เมื่อไหร่ที่เกิดสงคราม แน่นอนว่าต้องมีฝ่ายชนะและฝ่ายที่พ่ายแพ้ แต่ที่น่ากลัวยิ่งกว่ากลิ่นหอมหวานของอำนาจก็คือความจริงที่ว่าความขัดแย้งเหล่านี้ได้ทิ้งบาดแผลอำมหิตไว้ให้แก่ผู้ร่วมรบมากมาย แต่พวกเขากลับถูกโลกลืมเลือน…
ซึ่งภาพเหล่านี้ได้ตีแผ่ผลกระทบที่คนตัวเล็กๆได้รับ ขณะที่ประเทศชาติห้ำหั่นกันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และภาพหดหู่เหล่านี้ก็คือเครื่องเตือนใจสุดสะเทือนจิต ที่ทำให้รู้ว่าสงครามมันอำมหิตแค่ไหน
แม้แต่เด็กบริสุทธิ์ ก็เริ่มเกิดความรู้สึกด้านชาขณะเกิดสงคราม
พลเรือนจำนวนมากต้องสวมหน้ากากเกือบตลอดเวลา เพื่อป้องการการโดนรมแก๊สจากศัตรู ซึ่งแม้มันจะอึดอัดและลำบากแต่พวกเขาก็จำต้องฝืนทน
ในวันแรกที่สงครามอุบัติขึ้น ฝั่งเยอรมันใช้กระสุนตอบปืนโต้ท่าอากาศยานไปกว่า 2,500,000 นัด และนี่คือภาพของปลอกกระสุนเหล่านั้น
ในวันแรกที่อังกฤษสร้างเนินขณะมหึมา พวกเขาได้ลอบวางกับระเบิดไว้กว่า 19 ลูก และในเวลาแค่ 19 วินาทีมันก็สังหารทหารเยอรมันไปกว่า 10,000 ศพ
นี่คือภาพสุดสะเทือนใจของทหารนายหนึ่งที่ถูกฆ่าตาย และกว่าจะถูกพบศพก็หลังจากช่วงที่ม่านหมอกควันจางหายไป ซึ่งที่น่าเศร้าก็คือศพของเขาอยู่ใกล้กับพระเยซูที่ถูกตรึงกางเขน
หลังจากได้รับชัยชนะ ทหารอเมริกันได้นำหมวกของทหารเยอรมันที่ตายกว่า 12,000 ศพมาเรียงเป็นปิระมิด เพื่อประกาศศักดา
ในช่วงสงคราม ทุกสิ่งจะถูกเกณฑ์เข้าสงครามไม่เว้นแม้แต่สุนัขตัวนี้ ที่ถูกบังคับใช้ให้ลากยุทโธปกรณ์
หลังสิ้งสุดสงคราม ช่างจำนวนมากต้องสร้างหน้ากากเพราะทหารมากมายมีใบหน้าที่ผิดเพี้ยนไปตลอดกาล
และนี่คือบาดแผลที่พวกเค้าได้รับจากการต่อสู้เพื่อชาติมหาอำนาจ ซึ่งคำถามที่พวกเขาได้ทิ้งไว้ให้แก่โลกก็คือ สุดท้ายใครกันแน่ที่เป็นผู้ชนะ? หรือสงครามนี้มีเพียงผู้แพ้?