นับถอยหลังกันดีกว่ากับงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 43 และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 13 ซึ่งจะจัดในอีกไม่กี่วันนี้ ทางทีมงาน FEEL GOOD ก็รอที่จะเข็นสกู๊ปดีๆ เกี่ยวกับหนังสือให้ท่านผู้อ่านได้เพลิดเพลินกันทั้งในสัปดาห์นี้และสัปดาห์หน้า 
       
       โดยงานนี้เราขอจัดสกู๊ปให้กับเหล่าหนอนหนังสือตัวยงที่ชอบเข้าร้านหนังสือด้วยการสรรหา 10 ร้านหนังสือสุดเจ๋งจากหลากหลายประเทศมาให้ผู้อ่านได้ลองดูว่า ร้านหนังสือของประเทศอื่นนั้นมีดี น่าเข้า และน่าซื้อหาหนังสืออย่างไรกันบ้าง 
          อันดับ 1 
       ร้าน Polare เมือง Maastricht ประเทศ Holland
       
       ร้านหนังสือสุดเก๋แห่งนี้ เดิมเคยเป็นโบสถ์คริสต์นิกายคาทอลิกมาก่อน ตัวโบสถ์มีอายุเก่าแก่ร่วม 700 กว่าปี แต่หลังจากนั้น โบสถ์ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาเป็นร้านหนังสือที่หรูหราที่สุดในดินแดนฮอลแลนด์แห่งนี้ โดยสร้างเป็นบ้านที่มีชั้นวางหนังสือขนาดใหญ่ถึง 3 ชั้น มีบันได ลิฟต์ และทางเดินที่โอ่โถง ถือเป็นสถาปัตยกรรมที่พลิกโฉมหน้าได้สุดยอดจริงๆ แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้มีคนเล่ามาว่า ที่นี่เคยเป็นโรงเก็บจักรยานมาก่อนด้วย สวยๆ แบบนี้เหมาะกับหนังสือมากกว่าเนอะ หนอนหนังสือเห็นด้วยไหม? 
          อันดับ 2 
       ร้าน Librería El Ateneo Grand Splendid เมือง Buenos Aires ประเทศ Argentina
       
        ร้านหนังสือสุดอลังการแห่งนี้ เดิมเคยเป็นโรงภาพยนตร์มาก่อน และหลังจากปิดตัวไป ก็ได้รับบูรณาการให้เป็นร้านหนังสือสุดงดงามคู่บ้านคู่เมืองประเทศอาร์เจนตินา ปัจจุบันภายในร้าน มีหนังสืออยู่มากมายหลายหลาก รวมถึงห้องอ่านหนังสือของที่นี่ ก็ไม่น้อยหน้าใครเหมือนกัน ด้วยการจัด ระเบียงชมภาพยนตร์ (theater boxes) ให้เป็นห้องอ่านหนังสือสุดตระการตา สถานที่นี้จึงคงไว้ซึ่งมนต์เสน่ห์ของโรงภาพยนตร์ได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นเพดาน ผ้าม่าน ที่สียังคงแดงสดอยู่เสมอ พร้อมต้อนรับนักอ่านทุกท่านให้ได้เข้าไปสัมผัส และทุกปีที่นี่จะมีคนเข้ามาเยี่ยมชมเกือบล้านกว่าคน โอ้โห...ไม่เจ๋งจริง คนคงไม่เยอะขนาดนี้ 
          อันดับ 3 
       ร้าน Kid’s Republic เมือง Beijing ประเทศ China
       
        นักอ่านเห็นแล้วจะต้องตาลุกวาว โดยเฉพาะกับเด็กๆ แสนซนที่ไม่อยู่นิ่งทั้งหลาย เพราะพี่จีนจัดร้านหนังสือสายรุ้งเอาใจเด็กๆ ทุกท่านกับร้านหนังสือแห่งนี้ที่จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2005 ด้วยการประดับประดาสถานที่เป็นตัวอักษรสีสันสดใส รวมถึงการออกแบบที่กระตุ้นจินตนาการของเด็กๆ ทำให้ร้านหนังสือแห่งนี้ได้รับความนิยมจากผู้ปกครองและเด็กๆ เป็นอย่างมาก เพราะเขาสามารถเล่นสนุกได้ พร้อมกับอ่านหนังสือที่ตัวเองชอบไปด้วย เรียกได้ว่า ที่นี่คือสวรรค์ของเด็กที่ยอดเยี่ยมมากอีกที่หนึ่งเลยทีเดียว เห็นแบบนี้แล้ว...อยากย้อนกลับไปเป็นเด็กน้อยบ้างจัง 
          อันดับ 4 
       ร้าน Librería Acqua Alta เมือง Venice ประเทศ Italy
       
