ก่อนถึงวันพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับแรก 2475 เพียงไม่กี่วันนั้น พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 ทรงสั่งให้เจ้าพนักงานยกพระแท่นมนังคศิลาซึ่งเป็นของพ่อขุนรามคำแหงออกไปเสียให้พ้นจากกำแพงพระบรมหาราชวัง จงอย่าได้อัญเชิญพระแท่นองค์นี้มาให้พระองค์ประทับเลย และอย่าได้อัญเชิญพระสังวาลของพระพุทธยอดฟ้าฯใส่พานมาถวายให้พระองค์สวม “เพราะทั้งพ่อขุนรามคำแหง และพระพุทธยอดฟ้าฯ ต่างก็เป็นผู้กอบกู้แผ่นดินและบ้านเมืองให้เป็นปึกแผ่น แต่ตัวของพระองค์เองกลับเป็นผู้ทำให้ต้องเสียไป” จึงไม่สมควรที่จะขึ้นนั่งแล้วเอาของ ๆ ท่านทั้งสองมาใส่
พอถึงเช้าวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 เป็นวันที่รัฐบาลมีหมายกำหนดการให้พระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินมาพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับแรกแห่งราชอาณาจักรไทย ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต ทางรัฐบาลจัดงานได้อย่างยิ่งใหญ่อลังการสมดังกับที่รอคอยการเป็นประชาธิปไตยอย่าง “สมบูรณ์แบบ” พวกเขาต่างพากันคุยซุบซิบอย่างสนุกปากว่า ตอนที่เจ้าพนักงานเชิญรัฐธรรมนูญขึ้นให้ในหลวงทรงเซ็นนั้น พระองค์ทรงพระราชทานเซ็นด้วยพระหัตถ์ที่สั่นๆ แล้วพูดกันต่อไปว่าสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพก็ยืนหน้าซีดเพราะต่างพากันเสียดายอำนาจ......
แต่ความจริงแล้ว เป็นเพราะทั้งสองพระองค์ทรงรู้ว่าเหตุการณ์นี้จะนำพาบ้านเมืองไปสู่ไปสู่ความ...มากกว่าจะดี เมื่อการเป็นเช่นนี้แล้ว ก็เห็นจะหมดสิ้นที่จะกลับไปแก้ไข
เจ้าพระยาวรพงศ์พิพัฒน์ ผู้เป็นเสนาบดีกระทรวงวังในขณะนั้นได้เล่าว่า พอถึงวันพระราชทานรัฐธรรมนูญ พระองค์ก็ประทับเพียงบนพระแท่นมนังคศิลาองค์จำลอง และทรงตรัสอยู่เสมอว่า “ฉันกลัวตายไปเจอปู่ย่าตายายเข้าจริงๆ ท่านคงจะกริ้วว่าฉันรับของท่านไว้ไม่อยู่”
อ้างอิง : สิ่งที่ข้าพเจ้าพบเห็น โดย หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิศกุล
จากภาพด้านบนคือ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 ในพิธีพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับแรก 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต
จากภาพด้านล่างคือ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 ครั้งเสด็จเข้าพิธีบรมราชาภิเษกเป็นพ่ออยู่หัวรัชกาลที่ 7 แห่งพระราชวงศ์จักรี และภาพในขณะที่พระราชทานเซ็นรัฐธรรมนูญฉบับแรกแห่งราชอาณาจักรไทย
ขอบคุณข้อมูลจาก :: คลังประวัติศาสตร์ไทย