังมีเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติหลายเส้นทางให้เลือกเดิน เหมาะกับผู้ที่นิยมไพรเป็นอย่างยิ่ง
หลวงพ่อทันใจ ที่วัดไทยสามัคคี
แม่สอด-แม่ระมาด
เรายังคงท่องเที่ยวอยู่ในอำเภอแม่สอด เพียงแต่เปลี่ยนทิศการเดินทางจากตัวเมืองแม่สอดมุ่งหน้าขึ้นเหนือ บนถนนทางหลวงสาย 105 แม่สอด-แม่ระมาดกันบ้าง ในเส้นทางนี้ก็มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่น้อย โดยสถานที่แห่งแรกนั้นคือ “วัดหลวงพ่อทันใจ” หรือ “วัดไทยสามัคคี” ซึ่งอยู่ห่างตัวเมืองแม่สอดมาราว 8 กม. วัดแห่งนี้มี “หลวงพ่อทันใจรัตนมุงเมือง” เป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ในอุโบสถของวัดไทยสามัคคี
ภายในพิพิธภัณฑ์ของวัดไทยสามัคคี
นอกจากนั้นแล้วภายในวัดยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมาย โดยเฉพาะในพิพิธภัณฑ์วัดไทยสามัคคี ที่มีของดีหลากหลายอย่าง ทั้งข้าวของเครื่องใช้ในอดีต และงานประติมากรรมไม้แกะสลักฝีมือเยี่ยมเป็นพุทธรูปและภาพนักษัตรต่างๆ รวมถึงองค์พระพุทธรูปเก่าแก่ก็ถูกเก็บรักษาไว้ที่นี่ด้วยเช่นกัน
บ่อน้ำร้อนแม่กาษา
บ่อแช่เท้าที่บ่อน้ำร้อนแม่กาษา
จากวัดหลวงพ่อทันใจมุ่งหน้าไปอีก 10 กว่ากิโลเมตร ก็จะถึงทางเลี้ยวขวาเข้าไปสู่ “บ่อน้ำพุร้อนแม่กาษา” แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่ออีกแห่งของแม่สอด บ่อน้ำร้อนที่นี่มี 2 บ่อด้วยกัน บ่อหนึ่งมีความกว้างประมาณ 2 เมตร อีกบ่อหนึ่งกว้างประมาณ 1 เมตร อุณหภูมิราว 75 องศาเซลเซียส ทาง อบต.แม่กาษาได้ทำลำธารไว้ให้นั่งแช่เท้ากัน หรือหากใครอยากอาบหรือแช่น้ำแร่ก็มีห้องให้บริการอย่างดี แต่แน่นอนว่าหน้าร้อนแบบนี้คงไม่มีใครอยากแช่น้ำร้อนแน่ๆ แต่ถ้าเป็นช่วงหน้าหนาวแล้วละก็ รับรองได้ว่าที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตแน่ๆ ดูจากบรรดาร้านค้าร้านอาหารในบริเวณบ่อน้ำร้อนที่สร้างไว้มีขนาดใหญ่เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
เด็กๆ เล่นน้ำตกแม่กาษากันสนุกสนาน