        กรี๊ด พี่คะ พี่ขา พี่ยกเรือกอนโดล่ามาในร้านหนังสือกันเลยเหรอคะ สุดยอดจริงๆ ซึ่งผู้อ่านจะเห็นร้านหนังสือแบบนี้ได้จากในเมืองเวนิส ประเทศอิตาลีเท่านั้น เพราะเขาแฝงความเก๋ด้วยการนำหนังสือไปไว้ในเรือกอนโดล่าเลย เอากับเขาสิ โดยเจ้าของร้านวัย 70 ปี Luis Frizzio เล่าให้ฟังว่า นอกจากเรือกอนโดล่าแล้ว อาจจะได้เห็นน้องแมวของเขามาป้วนเปี้ยนแถวชั้นหนังสืออีกด้วย รวมไปถึงฝั่งหนึ่งของร้านยังมองเห็นคลองเวนิสได้อีก เรียกได้ว่า มีแต่คุ้มกับคุ้ม จนอยากแพ็คกระเป๋าไปเดี๋ยวนี้เลย... 
          อันดับ 5 
       ร้าน Livraria Lello e Irmao เมือง Porto ประเทศ Portugal
       
        สำหรับแฟนๆ ภาพยนตร์พ่อมดน้อยอย่าง แฮร์รี่ พอตเตอร์ คงจะคุ้นๆ กับร้านหนังสือแห่งนี้กันบ้าง เพราะร้านหนังสือแห่งนี้ใช้เป็นฉากในภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวหลายต่อหลายครั้ง เป็นการตกแต่งร้านโดยใช้สถาปัตยกรรมแบบนีโอ - โกธิค (Neo-gothic) ที่เรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยรายละเอียดมากมาย เช่น เพดานประดับไปด้วยกระจกสี หรือเสาที่มีการทำลายลูกไม้เอาไว้ได้อย่างสวยงาม ซึ่งเมื่อหนอนหนังสือมาถึงจะหลงใหลไปกับเสน่ห์ที่ยากจะลืมเลือนของร้านหนังสือแห่งนี้แน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาวก แฮร์รี่ พอตเตอร์ น่าจะอินกับที่นี่เป็นพิเศษ 
          อันดับ 6
       ร้าน Plural Bookshop เมือง Bratislava ประเทศ Slovakia
       
        ถึงแม้ว่าร้านหนังสือแห่งนี้จะดูเล็กกว่าร้านอื่น แต่ร้านหนังสือดังกล่าว กลับแฝงไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และลูกเล่นมากมายภายในร้าน ซึ่งการออกแบบภายในร้าน เรียกได้ว่า คุ้มค่าทุกตารางนิ้ว ไม่เว้นแม้แต่พื้นไม้ที่คั่นกลางระหว่างชั้นหนังสือ เพราะเขาได้สร้างนวัตกรรมให้พื้นไม้เหล่านั้น เป็นทั้งบันไดและที่นั่งอ่านหนังสือได้อย่างชาญฉลาด พร้อมกับเป็นที่ไว้แลกเปลี่ยน พูดคุย และทำกิจกรรมได้อีกมากมาย รวมไปถึงชั้นบนสุด ยังมีร้านกาแฟไว้รองรับสำหรับลูกค้าผู้ที่ชื่นชอบการดื่มและอ่านหนังสือไปพร้อมๆ กัน พื้นที่แห่งนี้จิ๋วแต่แจ๋วจริงๆ ยกนิ้วให้เลย... 
          อันดับ 7
       ร้าน Librairie Avant-Garde เมือง Nanjing ประเทศ China
       
        ให้พี่จีนเขาอีกร้านแล้วกัน สำหรับปี 2013 เมื่อสำนักข่าว CNN ของประเทศจีนจัดอันดับให้ร้านหนังสือแห่งนี้เป็นร้านหนังสือที่สวยที่สุด แต่กว่าร้านหนังสือนี้จะสวยเหมือนอย่างที่เห็นในภาพ สมัยก่อนสถานที่แห่งนี้เคยถูกใช้เป็นคลังแสงเพื่อเก็บอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ แต่ในตอนนี้มันได้เปลี่ยนสภาพไปแล้ว กลายเป็นร้านหนังสือที่ขายดีที่สุดในประเทศจีน เพราะด้วยสถานที่กว้างใหญ่ไพศาลถึง 4,000 ตารางฟุต ทำให้ร้านหนังสือแห่งนี้มีความโปร่ง โล่งสบาย เลือกซื้อหาหนังสือกันได้อย่างสบายใจ เห็นแบบนี้แล้ว...น่าลองไปเดินดูเหมือนกัน ว่าจะกว้างแค่ไหน 
          อันดับ 8 
       ร้าน Cook & Book เมือง Brussels ประเทศ Belgium
       
       ร้านหนังสือแห่งนี้ตั้งอยู่บนสถานีรถไฟสายหลักของกรุงบรัสเซลส์ ถึงแม้ว่าจะเป็นร้านที่อยู่ใต้ดิน แต่ความเจริดจรัสของร้านนี้ก็แผ่ซ่านขึ้นมาถึงบนดินกันเลยทีเดียว เพราะร้านหนังสือนี้ไม่ได้มีดีแค่หนังสือ แต่ที่นี่ยังเป็นภัตตาคารอาหารขนาดย่อมอีกด้วย เป็นการรวมกันระหว่างอาหารชั้นเลิศและหนังสือชั้นดีเข้าด้วยกัน ไม่แน่ว่า พอผู้อ่านซื้อหนังสือเสร็จ อาจจะหาอะไรรับประทาน และหยิบหนังสือนั้นขึ้นมาก็ได้ ใครจะรู้ เป็นการทำร้านหนังสือที่มองไปถึงผู้บริโภคได้อย่างเฉียบขาดจริงๆ ขอซูฮก... 
          อันดับ 9
       ร้าน Atlantis Books เมือง Santorini ประเทศ Greece
       
        หมู่บ้านเก่าที่ถูกทิ้งร้างไว้บนเกาะ กลายเป็นสถานที่ที่มีมนต์ขลังถึงเพียงนี้เชียวหรือ กับร้านหนังสือแห่งนี้ในประเทศกรีซ โดยผู้ฟื้นฟูหมู่บ้านและเปิดร้านหนังสือขึ้นมา คือสองหนุ่มสาวที่เห็นโอกาสบางอย่างในเกาะแห่งนี้ เนื่องจากพวกเขาคิดว่า มีบางสิ่งบางอย่างดูขาดหายไปจากที่นี่ และนั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการทำร้านหนังสือขึ้น และมันก็ได้กลายเป็นสวรรค์ของนักอ่านและนักเขียนไปโดยปริยาย เพราะที่นี่ผู้อ่านจะได้เห็นวิวสวยๆ ของท้องทะเล และพระอาทิตย์ตกดินสุดแจ่มไปพร้อมๆ กัน อีกทั้งร้านหนังสือยังเปิดเป็นสำนักพิมพ์อีกด้วย โดยทำงานกันอยู่ที่ห้องด้านหลังของร้าน สถานที่อะไรจะวิเศษได้ขนาดนี้... 
          อันดับ 10
       ร้าน Le Bal Des Ardents เมือง Lyon ประเทศ France
       
        อันดับสุดท้ายขอยกให้กับร้านหนังสือลูกไฟแห่งนี้ ที่เรียกว่า ร้านลูกไฟ ก็เพราะว่า ภาษาฝรั่งเศสของชื่อร้านนี้ แปลว่า ลูกไฟ แต่ลูกไฟลูกนี้ก็เป็นลูกไฟที่โอ่อ่าตั้งแต่หน้าร้านเลยทีเดียว กับซุ้มประตูที่เรียงด้วยหนังสือพันกว่าเล่มให้เป็นซุ้มประตูโค้ง เพื่อท้าทายสายตานักอ่านทุกท่านให้เข้ามาสัมผัส และเมื่อเข้าไปแล้ว ผู้อ่านจะได้พบกับหนังสือที่เป็นของนักเขียนอิสระหลายท่าน บางคนคุณอาจจะไม่รู้จัก แต่ที่นี่คือที่ที่อนุรักษ์นักเขียนเหล่านี้เอาไว้ไม่ให้สูญหาย ถึงแม้ว่าหนังสือในร้านจะมีราคาอยู่พอสมควร แต่เพื่อความอยู่รอดของร้านหนังสืออิสระ แพงแค่ไหน หนอนหนังสือทั้งหลายก็จ่ายอยู่แล้ว ว่าไหม? 
          ร้านหนังสือ 10 อันดับนี้ เราคัดแล้วคัดอีกว่า เจ๋งจริง
       แต่ถ้าหนอนหนังสือคนไหนยังจุใจไม่พอ ติดตามต่อกันได้ที่
       
       http://www.lifehack.org/articles/lifestyle/30-most-beautiful-bookshops-around-the-world.html
       
       แล้วคุณจะตกหลุมรักหนังสือ จนถอนตัวไม่ขึ้นเลยแหละ...รับประกัน